ในยุคที่โลกโซเชียลและสื่อต่าง ๆ มีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตของคนในสังคม การทำการตลาด (Marketing) ผ่านแพลตฟอร์มช่องทางต่าง ๆ มีให้เลือกอย่างหลากหลาย อีกทั้งยังมีเครื่องมือใหม่ ๆ ที่ช่วยให้การทำการตลาดของคุณง่ายขึ้น แต่คุณทราบหรือไม่ ปัจจัยสำคัญอีกหนึ่งอย่างที่นักการตลาดทั้งหลายไม่ควรมองข้าม ก็คือ “สี” นั่นเอง การเลือกใช้สี นอกจากจะช่วยสื่อถึงอารมณ์ได้ดี สียังสามารถสื่อถึง Branding และสร้าง First impression ให้ลูกค้าต่อแบรนด์ของเราได้อีกด้วย

 

ความสำคัญของ “สี”

ในชีวิตประจำวัน สี เป็นสิ่งแรกที่ต้องพบเจอตั้งแต่ตื่นนอน และเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราเห็นก่อนนอนหลับ รอบ ๆ ตัวเราทุกอย่างล้วนมีสีเป็นองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย สัญญาณไฟจราจร อาหาร เครื่องดื่ม เป็นต้น

นอกจากสีจะเป็นสิ่งที่เราต้องพบเจอในทุก ๆ วัน สีนั้นยังมีอิทธิพลต่อกระบวนการคิด ความจำและการตัดสินใจของเรา รวมทั้งสียังสามารถใช้สื่ออารมณ์ ความรู้สึกให้ผู้รับสารรับรู้ได้อีกด้วย

 

จิตวิทยา การเลือกใช้สี

การเลือกใช้สีที่เหมาะสมในการทำการตลาด อาจส่งผลให้แบรนด์ของเราโดดนเด่นขึ้นมาแตกต่างจากแบรนด์อื่น และยังสามารถส่งสารที่ต้องการให้ผู้รับสารรับรู้ได้อย่างชัดเจน และตรงประเด็น นักการตลาดหลายคนจึงได้ศึกษา และใช้หลักจิตวิทยาสีเพื่อทำการตลาด สร้างการรับรู้และสื่อความเป็นแบรนด์ออกมาให้ลูกค้าได้รับรู้

การเลือกใช้สีนั้นมีผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ การเลือกสีที่ไม่เหมาะสมในการทำคอนเทนต์หรือโลโก้อาจทำให้ลูกค้าไม่เกิดความประทับใจ  หรือสนใจในสิ่งที่เราต้องการจะสื่อ โดยสีนั้นมีอิทธิพลต่อความคิดและพฤติกรรมในการรับข้อมูล ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการตัดสินใจของผู้คน ดังนั้น การศึกษาและเลือกใช้สีที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการทำการตลาดสำหรับแบรนด์

จิตวิทยาการเลือกใช้สี_การเลือกใช้สี_5 เทคนิค การเลือกใช้สีในการทำการตลาดยังไงให้ลูกค้าไม่เมิน

ที่มาจาก oberlo.com

การเลือกใช้สี และการสื่ออารมณ์

เพราะสีแต่ละสีนั้นให้อารมณ์และความรู้สึกที่แตกต่างกัน เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น MultiOne อยากให้เพื่อน ๆ ได้เข้าใจความหมายของสีในการออกแบบแต่ละสีกันก่อน ซึ่งแต่ละสีจะให้ความรู้อย่างไรบ้าง ลองมาอ่านเพิ่มเติมได้เลย

การเลือกใช้สีและการสื่ออารมณ์_ความหมายของสีในการออกแบบ_5 เทคนิค การเลือกใช้สีในการทำการตลาดยังไงให้ลูกค้าไม่เมิน

ที่มาจาก mangozero.com

 

1.สีแดง เป็นสีที่มีความเข้มข้น สื่อได้ถึงความเร่งรีบ กระตือรือร้น ความตื่นเต้น ความหลงใหลและอันตราย หากต้องการเพิ่มความดึงดูดและสะดุดตา การใช้สีแดงจึงเป็นสีที่เหมาะสมเพราะจะช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดให้มากขึ้น เรามักจะพบเห็นบ่อยจากป้าย Sale, Promotion ซึ่งต้องยอมรับว่า เมื่อเห็นป้ายหรือตัวหนังสือสีแดงในห้างสรรพสินค้า คนส่วนใหญ่มักจะโฟกัสที่ป้ายนี้เป็นอันดับแรกๆ 

สีแดง_ความหมายของสีในการออกแบบ_5 เทคนิค การเลือกใช้สีในการทำการตลาดยังไงให้ลูกค้าไม่เมิน

2.สีฟ้าหรือสีน้ำเงิน เป็นสีที่มองแล้วให้ความรู้สึกสบายตา สื่อได้ถึงสันติภาพ และความสงบ สีนี้จึงเหมาะกับธุรกิจที่ต้องการให้ความรู้สึกถึงความมั่นคง ความไว้วางใจ ความน่าเชื่อถือ ความภาคภูมิใจ และความสำเร็จ เราจึงมักเห็นบริษัท สถาบันการเงิน ภาคสุขภาพ และธุรกิจขนาดใหญ่ เลือกใช้สีฟ้าหรือน้ำเงิน อย่างไรก็ตาม สีฟ้าหรือสีน้ำเงินก็อาจสื่อได้ถึงอารมณ์ในด้านลบเช่นกัน นั่นก็คือ อารมณ์เศร้าหมอง หดหู่นั่นเอง

สีน้ำเงิน_ความหมายของสีในการออกแบบ_5 เทคนิค การเลือกใช้สีในการทำการตลาดยังไงให้ลูกค้าไม่เมิน

3.สีเขียว เป็นสีที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ สามารถเชื่อมโยงไปถึงสุขภาพ และการเงิน การเจริญเติบโต ความอุดมสมบูรณ์ และสดชื่น เป็นสีที่ให้ความรู้สึกในเชิงบวก เพราะแสดงถึงความลื่นไหล เอื้ออาทร จึงเหมาะกับบริษัทหรือองค์กรที่ต้องการสื่อภาพลักษณ์ที่ดีเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม หรือด้านการเงิน 

สีเขียว_ความหมายของสีในการออกแบบ_5 เทคนิค การเลือกใช้สีในการทำการตลาดยังไงให้ลูกค้าไม่เมิน

4.สีส้ม เป็นสีที่สื่อถึงความคิดสร้างสรรค์ เป็นกันเอง ความสมดุล ความกระตือรือร้น และช่วยเพิ่มความสนุกสนานให้กับรูปภาพหรือสื่อต่าง ๆ ได้ดี ตัวอย่างการใช้สีส้มโดยแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชื่อดังอย่าง Shopee ซึ่งจะสื่อได้ถึงความสุข สนุกสนานในการช็อปปิ้ง เพราะไม่ว่าต้องการซื้อสินค้าชนิดใด ก็สามารถเลือกซื้อได้จาก Shopee แพลตฟอร์มด้านเพลงอย่าง Sound Cloud หรือ แพลตฟอร์มชื่อดังอย่าง Reddit

สีส้ม_ความหมายของสีในการออกแบบ_5 เทคนิค การเลือกใช้สีในการทำการตลาดยังไงให้ลูกค้าไม่เมิน

5.สีม่วง เป็นสีที่เป็นได้ทั้งสีโทนร้อน และโทนเย็น ซึ่งสีม่วงเองจะแสดงได้ถึงความหรูหรา มีพลัง อำนาจ ความมั่นคง มั่งคั่งและสง่างาม หากเลือกโทนสีม่วงดี ๆ จะช่วยส่งผลทางความรู้สึกให้เป็นในทางหรูหรา สินค้ามีคุณค่า ราคาแพง แต่สีม่วงก็อาจสื่อได้ถึงความโศกเศร้า ความอ่อนไหวได้ด้วยเช่นกัน ตัวอย่างการใช้สีม่วงกับแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเกมชื่อดังอย่าง Twitch

สีม่วง_ความหมายของสีในการออกแบบ_5 เทคนิค การเลือกใช้สีในการทำการตลาดยังไงให้ลูกค้าไม่เมิน

