5 แนวทางเลือก ร้าน Multi-brand เพื่อเพิ่มกำไรให้แบรนด์ของคุณ
ใครที่ประกอบธุรกิจค้าขายย่อมรู้ดีว่า นอกจาก”ขายอะไร” แล้ว “ขายที่ไหน”ก็สำคัญไม่แพ้กัน
ยิ่งยุคนี้ ใครที่เน้นแค่การขายออนไลน์ ดูเหมือนจะไม่พออีกต่อไป
แบรนด์ที่อยากสำเร็จ ต้องตอบรับความเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคของเหล่าคนยุคใหม่ ด้วยการฝากขายในร้าน Multi-brand
แล้วทำไมต้องร้าน Multi-brand ?
ร้าน Multi-brand เพราะนักช็อปยุคใหม่ชอบหาข้อมูลจากโลกออนไลน์ และไปซื้อสินค้าจากร้านค้าออฟไลน์
ลูกค้าจะมีการวางแผน และตัดสินใจซื้อตั้งแต่ก่อนเดิน
และแน่นอนว่าสาวๆจำนวนไม่น้อย ต้องได้ของติดไม้ติดมือมากกว่าที่ตั้งใจไว้
ยิ่งไปกว่านั้น บางครั้งที่ลูกค้าเห็นแบรนด์ใหม่ๆในร้าน ก็มักจะติดตามแบรนด์นั้นๆต่อในโซเชียลมีเดีย
กระตุ้นต่อมความอยากช็อปแบบไม่จบไม่สิ้น
ดังนั้นการฝากขายสินค้าในร้าน Multi-brand นอกจากให้ลูกค้าได้มาลองสัมผัสสินค้า
และได้สินค้ากลับบ้านทันที แบบไม่ง้อไปรษณีย์ ยังช่วยเพิ่มยอดขายให้แบรนด์ด้วย
จากการสำรวจพบว่า “ค่าใช้จ่าย” ในการซื้อสินค้าที่ร้าน Multi-Brand นั้น มากกว่าการซื้อออนไลน์ถึง 30% เลยทีเดียว
(ที่มา : งานสัมมนา “InStagram – In Stores เปิดเช็คลิสต์ พลิกโอกาส ร้านสินค้าแฟชั่น จาก Online สู่ On Shelves”)
มาถึงตรงนี้ หลายคนคงจะเห็นโอกาสในการเพิ่มยอดขายแล้วใช่มั้ยล่ะ?
คำถามต่อมาคือ”จะฝากขายที่ไหนดี?” ถ้าจะเลือกเพราะความชอบส่วนตัวคงไม่ดีแน่
เพราะร้านนั้นๆอาจไม่เหมาะกับสินค้าของเราก็เป็นได้ ดังนั้นวันนี้เราจะมาแชร์
“5 แนวทางการตัดสินใจ ในการเลือกร้านฝากขาย”
1. เข้าหาลูกค้า
บางสถานที่มีคนเดินเยอะก็จริง แต่คนเหล่านั้นอาจไม่ใช่ลูกค้าของเราก็ได้
ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าผู้คนบริเวณนั้นใช่กลุ่มลูกค้าของเราหรือไม่ โดยการสำรวจว่าคนย่านนั้นเป็นคนประเภทไหน
เช่น อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้ รสนิยม หรือเรียกง่ายๆว่าเป็นข้อมูลทาง Demographic นั่นเอง
ที่สำคัญต้องรู้พฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าด้วย เช่น เลิกงานแล้วชอบเดินช้อปปิ้งไหม แต่ละวันเดินผ่านหน้าร้านเยอะหรือเปล่า เป็นต้น
ฟังดูเหมือนจะเหนื่อยใช่ไหมล่ะ กว่าจะเก็บข้อมูลเหล่านี้ครบ ข่าวดีคือ ร้าน Multi-brand มักจะมีข้อมูลตรงส่วนนี้อยู่แล้ว
เราเพียงติดต่อเข้าไปขอข้อมูลและใช้วิธีสังเกตเพิ่มเติมก็สามารถมั่นใจได้ในระดับนึงแล้วล่ะ
2. สไตล์ตอบโจทย์
“เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว Mass มีแต่ Niche ที่จะเติบโตขึ้น”
ร้าน Multi-brand แต่ละร้านจะมีสไตล์เฉพาะตัวที่ทำมาเพื่อดึงดูดลูกค้าเฉพาะกลุ่มมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นร้านเสื้อผ้าสตรีทแฟชั่น ร้านของแต่งบ้านสไตล์มินิมอลหรือร้านขนมเพื่อสุขภาพ
ร้านเหล่านี้ล้วนแต่มีคอนเซ็ปต์ในตัวสินค้าและการตกแต่งร้านที่แตกต่างกัน
หน้าที่ของเราก็คือต้องมองหาร้านที่สามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าของเราให้ได้
