“New Retail” ร้านค้าในฝันที่ไม่ใช่ฝันอีกต่อไป !?
จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
ผมมีความเชื่อว่า ความคิดของเด็กที่ปราศจากคำว่า “เหตุผล” เป็นแรงผลักดันให้หลายสิ่งหลายอย่างที่เป็น “เป็นไปไม่ได้” ให้ “เป็นไปได้”
เราเคยคิดว่า… เราอยากได้ชุดเกราะที่ใส่แล้วบินได้ทั่วโลก ทั่วจักรวาล
เราเคยคิดว่า… เราอยากจะส่งโทรจิตให้เพื่อนๆ หรือคนอื่นๆ ให้รับรู้ได้
เราเคยคิดว่า… เราอยากฟังเพลงเพราะๆ ได้ตลอดเวลาไม่ว่าอยู่ที่ไหน
เราเคยคิดว่า… เราอยากจะเปลี่ยนโลกใบนี้ให้กลายเป็นโลกที่ไม่มีกฎเกณฑ์
ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังเปลี่ยนไปแล้ว 10 ปี ที่ผ่านมามันเร็วกว่า 10 ปีของ 10 ปีก่อนอย่างมาก
ตัวแปรสำคัญที่นั้นก็คือ “นวัตกรรม และเทคโนโลยี” นั่นเอง
แล้วมีใครเคยบ้างเคยคิดว่า… อยากจะสร้าง “ร้านค้าในฝัน” ที่มีทุกสิ่งทุกอย่างเพียบพร้อม ลูกค้าต้องการอะไรจัดให้ได้ทุกอย่างทันที
ผมเป็นคนหนึ่งครับ ที่เคยฝันอยากจะเป็นเจ้าของร้านแบบนั้น และมันก็กำลังจะไม่ใช่ฝันอีกต่อไปแล้ว
New Retail ของ Alibaba (Freshippo หรือ Hema)
หลายท่านอาจจะทราบแล้ว และบางท่านก็ยังไม่ ดังนั้นผมจะขออนุญาติอธิบาย Concept ของ New retail เสียก่อนนะครับ
คำว่า New Retail เป็นคำที่คุณ Jack Ma ประธานผู้ก่อตั้ง Alibaba ได้กล่าวเอาไว้เมื่อปี 2560
คำจำกัดความของมันคือ ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ที่ “ไม่มีพรมแดนของ Online และ Offline” แต่จะต้องไป “โฟกัสกับความพอใจของลูกค้าแต่ละคน” แทน
ประกอบด้วย Five New
1. New Retail – ค้าปลีกใหม่
2. New Finance – การเงินใหม่
3. New Manufacturing – การผลิตใหม่
4. New Technology – เทคโนโลยีใหม่
5. New Energy – พลังงานใหม่
(ขอบคุณแหล่งที่มาจาก : https://www.etda.or.th/content/alibabas-new-retail-revolution.html)
สรุปให้สั้น และเข้าใจก็คือ คุณ Jack Ma เขาได้มองไปไกลยิ่งกว่า E-commerce ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน มองไปไกลยิ่งกว่าการทำธุรกิจ O2O ที่เชื่อมต่อ Online และ Offline เข้าด้วยกัน
แต่เขามองว่า…
New Retail เหอหม่า จะต้องเป็น Supermarket ศูนย์กลางของการบริโภค โลจิสติก และผสาน Online & Offlineเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ
คุณ Hou Yi ตำแหน่ง CEO ของเหอหม่า supermarket
คุณ Jack Ma ได้ปูทางธุรกิจของเขาให้ใกล้กับคำว่า “ร้านค้าในฝัน” อย่างแท้จริง
ร้านค้าปลีกที่มีการบริหารจัดการแบบ Omni Channel ไม่ว่าจะ Online หรือ Offline
ระบบการชำระเงินที่สะดวก รวดเร็วผ่าน Alipay Platform
สินค้าในชีวิตประจำวัน, อาหารสด, อาหารปรุงสุก ที่สามารถเลือกสั่งได้บน Platform
Facial Recognition ที่เก็บข้อมูล และองค์ประกอบการซื้อของเราทั้งหมดทั้ง Offline และ Online
จะเห็นได้ว่าการทำทุกอย่างให้ครบวงจร ทำให้ธุรกิจได้รับทรัพยากรที่มีค่าที่สุด นั่นคือ Data
ร้านค้าอัจฉริยะที่รู้ความต้องการของเราตลอดเวลา จะ Delivery หรือเดินทางมารับเองก็ได้
นี่ก็ใกล้กับคำว่า “ร้านค้าในฝันมากๆ แล้วนะครับ” นี่ยังไม่นับถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ มากมายนะครับ
ทิ้งท้ายให้เห็นภาพ
ลองจินตนาการดูนะครับ เวลาที่เราเล่น “เกมส์วางแผน” เนี่ย
ถ้าเรามีโปรเปิดแมพ หรือโปรที่เห็นความเคลื่อนไหวของคู่แข่งของเราตลอดเวลา
นั่นจะทำให้เราชนะไปเกินกว่า 50% แล้วครับ คนที่รู้ก่อนย่อมหาวิธีแก้ทางได้เสมอ
ผมจะไม่พูดไกลไปถึง “แผนซ้อนแผน” นะครับ เพราะอีก 50% ที่เหลือนั่นแหละ
คือประสบการณ์ ไหวพริบ โชค และปัจจัยอื่นๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในการทำธุรกิจของเรา
ธุรกิจไม่มีสูตรสำเร็จหรอกครับ แต่สิ่งที่จะทำให้เราได้เปรียบ และใกล้คำว่าสำเร็จก็คือ
“Data และแผนการ นะครับ” ขอให้ทุกๆ คนโชคดีครับ