6.สีเหลือง เป็นสีที่แสดงอารมณ์ได้อย่างหลากหลาย ทั้งสนุกสนาน มั่นใจ ความสุข และการมองโลกในแง่ดี แต่สีเหลืออาจสื่ออีกนัยได้ถึงการเตือน ข้อควรระวัง การหลอกลวง และสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง แต่หากใช้สีเหลืองในโทนที่เหมาะสม ก็สามารถสื่อได้ถึงความหรูหรา ความมั่นคง และความปลอดภัยได้เช่นกัน ตัวอย่างการใช้สีเหลืองในป้ายจราจร ป้ายเตือน ป้ายบอกทาง ตัวอย่างเช่นแพลตฟอร์มแชทที่มีคนใช้มากมายอย่าง Snapchat

สีเหลือง_ความหมายของสีในการออกแบบ_5 เทคนิค การเลือกใช้สีในการทำการตลาดยังไงให้ลูกค้าไม่เมิน

7.สีชมพู เป็นสีที่มักใช้สื่อถึงผู้หญิงและความรัก ความหมายโดยทั่วไปอาจแสดงได้ถึงความสุข ความอิ่มเอม ความสนุกสนาน ความซุกซน และความสดใส แบรนด์สินค้าหรือสื่อในหลาย ๆ แบรนด์ มักใช้สีชมพูเพื่อสื่อถึงผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ คอนเทนต์หรือโลโก้ ซึ่งสีชมพูจะสื่อให้รู้สึกถึงความอ่อนโยน อ่อนเยาว์ อ่อนหวานและนุ่มนวมมากกว่าสีอื่น ๆ  

สีชมพู_ความหมายของสีในการออกแบบ_5 เทคนิค การเลือกใช้สีในการทำการตลาดยังไงให้ลูกค้าไม่เมิน

8.สีดำ เป็นสีที่แสดงถึงความสงบ ลึกลับ อำนาจ เป็นจริงเป็นจัง สง่างาม ความซับซ้อน และทางการ อาจจะแสดงได้ถึงความเรียบแต่หรู ไม่เยอะและดูดีได้เช่นกัน แต่บางบริบทอาจสื่อได้ถึงการไว้อาลัย ความเศร้าโศก ตัวอย่าง แบรนด์ Chanel หรือ Nike ใช้สีดำเป็นโลโก้และใช้ภาพสไตล์ขาวดำในการคงเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งแม้จะดูเรียบง่าย แต่ก็คงความหรูหราเอาไว้ตาม Concept ของแบรนด์ที่มีความ Luxury 

สีดำ_ความหมายของสีในการออกแบบ_5 เทคนิค การเลือกใช้สีในการทำการตลาดยังไงให้ลูกค้าไม่เมิน

9.สีขาว เป็นสีที่สื่อได้ถึงความดี แสงสว่าง ความไร้เดียงสา ความสะอาด นอบน้อม และบริสุทธิ์ ซึ่งสีขาวนั้น ยังสื่อได้ถึงโรงพยาบาล การปลอดเชื้อ ความสมบูรณ์แบบ และการแต่งงานได้ด้วยเช่นกัน โดยการใช้สีขาวมักจะใช้กับสีอื่นๆ ร่วมด้วย

สีขาว_ความหมายของสีในการออกแบบ_5 เทคนิค การเลือกใช้สีในการทำการตลาดยังไงให้ลูกค้าไม่เมิน

อย่างไรก็ตาม จิตวิทยาสีเป็นเรื่องที่สื่อถึงความรู้สึก และความคิดเห็นส่วนบุคคลมากกว่า ในแต่ละบุคคล เมื่อมองสีเหมือนกันอาจมีความรู้สึกที่แตกต่างกัน การรับรู้ และความชอบในสีต่าง ๆ ล้วนเป็นความชอบ และความคิดเห็นในแต่ละบุคคล โดยแต่ละบุคคลอาจมีความชอบที่เหมือน หรือแตกต่างกันออกไป ดังนั้น การเลือกใช้สี จึงไม่มีถูกผิด แต่ควรเลือกตามความเหมาะสมและสามารถสื่อสารได้อย่างตรงจุด เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจสารที่เราต้องการจะสื่ออย่างถูกต้อง ชัดเจน และจดจำได้ง่าย

 

การเลือกใช้สี ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย

โดยส่วนใหญ่ ผู้หญิงจะมีการรับรู้ความละเอียดและอ่อนไหวมากกว่าผู้ชาย ดังนั้นผู้หญิงจึงมักชอบการใช้สีสันมากกว่า ในขณะเดียวกัน ผู้ชายจำนวณมากจะชื่นชอบสีและสไตล์ที่เรียบ ๆ มากกว่า แต่หากต้องการใช้สีที่เป็นเซฟโซนที่สุด สีน้ำเงินก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ คนส่วนใหญ่มักเลือกสีน้ำเงินเป็นสีที่ให้ความรู้สึกปลอดภัยและสบายใจในการใช้มากกว่าสีอื่น ๆ 

การเลือกใช้สีกับธุรกิจ เราจำเป็นต้องทราบว่าต้องการสื่อไปถึงกลุ่มลูกค้ากลุ่มไหน เช่น สินค้ากลุ่มเด็กเล็ก แม้จะถูกผลิตมาเพื่อกลุ่มเด็กน้อย แต่อย่าลืมว่าคนที่เลือกสินค้านั้นคือพ่อแม่ของเด็ก ๆ ดังนั้น นอกจากสินค้าจะให้ความรู้สึกสดใส สินค้าต้องแสดงออกได้ถึงความน่าเชื่อถือ หากเน้นสีสันที่ดูสดใสและฉูดฉาดจนเกินไป อาจทำให้พ่อแม่หลายรายเกิดความไม่มั่นใจในการเลือกซื้อสินค้าเพราะกลัวจะไม่ปลอดภัยต่อลูกน้อยนั่นเอง 

 

สร้างจุดยืนและภาพจำ

เพื่อให้ลูกค้าสามารถจดจำแบรนด์หรือสินค้าได้มากขึ้น การใช้ชุดสีเดิมซ้ำ ๆ จะช่วยเพิ่มเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์คุณ เมื่อลูกค้าเห็นโพสต์หรือคอนเทนต์ผ่านตาบ่อย ๆ ก็จะเกิดความคุ้นชินและจดจำแบรนด์ของคุณได้ ในการกำหนดชุดสี นอกจากจะเป็นการกำหนด theme ของคอนเทนต์ให้เป็นในทิศทางเดียวกันแล้ว ยังช่วยให้คอนเทนต์ของคุณน่าสนใจและเพิ่มภาพจำที่ดีให้แบรนด์ของคุณอีกด้วย 

ตัวอย่างการใช้ชุดสีที่น่าสนใจของ BLACKPINK ซึ่งคอนเทนต์โดยส่วนใหญ่เน้นการใช้สีดำกับชมพูอันเป็นเอกลักษณ์ของ BLACKPINK นั่นเอง เมื่อเลื่อนผ่านหรือเห็นโพสต์ สิ่งที่จะทำให้สะดุดตาโดยง่ายก็คือโลโก้กับโทนสีของคอนเทนต์ที่จะสื่อเฉพาะถึงตัววง ถึงแม้จะเห็นผ่าน ๆ ตาก็สามารถจดจำได้โดยง่าย เพราะ Concept สีดำกับชมพูของ BLACKPINK นั่นเองสร้างจุดยืนและภาพจำ_ความหมายของสีในการออกแบบ_5 เทคนิค การเลือกใช้สีในการทำการตลาดยังไงให้ลูกค้าไม่เมิน

ภาพจาก Instagram : blackpinkofficial

 

เน้นความสำคัญได้ง่าย ๆ ด้วยสี

แม้ว่าการคุมโทนสีนั้นจะสำคัญ แต่อย่าลืมว่าเป้าหมายหลักคือการขายสินค้าหรือแบรนด์ให้ลูกค้า ดังนั้นจะทำอย่างไรเพื่อให้ลูกค้าตอบสนองสิ่งที่เราขายได้อย่างเหมาะสมที่สุด ก็คงจะหนีไม่พ้นหลักการใช้สีที่เรียกว่า Accent 

การใช้สี Accent ก็เหมือนการใช้ปากกาเน้นข้อความ ซึ่งจะเป็นการเน้นน้ำหนักโดยใช้สีที่แตกต่างมาช่วยเพิ่มความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นนั่นเอง ในการสร้างคอนเทนต์ นอกจากจะมีสีหลักอย่างน้อยหนึ่งสีแล้วก็ควรจะมีสี Accent ที่จะช่วยเพิ่มความโดดเด่นสะดุดตาให้คอนเทนต์ของคุณ โดยส่วนใหญ่มักจะใช้สี Accent เพื่อเน้นข้อความที่เป็น Keyword นั่นเอง