3. วิเคราะห์คู่แข่ง
เรื่องคู่แข่งก็สำคัญ ถ้าทำเลดี สไตล์ตอบโจทย์ แต่ในร้านมีแบรนด์ที่มีสินค้าที่เหมือนหรือคล้ายเราอยู่หลายแบรนด์
ก็ต้องมาคิดว่าจะสู้ไหวหรือไม่ ถ้าสินค้าเราไม่มีความแตกต่างที่ดีกว่าคู่แข่ง สต็อกสินค้าอาจกองเต็มร้านขายไม่ออก
แต่ถ้าเรามั่นใจว่าสินค้าของเรามีความแตกต่างน่าสนใจ การที่มีคู่แข่งเหล่านั้นอาจเป็นตัวช่วยในการดึงดูดลูกค้าให้เราก็เป็นได้
เรื่องคู่แข่งเป็นสิ่งที่เราต้องเจอต้องประสบอย่างแน่นอน ดังนั้นเราต้องพยายามคิดหาทางออกทางแก้เกมไว้ตั้งเนิ่นๆ
4. ค่าเช่าคุ้มค่า
แน่นอนว่าค่าเช่าจะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับทำเลที่เลือก
ค่าเช่าแพง แต่คึกคักและคู่แข่งน้อย ก็มีแนวโน้มที่จะสำเร็จ คุ้มค่ากับการลงทุนมากกว่า
กลับกันถ้าค่าเช่าถูก แต่พนักงานนั่งหาวทั้งวันเพราะไม่มีคนเดิน ไม่มีคู่แข่งที่ช่วยดึงดูดลูกค้า ยอดขายก็คงไม่เป็นที่พอใจนัก
หรือถ้าเราเห็นแก่ค่าเช่าถูก เลือกชั้นวางตรงบริเวณที่สังเกตเห็นยาก ทำเลดี ร้านเดียวกัน แต่ถ้าวางมุมอับ ก็อาจดับในพริบตา
ปัจจัยเหล่านี้ล้วนมีผลต่อยอดขายและความสำเร็จทั้งสิ้น
5. ขยันโปรโมท
ไหนๆจะฝากขายทั้งที อย่าจำกัดทำเลไว้แค่สิ่งที่จับต้องได้ แต่ต้องดูทำเลทางออนไลน์ด้วย
การเลือกร้านที่ทำเลดีสังเกตเห็นง่ายเป็นเรื่องที่ดี เพราะเหมือนได้โปรโมทตลอดเวลา
แต่จะให้ดีกว่าต้องมีการโปรโมททางออนไลน์อย่างสม่ำเสมอควบคู่ไปด้วย
การเลือกร้านที่มีฐานผู้ติดตามในโซเชียลมีเดีย และมีการให้เหล่า Influencer ช่วยโปรโมท
ก็เหมือนเป็นการโฆษณาสินค้าของแบรนด์สู่ผู้บริโภคเป็นวงกว้าง
ยิ่งถ้าผู้ติดตามเหล่านั้นตรงกับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์แล้วล่ะก็ คงต้องระวังเติมสต็อกไม่ทัน ของไม่พอขายกันแล้วล่ะ
หลังจากเรียนรู้แนวทางทั้ง 5 แล้ว หลายๆคนคงจะมีร้าน Multi-brand ผุดขึ้นมาในใจกันบ้างแล้ว
ก่อนตัดสินใจก็อย่าลืมสำรวจให้มั่นใจเสียก่อนว่า ร้านนั้นเหมาะกับแบรนด์ของเราจริงๆ
จากนั้นก็ลุยเลย เพราะโอกาสทางธุรกิจนั้นไม่เคยรอใคร!
ส่วนใครที่ยังไม่มีไอเดียว่าจะไปฝากขายที่ไหนดี สามารถลองใช้ระบบ “Matching” ใน “ReCute Platform”
ในการค้นหาร้าน Multi-brand และร้านรับฝากขายทั่วประเทศ สะดวกสบายด้วยฟังก์ชันระบุตำแหน่งว่างในร้าน
ที่สำคัญฝั่งร้านค้า ก็สามารถค้นเจอและเชิญแบรนด์ต่างๆที่น่าสนใจ เข้าร่วมฝากขายกับทางร้านได้
เรียกได้ว่าเป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมธุรกิจฝากขายอย่างแท้จริง
ดูตัวอย่างการ Matching และการทำงานของ ReCute-Multi-brand Platform ได้ที่นี่
เอาล่ะ…ในเมื่อแนวทางพร้อม! ตัวช่วยพร้อม!
ก็ถึงเวลาที่เราจะลงมือสร้างโอกาส เพิ่มกำไรให้แบรนด์ของเราแล้ว
ที่สำคัญอย่าลืมว่า “จุดเชื่อมต่อของความสำเร็จ คือการลงมือทำ และพยายามอย่างต่อเนื่องและเต็มที่”
สนใจรายละเอียด หรือ ทดลองใช้ฟรี
Tel : 06-5016-2545
Facebook : https://m.me/recutey
Line : https://lin.ee/zPtVO5X
E-mail : [email protected]
Website : www.recutey.com