เน้นความสำคัญของสี_ความหมายของสีในการออกแบบ_5 เทคนิค การเลือกใช้สีในการทำการตลาดยังไงให้ลูกค้าไม่เมิน

ที่สำคัญอย่าลืมเรื่องฟังก์ชันการใช้งาน ที่ต้องการจะสื่อกับลูกค้า

การทำสื่อกราฟฟิกให้น่าสนใจ และดึงดูดสายตากลุ่มลูกค้านั้นสำคัญ แต่ก็ต้องคำนึงถึงเรื่องความอ่านง่ายด้วย สีตัวหนังสือและพื้นหลังต้อง contrast กันมากพอ ถ้าไม่มั่นใจจริงๆ พยายามอย่าเลือกสีคู่ตรงข้ามมาอยู่ด้วยกันแบบตรงๆ เพราะเวลามองสายตาจะล้ามาก จะทำให้ลูกค้าที่เห็นรู้สึกสนใจเนื้อหาน้อยลง

จุดสำคัญอีกจุดที่มองข้ามไม่ได้เลยก็คือการเลือกโทนสีของแบรนด์ ซึ่งก็ควรเลือกชุดสีหลัก และโทนสีรอง สีพื้นหลัง ที่สำคัญอย่าลืมเลือกสีที่ใช้เน้น (accent color) เอาไว้ให้ครบถ้วน ซึ่งเวลาเลือกใช้สีตาม ห้ามเลือกสีจาก color swatch เองใหม่เด็ดขาด

และท้ายสุดนี้ แม้ว่าคุณจะไม่ใช่ดีไซน์เนอร์ แต่การรู้เรื่องพื้นฐานเหล่านี้ก็สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นนักการตลาดหรือผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของบริษัทที่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ หรือทำงานร่วมกับกราฟฟิกดีไซน์ ที่มักจะนำหลักการเรื่องการใช้สีเข้ามาพัฒนาการใช้สื่อทางการตลาดให้มีประสิทธิภาพ สื่อเรื่องราวและความรู้สึกได้อย่างชัดเจน

 

บทความแนะนำ

7 ไอเดีย การสร้าง Content บน Social Media ให้หลากหลาย

5 กลยุทธ์จัดโปรโมชั่นเรียกลูกค้า “แบบไม่ลดราคา”

เรียนรู้และเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภค ผ่านเครื่องมือตัวช่วยทำการตลาดออนไลน์

ระบบจัดการร้านค้ามัลติแบรนด์ และร้านค้ารับฝากขาย

MultiOne Platform เพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจคุณ

 

แพลตฟอร์มระบบจัดการร้านมัลติแบรนด์ ร้านค้าปลีก และร้านค้ารับฝากขายสินค้าจากหลายแบรนด์ ที่จะมาช่วยให้การจัดการร้านค้าสะดวกสบายขึ้น ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากหลายขั้นตอน ลดความผิดพลาดการจัดการสินค้า เพิ่มรายได้ และประเภทของสินค้าภายในร้าน จากการรับฝากขายสินค้าจากแบรนด์ดังในระบบ

แหล่งพบปะของร้านค้าออนไลน์ และออฟไลน์ พาร์ทเนอร์ที่ช่วยให้คุณขายได้มากขึ้น ผ่านการฝากขายยุคใหม่

การันตีด้วยพาร์ทเนอร์ร้านค้าดัง ขายดีที่ใช้ระบบมากกว่า 30 ร้านค้า และแบรนด์ดังที่ฝากขายผ่านระบบมากกว่า 2,000 แบรนด์

ระบบฟังก์ชันหลักสำหรับร้านค้าพาร์ทเนอร์ของ MultiOne ที่ช่วยให้การบริหารจัดการร้านค้าเป็นเรื่องง่าย 

 

  • ระบบ POS แคชเชียร์และจัดการร้านค้าใช้งานง่าย
  • จัดการสต็อกสินค้า แยกรายแบรนด์ เช็คสะดวก
  • ร้านจัดการส่วนลด โปรโมชั่นร่วมกับแบรนด์ได้หลากหลาย
  • ออกบาร์โค้ด เชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องยิงบาร์โค้ด
  • มีระบบการใช้งานสำหรับพนักงาน
  • ออกเอกสารทางบัญชี
  • ระบบ Import Export ข้อมูล
  • จัดการข้อมูลลูกค้า และสินค้า
  • ระบบวิเคราะห์ข้อมูลยอดขายรายวัน รายเดือน แยกรายแบรนด์
  • วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและช่องทางจำหน่าย

และเรายังมีฟังก์ชันอีกมากมายสำหรับแบรนด์สินค้าที่มาลงฝากขาย ด้วยระบบที่ออกแบบมาให้ร้านค้าเจอกับแบรนด์ง่ายขึ้น ลดขั้นตอนการส่ง เช็ค และจัดการสินค้าฝากขาย ร้านค้าสามารถเลือกพาร์ทเนอร์ที่เหมาะสมกับหน้าร้านของคุณได้ง่าย ๆ ผ่านระบบบนแพลตฟอร์มของเรา

 

สนใจเป็นร้านค้าพาร์ทเนอร์ คลิกที่นี่ 

สนใจลงฝากขายสินค้า คลิกที่นี่ 

หรือ INBOX สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยที่ MultiOne 

 

Learn More

อย่างที่เราทราบกันดีว่า ธุรกิจร้านค้าเป็นเป้าหมายของใครหลายๆคนที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจ เพียงแค่มีเงินทุน มีพนักงาน มีทำเลที่ตั้ง ก็สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้แล้ว ปัจจุบัน ก่อนเปิดร้านขายของ ในยุคใหม่นั้น จะต้องมีการผสมผสานระหว่างแบบออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อมอบความสะดวกสบายและประสบการณ์ให้แก่ลูกค้าได้มากที่สุด แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่าเทรนด์ร้านขายของออนไลน์ได้รับความนิยมและมีจำนวนที่มากขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ควรเปิดหน้าร้านเอง เพราะยังมีลูกค้าบางกลุ่มที่ชอบเลือกดูสินค้าจากการดู สัมผัสโดยตรง และเดินช้อปปิ้งไปเรื่อยๆ 

 

 

“ ก่อนจะเริ่มต้น เปิดร้านขายของ ต้องรู้อะไรบ้าง ควรศึกษาอะไรเพิ่มเติมบ้าง หากไม่อยากเปิดมาแล้วขาดทุนต้องทำยังไง ? ”

 

แต่ในโลกแห่งความจริง การจะทำธุรกิจร้านขายของ หากต้องการให้ประสบความสำเร็จ ต้องมีการวางแผนที่ดีตั้งแต่ก่อนเปิดร้าน ไม่เช่นนั้นโอกาสที่ธุรกิจจะปิดตัวลง และไปต่อไม่ไหว มีค่อนข้างสูงกว่าการสำเร็จในการเปิดร้าน

 

1.เลือกคอนเซปต์ของร้านค้าตัวเอง

ก่อนเริ่มต้นเปิดร้าน สิ่งที่เจ้าของร้านควรพิจารณาเป็นลำดับแรก คือ การมีคอนเซปต์ของร้านที่ชัดเจนตั้งแต่แรก เพื่อหาสินค้าและแบรนด์ ที่คอนเซปต์ตรงกัน ซึ่งจะช่วยให้การวางแผนในขั้นตอนอื่นๆทำได้ง่ายขึ้น การที่ร้านขายของมีคอนเซปต์เป็นของตัวเองทำให้ง่ายต่อการจดจำ ตั้งแต่สไตล์การออกแบบ การตกแต่งร้าน การเลือกบรรยากาศภายในให้เหมาะสมในยุคนี้การสร้างร้านค้าให้มีความแตกต่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ จะสามารถดึงดูดความสนใจจากลูกค้า ช่วยให้เราสามารถทราบกลุ่มลูกค้าของเราได้อย่างชัดเจน และสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง

 

2.การวางผังร้านให้ดึงดูดลูกค้า

การวางผังร้านค้าที่ดีถือเป็นองค์ประกอบสำคัญ ก่อนเปิดหน้าร้านขายของ ในการจัดการร้านค้าให้มีประสิทธิภาพได้ 

หลักการออกแบบร้านที่จะนำมาแนะนำ คือ หลักการออกแบบร้านค้าแบบ “อิสระ” การวางผังร้านแบบนี้จะไม่ได้บังคับให้ลูกค้าเดินไปในทางใดทางหนึ่งอย่างชัดเจน แต่ส่วนมากจะเน้นไปที่ความสบายใจของลูกค้า ซึ่งการจัดร้านแบบนี้จะกระจายตัว ทำให้ร้านดูสบายตา มีพื้นที่มากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะสร้างประสบการณ์ในการช้อปปิ้งที่ดีแก่ลูกค้า

 

3.การเลือกทำเลที่ตั้ง 

การเลือกทำเลที่ตั้ง มักเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ผู้ประกอบการต้องพบเจออยู่บ่อย ๆ ก่อนเปิดร้านขายของ การมองหาทำเลที่ดี เหมาะสมกับหน้าร้าน ควรเป็นที่เดินทางสะดวก ไม่ยุ่งยากและมีที่จอดรถเพียงพอสำหรับลูกค้า อย่างไรก็ตามอย่าลืมเช็คดูว่ามีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายชัดเจนหรือเปล่าในบริเวณนั้น เพราะถึงแม้ว่าทำเลจะดีแค่ไหนแต่กลุ่มเป้าหมายไม่ตรง อาจทำให้มีจำนวนลูกค้าที่ไม่มากเท่าที่ควร เช่น การเปิดร้านประเภท stationery บริเวณสถานศึกษาจะดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ชัดเจนกว่าแหล่งตลาด และสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามสุดท้าย คือ การสำรวจก่อนว่ามีคู่แข่งมาก-น้อยแค่ไหนในบริเวณนั้น ๆ จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ว่าควรเลือกทำเลไหนที่ตอบโจทย์มากที่สุด

 

4.คาดการณ์ปริมาณของลูกค้าก่อนเปิดร้านขายของ

คุณลองสังเกตดูว่าทำเลที่คุณ กำลังจะเปิดร้านขายของ นั้นสินค้ามีความตอบโจทย์กับลูกค้าในพื้นที่มาก-น้อยเพียงใด ทำเลที่เปิดมีความเหมาะสมหรือเปล่า และปริมาณลูกค้าที่เข้าร้านอยู่ที่จำนวนเท่าไหร่ ต้องอย่าคาดการณ์ด้วยความรู้สึกเพราะอาจได้ข้อมูลที่ผิดเพี้ยนจนลูกค้าลดลงได้ ธุรกิจที่ดีควรมีข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจ ดังนั้นก่อนเปิดร้านค้า ควรศึกษาพฤติกรรมของลูกค้า รายได้ของลูกค้า ในทำเลที่คุณเปิดร้านเพื่อให้มีข้อมูลที่แม่นยำ และนำมาวิเคราะห์ต่อว่าสินค้าประเภทไหนสร้างยอดขายได้มากที่สุด โดนใจที่สุด หรือต้องการให้บริการเสริมอะไรจึงจะขายได้กำไร โดดเด่น และได้รับความสนใจจากลูกค้าได้มากที่สุด

5.วิเคราะห์ความเป็นไปได้ด้วยแผนธุรกิจ

การศึกษาความเป็นไปได้ของธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ก่อนการจะเปิดหน้าร้าน เจ้าของกิจการต้องวิเคราะห์ความเป็นไปได้ทางการตลาด วิเคราะห์ความเป็นไปได้ทางการเงินในร้าน เป้าหมายที่ชัดเจนและความสามารถในการแข่งขัน การมีการวางแผนที่ดีตั้งแต่แรกสามารถทำให้เราได้เปรียบคู่แข่ง วิเคราะห์จุดแข็ง-อ่อน ของตัวเอง และคู่แข่ง เพื่อหาความโดดเด่นของธุรกิจเรา ดังนั้นเมื่อศึกษาความเป็นไปได้ของแผนธุรกิจเราแล้ว จะต้องคิดในแง่ของ ยอดขายที่ได้ กำไร การคืนทุน และความพึงพอใจของลูกค้า

 

6.ขายสินค้าในราคาที่เป็นธรรม 

ทุกคนล้วนก็ชอบแต่ของดีมีคุณภาพ ในราคาที่จับต้องได้ง่ายกันทั้งนั้น การตั้งราคาที่สูงเกินไปจึงไม่ใช่เรื่องที่ดีนักเมื่อเปิดร้านและก็ไม่ควรตั้งในราคาที่ต่ำเกินไป จะได้ไม่ขาดทุน ในช่วงแรกก่อนเปิดร้านค้า การศึกษาตลาดเพื่อนำมาตั้งราคาสินค้าในราคาที่เป็นธรรมกับลูกค้าจึงเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพอีกวิธีหนึ่งในการตั้งราคาขาย ลองหาราคาสินค้าโดยเฉลี่ย เปรียบเทียบราคาสินค้าประเภทเดียวกันทั้งจากทำเลใกล้ๆ ราคาออนไลน์ และศึกษาจากคู่แข่งเพื่อสำรวจราคา จากนั้นตั้งราคาเฉลี่ยกลาง ๆ ให้ใกล้เคียงเพื่อให้ราคาสมเหตุสมผลกับคุณภาพของสินค้าที่มีจะช่วยให้ร้านของคุณน่าสนใจมากขึ้นในมุมมองของลูกค้าและทำให้ลดความเสี่ยงต่อการขาดทุนอีกด้วย 

 

7.การเลือกซื้อจากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ

ก่อนผลิตสินค้านั้น นอกจากคุณภาพของสินค้าที่ก่อนสั่งต้องดูตัวอย่างและมีการเช็คอย่างละเอียดแล้ว ร้านค้าต้องมั่นใจในระดับหนึ่งในการเลือกผู้ผลิตที่มีประสิทธิภาพ และความน่าเชื่อถือ ซึ่งอาจมีการทำสัญญาสั่งซื้อที่มีข้อกำหนดชัดเจน มีการผลิตสินค้าครบตามจำนวน และส่งมาให้ตรงตามระยะเวลาที่กำหนด เพราะหากหน้าร้านเกิดขายดีขึ้นมาแล้วสินค้าหมด แล้วผู้ผลิตไม่ส่งสินค้ามาเติมเป็นเวลานาน เลทจากระยะเวลาที่กำหนดหลังการสั่งซื้อ ร้านอาจขาดรายได้ และอาจถึงกับต้องปิดร้านชั่วคราว หากสินค้าในร้านมีน้อยเกินไป ดังนั้นข้อหลักๆ ที่ร้านค้าควรคำนึงถึงก่อนตัดสินใจสั่งซื้อ หรือผลิตสินค้ากับที่ไหนมีทั้ง คุณภาพ ความคุ้มค่า ความสะดวก ความน่าเชื่อถือ และการรักษาคุณภาพการผลิตไม่ให้ลดลง ซึ่งก็ต้องมีการประเมินควบคู่ไปกับการคาดการณ์จำนวนยอดขายสินค้าส่วงหน้าด้วย โดย MultiOne เรามีระบบรายงานยอดขายแบบ Real-time ที่ช่วยให้ทั้งหน้าร้านค้าและแบรนด์ที่ฝากขายวิเคราะห์ได้ว่า สินค้าไหนไกล้หมดควรสั่งเพิ่มในตอนไหน และสินค้าไหนขายไม่ดีบ้าง เพื่อวิเคราะห์ว่าทำไมถึงขายไม่ดี ควรพัฒนาสินค้าไปในทิศทางไหน 

การรับฝากขายสินค้าผ่านระบบ MultiOne นั้นยังช่วยลดความเสี่ยงในการลดทุนผลิตสต๊อกสินค้าจำนวนมากจากการฝากขายสินค้าจากแบรนด์ออนไลน์ เพราะการรับฝากขายนั้นนอกจากจำได้เปอร์เซ็นจากกำไรที่ขายได้แล้ว ยังมีโอกาสได้ค่าเช่าที่เพื่อลงฝากขาย ทำให้ร้านค้ารู้ว่า ลูกค้าประจำชอบสินค้าประเภทไหน สินค้าขายดี ก่อนตัดสินใจลงทุนเพิ่มเติมด้วย

 

8.การจัดการวางแผนการทำงานและจำนวนของพนักงาน

จัดว่าเป็นปัญหาหลักข้อนึงสำหรับร้านค้าที่เปิดใหม่ ที่มีระยะเวลาการเปิดร้านนานๆ ซึ่งต้องมีการจ้างงานหลายกะในการขายของและเผื่อสำรองหากพนักงานลาป่วย หรือลาออก ซึ่งต้องคำนึงถึงระยะเวลาในการจ้างพนักงานพาร์ททาม และการเทรนพนักงานให้ได้มาตรฐานการทำงาน การบริการในระดับตามที่ต้องการ ในการกำหนดงบประมาณว่าร้านค้าควรจ้างพนักงานมากแค่ไหนรวมแล้วนั้นไม่ควรเกิน 20% ของรายได้ต่อเดือนจากยอดขาย ซึ่งก็ต้องมีการประเมินจากจำนวนงานโดยรวมที่ได้รับ ขนาดร้าน และลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการต่อวันด้วยว่า ก่อนเปิดร้านค้า นั้นมีการคาดการณ์จำนวนงาน และผู้เข้ามาใช้บริการเท่าไหร่ และเพิ่มขึ้นหลังจากเปิดใช้บริการเท่าไหร่ ต้องการพนักงานเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ตามการเติมโตของร้านค้า

 

9.การวางแผนการตลาด

ก่อนการจะเปิดร้านค้านั้น การวางแผนการตลาดให้เหมาะสมกับร้านค้านั้นเป็นเรื่องสำคัญที่ขาดไม่ได้ ซึ่งในจุดที่บริษัทส่วนมากมักทำพลาดนั้นคือการกำหนดงบการตลาด และกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน ซึ่งต้องวางแผนล่วงหน้าและกำหนดรูปแบบสื่อให้ชัดเจนเช่น ทำสื่อแบบไหนในการทำโพสประจำ จ้างอินฟลูเอนเซอร์คนไหนจะส่งผลให้ยอดขายดีขึ้น จัดโปรโมชั่นยังไง ช่องทางไหนที่กลุ่มลูกค้าที่มีโอกาสซื้อสินค้ามากที่สุดใช้งาน ใช้งานในช่วงเวลาไหนบ่อยที่สุด ซึ่งต้องมีการจัดสรรงบประมาณในด้านต่างๆให้เหมาะสมในระยะยาว ดังนั้นการทำแผนการตลาดจึงควรทำออกมาเป็นแผนประจำวัน ประจำเดือน และประจำปี พร้อมทั้งกำหนดเป้าหมายของแต่ละแคมเปญหรือคอนเทนต์ให้ชัดเจน

 

10.การลองทดสอบใช้ระบบจริง 

ก่อนเปิดให้บริการขายจริง ร้านค้าควรทดสอบใช้งานระบบทุกอย่างเสมือนเปิดร้านจริง เพื่อทดสอบว่าระบบต่างๆ ว่ามีจุดไหนที่ยังไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานที่ตั้งไว้อีกบ้าง และมีจุดไหนที่ต้องปรับให้เข้ากับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ หรือจุดไหนที่ต้องการพัฒนาให้เข้ากับร้านค้า ทำให้การให้บริการไม่ติดขัด 

ซึ่งในจุดนี้หากเป็นพาร์เนอร์ของ MultiOne สามารถหมดห่วงไปได้เลยเพราะว่าหลังจากสมัครเป็นพาร์เนอร์กับระบบ MultiOne แล้ว เราจะมีแถม Demo account เพื่อให้ร้านค้านำไปลองเทสใช้ระบบทั้งหมดได้เหมือนกับระบบจริง ก่อนจะเปิดหน้าร้านขายจริง ไม่เพียงแค่นั้นทางแพลตฟอร์ม MultiOne ที่พัฒนาระบบมาเพื่อให้ตอบโจทย์ร้านค้ามัลติแบรนด์ และร้านค้ารับฝากขายนั้นยังพัฒนาระบบใหม่ๆ อัพเดทให้ร้านค้าพาร์ทเนอร์เราเรื่อยๆ และยังรับ requirement จากร้านค้าพาร์ทเนอร์ในการพัฒนาระบบตามที่ร้านค้าต้องการ เพื่อให้ตอบโจทย์ร้านค้ายุคใหม่ และทำให้พาร์ทเนอร์ของระบบเราใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น

บทความแนะนำ

 

MultiOne Platform เพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจคุณ

แพลตฟอร์มจัดการร้านมัลติแบรนด์ ร้านค้าปลีกและร้านค้ารับฝากขายสินค้าจากหลายแบรนด์ ที่จะมาช่วยให้การจัดการร้านค้าสะดวกสบายขึ้น ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากหลายขั้นตอน ลดความผิดพลาดการจัดการสินค้า เพิ่มรายได้ และประเภทของสินค้าภายในร้าน จากการรับฝากขายสินค้าจากแบรนด์ดังในระบบ

 

แหล่งพบปะของร้านค้าออนไลน์ และออฟไลน์ พาร์ทเนอร์ที่ช่วยให้คุณขายได้มากขึ้น ผ่านการฝากขายยุคใหม่

การันตีด้วยพาร์ทเนอร์ร้านค้าดัง ขายดีที่ใช้ระบบมากกว่า 30 ร้านค้า และแบรนด์ดังที่ฝากขายผ่านระบบมากกว่า 2,000 แบรนด์

 

ระบบฟังก์ชันหลักสำหรับร้านค้าพาร์ทเนอร์ของ MultiOne ที่ช่วยให้การบริหารจัดการร้านค้าเป็นเรื่องง่าย 

 

  • ระบบ POS แคชเชียร์และจัดการร้านค้าใช้งานง่าย
  • จัดการสต็อกสินค้า แยกรายแบรนด์ เช็คสะดวก
  • ร้านจัดการส่วนลด โปรโมชั่นร่วมกับแบรนด์ได้หลากหลาย
  • ออกบาร์โค้ด เชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องยิงบาร์โค้ด
  • มีระบบการใช้งานสำหรับพนักงาน
  • ออกเอกสารทางบัญชี
  • ระบบ Import Export ข้อมูล
  • จัดการข้อมูลลูกค้า และสินค้า
  • ระบบวิเคราะห์ข้อมูลยอดขายรายวัน รายเดือน แยกรายแบรนด์
  • วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและช่องทางจำหน่าย

 

และเรายังมีฟังก์ชันอีกมากมายสำหรับแบรนด์สินค้าที่มาลงฝากขาย ด้วยระบบที่ออกแบบมาให้ร้านค้าเจอกับแบรนด์ง่ายขึ้น ลดขั้นตอนการส่ง เช็ค และจัดการสินค้าฝากขาย ร้านค้าสามารถเลือกพาร์ทเนอร์ที่เหมาะสมกับหน้าร้านของคุณได้ง่าย ๆ ผ่านระบบบนแพลตฟอร์มของเรา

 

สนใจเป็นร้านค้าพาร์ทเนอร์ คลิกที่นี่ (https://multioneapp.com/shoppage/

 

สนใจลงฝากขายสินค้า คลิกที่นี่ (https://multioneapp.com/brandpage/)

 

หรือ INBOX สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยที่ MultiOne (https://bit.ly/3GwfF4d)

 

Learn More

ธุรกิจฝากขาย รูปแบบธุรกิจที่น่าสนใจระหว่างแบรนด์สินค้ากับหน้าร้าน อีกหนึ่งช่องทางการสร้างรายได้ให้ทั้งผู้ฝากขายและผู้รับฝาก โดยจะเปลี่ยนพื้นที่ว่างภายในร้าน ให้เป็นพื้นที่สำหรับสร้างมูลค่า ร้านรับฝากขาย อาจจะไม่ใช่สิ่งไกลตัวเราอย่างที่เราคิด ร้านค้าหลายร้าน นอกจากจะมีสินค้าเป็นของตนเองแล้ว ยังมีการรับ “ฝากขายสินค้า” จากแบรนด์ต่าง ๆ ภายในร้านร่วมด้วย

 

ปัจจุบัน แบรนด์สินค้าหลาย ๆ แบรนด์ มักจะมีการขายจากช่องทางออนไลน์เป็นหลัก แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมีหน้าร้านสำหรับวางขายสินค้านั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ ลูกค้าหลายรายมักเลือกซื้อสินค้าจากการดู สัมผัสและได้ทดลองใช้จริง แต่การที่แบรนด์จะเปิดหน้าร้านเป็นของตนเองก็อาจไม่ใช่เรื่องง่ายดายมากนัก ดังนั้น การฝากสินค้าไปวางขายหน้าร้านจึงเป็นช่องทางที่น่าสนใจและตอบโจทย์แบรนด์สินค้าที่อยากมีพื้นที่สำหรับวางขายนั่นเอง

 

“ จะเริ่มต้นรับฝากขายทั้งที ควรศึกษาอะไรเพิ่มเติมบ้าง พร้อมเคล็ดลับ เปิดร้านรับฝากขายยังไงให้ปัง ” 

 

หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า “ การฝากขาย ” หรือ “ ร้านรับฝากขาย ” แต่ไม่รู้ว่าคืออะไร และมีข้อดีอย่างไร ทำไมหน้าร้านหลาย ๆ ร้านจึงเริ่มปรับเปลี่ยนลู่ทางมารับฝากขายสินค้ามากขึ้น 

 

การฝากขายคืออะไร 

การฝากขาย (Consignment) คือ การที่ ‘บุคคล’ ซึ่งเป็น ‘เจ้าของสินค้า’ หรือที่เรียกกันว่า “ ผู้ฝากขาย ” ส่งสินค้าของตนไปให้บุคคลอีกฝ่าย หรือที่เรียกว่า “ ผู้รับฝากขาย ” ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการขายสินค้า โดยที่กรรมสิทธิ์ของสินค้าชิ้นนั้นก็ยังคงตกเป็นของเจ้าของสินค้าหรือ “ ผู้ฝากขาย ” แต่หากสินค้าชิ้นนั้นถูกขายออกไป กรรมสิทธิ์ของสินค้าชิ้นนั้นจะตกเป็นของ “ผู้ซื้อ” สินค้าต่อไปนั่นเอง

สรุปฉบับรวบรัด “การฝากขายสินค้า” เจ้าของสินค้าเมื่อทำการฝากขายกับผู้รับฝากขาย กรรมสิทธิ์ในตัวสินค้าก็จะยังคงเป็นของเจ้าของสินค้าหรือ “ ผู้ฝากขาย ” และจะส่งมอบกรรมสิทธิ์สินค้าให้แก่ลูกค้า เมื่อทำการซื้อ-ขายเสร็จเรียบร้อยนั่นเอง

ความสำคัญของการฝากขายสินค้า

การฝากขายสินค้ากับการขายสินค้านั้นมีความแตกต่างกันอยู่ของเรื่องกรรมสิทธ์ผู้เป็นเจ้าของสินค้า เพราะการฝากขายนั้นกรรมสิทธ์เจ้าของสินค้านั้นไม่ได้ถูกโอนไปยังผู้รับฝากขาย ซึ่งหากมีสินค้าคงเหลือที่ผู้รับฝากขายยังไม่ได้ขาย ผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธ์ของสินค้าสามารถเรียกคืนได้ขึ้นอยู่กับข้อตกลง และสัญญาการฝากขายสินค้า

ระบบฝากขายสินค้า 

ระบบฝากขาย คือ รูปแบบการขายสินค้าโดยการนำสินค้าของแบรนด์หรือร้านค้าไปฝากขายตามสถานที่ต่างๆ โดยที่ยังเป็นเจ้าของสินค้านั้นๆ จนกว่าสินค้าจะถูกขาย ส่วนร้านค้าที่รับฝากขายจะได้ค่าเช่าฝากขาย และค่า GP หรือคอมมิชชั่นเป็นเปอร์เซนต์ต่อสินค้าที่ขายได้ขึ้นอยู่กับข้อตกลงกับทางแบรนด์ที่นำมาลงฝากขาย การกำหนดค่า GP หรือค่าเช่าในการวางฝากขายนั้นมีหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นยอดขายร้านค้า คุณภาพสินค้า หรือจำนวนผู้ติดตามของแบรนด์ที่นำมาลงฝากขาย 

ซึ่งปัญหาของการฝากขายสินค้าที่ร้านค้ารับฝากขายหลายๆ ร้านมักเจอคือระบบใช้งานยาก ไม่ตอบโจทย์ในการใช้งานเพื่อจัดการร้านค้า และฟังก์ชันในการใช้งานน้อยเช่น ไม่สามารถรู้ยอดราย หรือรายได้แบบเรียลไทม์ จัดการสต๊อกสินค้าร่วมกับแบรนด์ที่ฝากขายไม่ได้ ไม่มีฟังก์ชันให้ฝั่งแบรนด์ที่ลงฝากขายใช้ ระบบการจัดการร้านค้ารับฝากขายของ MultiOne จึงทำมาเพื่อตอบโจทย์ร้านค้ามัลติแบรนด์และร้านค้าเหล่านี้ที่รับฝากขายสินค้าจำนวนมากจากหลายแบรนด์สินค้าแล้วระบบยังไม่ตอบโจทย์กับร้านค้าของตัวเอง

 

การฝากขายคืออะไร-ฝากขายสินค้า-ก่อนที่จะรับ ฝากขายสินค้า ร้านค้าควรจะรู้อะไรบ้าง

การฝากขายสินค้ากับธุรกิจในปัจจุบัน

ปัจจุบัน ธุรกิจฝากขายมีการเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก อีกหนึ่งรูปแบบของธุรกิจฝากขายที่เราพบเห็นได้บ่อยคือ “Multi-brand Store” 

Multi-brand Store หลาย ๆ คนอาจคุ้นหูหรือเคยได้ยินคำนี้บ่อย ๆ ร้าน Multi-Brand จะทำหน้าที่คล้ายห้างขนาดย่อม ซึ่งจะรวบรวมแบรนด์ต่าง ๆ ไว้ในที่เดียว ความพิเศษของร้าน Multi-Brand ที่แตกต่างจากร้านรับฝากขายทั่วไปคือการที่ร้านมีคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจน และมีการตกแต่งร้านที่ดูดี โดยร้าน Multi-Brand ส่วนใหญ่จะมีการโปรโมทและทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียเป็นหลัก มีเซเลบหรืออินฟลูเอนเซอร์มาช่วยในการโปรโมท ซึ่งร้าน Multi-Brand ที่หลายคนอาจจะเคยเห็นร้านต่าง ๆ ผ่านโซเชียล เช่น Fablab , LAST HOUSE ON THE RIGHT , SOS 

FABLAB-ฝากขายสินค้า-ก่อนที่จะรับ ฝากขายสินค้า ร้านค้าควรจะรู้อะไรบ้าง

การรับฝากขายสินค้า กับประโยชน์ที่มากกว่าที่คุณคิด

การรับฝากขายสินค้า สิ่งที่ผู้รับฝากขายจะได้รับไม่ได้มีเพียงแค่ค่า GP เพียงอย่างเดียว แต่ผู้รับฝากขายจะได้รับผลประโยชน์มากมายจากทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งถ้าคุณคิดไม่ออกว่ามีอะไรบ้าง เราจะยกตัวอย่างประโยชน์เด่น ๆ เพื่อให้คุณเห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

 

1.ไม่ต้องลงทุนค่าสต๊อกสินค้า

เนื่องจากสินค้ายังเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ฝากขาย ผู้รับฝากไม่ต้องจ่ายเงินในส่วนของค่าสต๊อก ค่าสินค้าหรือค่าขนส่ง ซึ่งในการ ฝากขายสินค้า ผู้รับฝากขายจะทำหน้าที่เป็นเพียงตัวกลาง ที่จะคอยช่วยขายสินค้าจากผู้ฝากขายสู่มือลูกค้า

 

2.ลดความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและค่าเสื่อมสภาพของสินค้า 

ในการฝากขายสินค้า ผู้รับฝากขายทำหน้าที่เป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์สินค้า ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าเสื่อมสภาพสินค้าไปนั่นเอง

 

3.สต๊อกสินค้าได้หลากหลายไม่ต้องจ่ายเพิ่ม

แม้จะต้องสต๊อกสินค้ามากมาย หลากหลายรูปแบบ และสไตล์ แต่ค่าใช้จ่ายในการลงทุนส่วนนี้ก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่น่ากังวลใจสำหรับผู้รับฝากขาย เนื่องจากผู้ฝากขาย จะต้องเป็นผู้ส่งสต๊อกสินค้าต่าง ๆ ที่ต้องทำการฝากขายมาให้ผู้รับฝากขาย

 

4.ได้ค่าตอบแทนจากการรับฝากขาย หรือ ค่า GP (Gross Profit)

ในการฝากขายสินค้าหน้าร้าน ผู้รับฝากขายสินค้าจะได้ค่าตอบแทนเป็นค่า GP ซึ่งจะเป็นส่วนแบ่งจากการขายสินค้า ค่าตอบแทนในส่วนนี้ ผู้รับฝากขายจะได้รับจากผู้ฝากขาย ซึ่งได้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการขายสินค้าให้กับทางผู้รับฝากขาย โดยค่า GP นั้นจะเป็นไปตามข้อตกลงระหว่าง ผู้ฝากขายกับผู้รับฝากขายสินค้า

ได้ค่าตอบแทนจากการรับฝากขาย หรือ ค่า GP-ฝากขายสินค้า-ก่อนที่จะรับ ฝากขายสินค้า ร้านค้าควรจะรู้อะไรบ้าง

5.ได้ค่าตอบแทนจากการเช่าพื้นที่ในการฝากขาย

สำหรับหลาย ๆ ร้าน ที่ได้เปิดรับ ฝากขายสินค้า นอกจากค่า GP แล้ว ผู้ฝากขายจะได้รับค่าเช่าพื้นที่เชลฟ์ซึ่งเป็นค่าเช่าพื้นที่ในร้านในการฝากขายแต่ละครั้ง โดยค่าเช่าพื้นที่ในการฝากขาย ค่าเช่าจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เช่น ทำเล ค่าจ้างพนักงาน ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ โดยค่าใช้จ่ายเหล่านี้จำเป็นไปตามข้อตกลงหรือสัญญาระหว่าง ผู้ฝากขายกับผู้รับฝากขายสินค้า 

ได้ค่าตอบแทนจากการเช่าพื้นที่ในการฝากขาย-ฝากขายสินค้า-ก่อนที่จะรับ ฝากขายสินค้า ร้านค้าควรจะรู้อะไรบ้าง

ทริคเล็ก ๆ เปิดร้านฝากขายยังไงให้ปัง

มาถึงตรงนี้ ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนที่สนใจอยากเปิดหน้าร้าน น้องมัลตี้ก็มีทริคเล็ก ๆ น้อยมาแบ่งปัน หากอยากเปิดหน้าร้านสักร้านหนึ่ง เราควรพิจารณาอะไรบ้าง แล้วทำอย่างไรให้ร้านเราปังมากขึ้น!

 

1.วางคอนเซ็ปต์ของร้านให้ชัดเจน

การเริ่มต้นเปิดร้าน สิ่งแรกที่เราควรจะพิจารณาคือคอนเซ็ปต์ของร้าน การวางคอนเซ็ปต์ของร้านจะทำให้เราสามารถทราบกลุ่มลูกค้าของเราได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังวางแผนได้ว่าร้านเราจะเป็นแนวไหน สไตล์ใดนั่นเอง

วางคอนเซ็ปต์ของร้านให้ชัดเจน-ฝากขายสินค้า-ก่อนที่จะรับ ฝากขายสินค้า ร้านค้าควรจะรู้อะไรบ้าง

2.ก่อนเปิดร้านอย่าลืมพิจารณาทำเลที่เหมาะสม

แน่นอนว่าการหาทำเลที่ดี และเหมาะสมในการเปิดร้านคือข้อควรพิจารณาอันดับแรก ๆ ในการเปิดร้าน ทำเลที่ดีควรจะเดินทางสะดวก เข้าถึงง่ายและมีที่จอดรถสำหรับลูกค้า ทั้งนี้ อย่าลืมเช็คดูล่ะว่าทำเลนั้นมีคู่แข่ง มาก-น้อยแค่ไหน และมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราในบริเวณนั้นหรือเปล่า ตัวอย่างเช่น การเปิดร้าน Stationery บริเวณสถานศึกษาจะดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากกว่าเปิดใกล้แหล่งออฟฟิศ เพราะกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของร้าน Stationery คือนักเรียน-นักศึกษานั่นเอง

 

3.เงินลงทุนต้องพร้อม

และแน่นอน การทำธุรกิจต้องมีเงินทุนใช่ไหมล่ะ การเปิดร้านรับฝากขายก็เช่นกัน ดังนั้น ก่อนเปิดร้านเพื่อน ๆ ต้องคำนวณเงินในการลงทุนและควรมีเงินทุนสำรองสำหรับใช้หมุนเวียนภายในร้านสักก้อนหนึ่งสำหรับค่าเข่า ค่าน้ำ ค่าไฟและค่าจ้างพนักงาน จุดนี้ต้องพิจารณาดี ๆ ล่ะ 

 

4.ติดต่อแบรนด์เพื่อทำการรับฝากขายสินค้า

เมื่อเงินทุนพร้อม ร้านพร้อมก็ถึงขั้นตอนต่อไปคือการติดต่อแบรนด์สินค้า โดยการเลือกแบรนด์สินค้าที่จะมาวางขายควรพิจารณาแบรนด์สินค้าที่มีสไตล์สินค้าเข้ากับสไตล์ร้านของเรา เช่น FABLAB ที่มีความเรียบหรู สินค้าภายในร้านส่วนใหญ่จึงมีความเรียบหรู cozy 

ติดต่อแบรนด์เพื่อทำการรับฝากขายสินค้า-ฝากขายสินค้า-ก่อนที่จะรับ ฝากขายสินค้า ร้านค้าควรจะรู้อะไรบ้าง

5.โปรโมทร้านและทำการตลาดส่งเสริการขาย

เมื่อร้านคุณพร้อมที่จะต้อนรับลูกค้า การทำการตลาดผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อประชาสัมพันธ์ก็เป็นสิ่งสำคัญ ปัจจุบัน ร้านค้าต่าง ๆ มักใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในการแชร์ โพสต์ และอัพเดทโปรโมชั่น ยิ่งร้านไหนที่ทำการตลาดน่าสนใจ คอนเทนต์ปัง ก็จะยิ่งดึงดูดลูกค้าให้มาใช้บริการมากขึ้น

6.เลือก MultiOne Platform

หากคุณเลือกใช้บริการ MultiOne Platform มาเป็นเพื่อนคู่ใจ คุณจะสามารถค้นหาแบรนด์ที่ต้องการรับฝากขายได้ง่าย ๆ นอกจากนั้นเรายังมีระบบดี ๆ พร้อมฟังก์ชันปัง ๆ พร้อมให้บริการ ทั้ง POS ช่วยขายหน้าร้าน ระบบจัดการสต๊อกสินค้า ระบบจัดการโปรโมชั่น ช่วยให้ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นและคุณประหยัดเวลามากขึ้น และอีกมากมายทั้ง

การติดตามยอดขายสินค้าแบบเรียลไทม์ของทุกสาขาได้จากที่เดียว

ไม่ว่าร้านค้าคุณจะรับฝากขายสินค้าจากกี่แบรนด์ ก็สามารถเช็คยอดขายได้แบบแยกรายแบรนด์ทั้งฝั่งร้านค้าและแบรนด์ที่ลงฝากขาย ติดตามความเคลื่อนไหวการอัพเดทสินค้าในสต๊อกได้ง่ายๆในระบบ ทำให้การส่งสินค้าเพื่อเติมสินค้าที่ขายดีได้ทันทีก่อนที่สินค้าจะขายหมด

ช่วยให้ธุรกิจร้านค้ารับฝากขาย และแบรนด์ที่ลงฝากขายโตไปพร้อมกัน

การวิเคราะห์สรุปยอดขายสินเดือนช่วยได้การวางแผนธุรกิจได้ดีขึ้นในการตัดสินใจว่าจะรับฝากขายสินค้าขายดีจากแบรนด์ในเพิ่มขึ้น และแบรนด์ที่ลงฝากขายควรพัฒนาสินค้าที่ยังขายไม่ดีไปในทิศทางไหน ซึ่งเป็นประโยชน์กับทั้งร้านค้าและแบรนด์สินค้าที่ลงฝากขาย

ออกใบกำกับภาษีได้ ง่ายต่อการทำงานบัญชี

ระบบสามารถ Export ออกใบกำกับภาษีใช้ได้จริงแสดงยอดขายสินค้าได้ละเอียดทั้งฝั่งร้านค้าแยกรายแบรนด์ เพราะร้านค้าผู้รับฝากขายมีหน้าที่ออกใบกำกับภาษีในการนำส่งกรมสรรพากร ดังนั้นระบบจึงมีการเก็บข้อมูลการขายอย่างละเอียดเพื่อให้ร้านค้าสามารถใช้แสดงยอดขายเพื่อลดขั้นตอนยุ่งยากได้นั่นเอง

 

บทความแนะนำ

ระบบจัดการร้านค้ามัลติแบรนด์ และร้านค้ารับฝากขาย

MultiOne Platform เพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจคุณ

 

แพลตฟอร์มจัดการร้านมัลติแบรนด์ ร้านค้าปลีกและร้านค้ารับฝากขายสินค้าจากหลายแบรนด์ ที่จะมาช่วยให้การจัดการร้านค้าสะดวกสบายขึ้น ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากหลายขั้นตอน ลดความผิดพลาดการจัดการสินค้า เพิ่มรายได้ และประเภทของสินค้าภายในร้าน จากการรับฝากขายสินค้าจากแบรนด์ดังในระบบ

 

แหล่งพบปะของร้านค้าออนไลน์ และออฟไลน์ พาร์ทเนอร์ที่ช่วยให้คุณขายได้มากขึ้น ผ่านการฝากขายยุคใหม่

การันตีด้วยพาร์ทเนอร์ร้านค้าดัง ขายดีที่ใช้ระบบมากกว่า 30 ร้านค้า และแบรนด์ดังที่ฝากขายผ่านระบบมากกว่า 2,000 แบรนด์

 

ระบบฟังก์ชันหลักสำหรับร้านค้าพาร์ทเนอร์ของ MultiOne ที่ช่วยให้การบริหารจัดการร้านค้าเป็นเรื่องง่าย 

 

  • ระบบ POS แคชเชียร์และจัดการร้านค้าใช้งานง่าย
  • จัดการสต็อกสินค้า แยกรายแบรนด์ เช็คสะดวก
  • ร้านจัดการส่วนลด โปรโมชั่นร่วมกับแบรนด์ได้หลากหลาย
  • ออกบาร์โค้ด เชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องยิงบาร์โค้ด
  • มีระบบการใช้งานสำหรับพนักงาน
  • ออกเอกสารทางบัญชี
  • ระบบ Import Export ข้อมูล
  • จัดการข้อมูลลูกค้า และสินค้า
  • ระบบวิเคราะห์ข้อมูลยอดขายรายวัน รายเดือน แยกรายแบรนด์
  • วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและช่องทางจำหน่าย

 

และเรายังมีฟังก์ชันอีกมากมายสำหรับแบรนด์สินค้าที่มาลงฝากขาย ด้วยระบบที่ออกแบบมาให้ร้านค้าเจอกับแบรนด์ง่ายขึ้น ลดขั้นตอนการส่ง เช็ค และจัดการสินค้าฝากขาย ร้านค้าสามารถเลือกพาร์ทเนอร์ที่เหมาะสมกับหน้าร้านของคุณได้ง่าย ๆ ผ่านระบบบนแพลตฟอร์มของเรา

 

สนใจเป็นร้านค้าพาร์ทเนอร์ คลิกที่นี่ 

 

สนใจลงฝากขายสินค้า คลิกที่นี่ 

 

หรือ INBOX สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยที่ MultiOne 

 

Learn More

การจะจัดการร้านค้าให้มีประสิทธิภาพ เทคนิคการบริหารกระแสเงินสด ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเปรียบเสมือนหัวใจของธุรกิจคุณ การจัดการกระแสเงินสด ของร้านค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงไม่ควรปล่อยปะละเลย เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการจัดการบริหารร้านค้า ให้ไม่เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาจากการขาดเงินหมุนเวียนที่เพียงพอ และการบริหารรายจ่ายที่ไม่เป็นระบบ ระเบียบ ทำให้สามารถคาดเดาค่าใช้จ่าย และรายรับที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ พร้อมเตรียมวิธีรับมือต่อสถานะการณ์ต่างๆได้อย่างเหมาะสม

กระแสเงินสด คืออะไร?

กระแสเงินสด หรือ Cashflow คือ งบบอกที่มาที่ไปของเงินสดว่าร้านของคุณมีกระแสเงินสด เข้าและเงินสดออกจากกิจกรรมอะไรบ้าง รวมถึงบอกความเปลี่ยนแปลงจากกิจกรรมต่างๆที่ทำ งบนี้จะบอกการเดินทางของเงินสดตลอดช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งถ้ามีเงินไหลเข้าธุรกิจมากกว่าไหลออกไป หรือว่ามีรายรับมากกว่ารายจ่าย กระแสเงินสด ของธุรกิจคุณจะเป็นบวก แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณมีรายจ่ายมากกว่ารายรับ กระแสเงินสด ก็จะติดลบและถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปในระยะยาวย่อมไม่ส่งผลดีต่อร้านค้าคุณแน่ๆ เพราะงั้นร้านค้าส่วนมากจึงต้องมีการจัดการกระแสเงินสด ที่ดีในการบริหารร้านค้า

การจัดการกระแสเงินสดสำคัญอย่างไร?

การมีเงินสดที่เพียงพอ ช่วยให้ธุรกิจมีความคล่องตัว สามารถดำเนินกิจการได้แบบไม่ติดขัด คำตอบคือ กระแสเงินสด ทำให้เรารู้ว่าสภาพคล่องตัวของร้านค้าคุณว่าเป็นอย่างไร ใช้ลดความผิดพลาดในการบริการจัดการร้านค้า และใช้ในการคำนวนเพื่อคาดการณ์จำนวนการใช้เงินที่จะเกิดขึ้นอย่างพอดี

 

กระแสเงินสด-การจัดการกระแสเงินสด-5 เคล็ดลับการจัดการกระแสเงินสดของร้านค้าให้มีประสิทธิภาพ

กิจกรรมของกระแสเงินสดมีอะไรบ้าง?

หลังจากรู้ว่ากระแสเงินสด คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร โดยกระแสเงินสดจะแบ่งออกเป็น 3 กิจกรรม

  • กิจกรรมดำเนินงานกระแสเงินสด

กิจกรรมดำเนินงานกระแสเงินสด คือ กิจกรรมหลักที่ก่อให้เกิดรายได้และรายจ่ายในธุรกิจคุณ ถ้าพูดให้เห็นภาพคือ การขายสินค้า การซื้อวัตถุดิบมา การจ่ายค่าแรงพนักงาน รวมถึงการจ่ายค่าบริการ จะรวมอยู่ในกระแสเงินสด จากการดำเนินงานทั้งหมด โดยทั่วไปแล้วควรที่จะมีการบริหารให้เป็นบวกเสมอ นั่นคือมีรายได้มากกว่ารายจ่าย จะแสดงถึงสภาพคล่องที่ดีของธุรกิจคุณ

  • กิจกรรมลงทุนกระแสเงินสด

กิจกรรมลงทุนกระแสเงินสด คือ กิจกรรมที่แสดงให้เห็นการได้มา เกี่ยวกับการลงทุนในทรัพย์สินไม่หมุนเวียน ที่ไม่กระทบการดำเนินงาน เช่น การซื้อที่ดิน อาคารหรือตึก เพื่อใช้เป็นสำนักงานของบริษัท กิจกรรมนี้แสดงให้เห็นการลงทุนเพิ่มของธุรกิจหรือการขายทรัพย์สิน กระแสเงินสดนี้ควรมีค่าเป็นลบ ทำให้เห็นว่าธุรกิจมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

  • กิจกรรมจัดหาเงินกระแสเงินสด

กิจกรรมจัดหาเงินกระแสเงินสด คือ กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาเงินของธุรกิจ เช่น เงินสดจากการกู้ยืม เงินสดจากการเพิ่มทุน เงินสดจ่ายคืนเงินกู้ เป็นต้น หากตัวเลขเป็นบวก หมายความว่ามีทิศทางการหาเงินเข้าธุรกิจมากขึ้น เช่น การกู้ยืมจากธนาคาร
หากตัวเลขเป็นลบ นั่นหมายความว่าธุรกิจกำลังจ่ายมากกว่าเงินที่ได้รับ เช่น การจ่ายคืนเงินกู้ การจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น เป็นต้น

5 เคล็ดลับการจัดการกระแสเงินสดของร้านค้าให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มความคล่อง ลดความเสี่ยงของร้านคุณ

1.ประเมินความเสี่ยงและเตรียมรับมือล่วงหน้าด้วย การจัดการกระแสเงินสด

หนึ่งในข้อที่สำคัญมากคือ การประเมินความเสี่ยงและรับมือล่วงหน้า ร้านค้าของคุณควรมีจำนวนเงินสดที่ใช้สำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝันหรือความเสี่ยงต่างๆที่อาจะเกิดขึ้นได้ เพื่อหลีกเลี่ยงต่อผลกระทบที่อาจตามมา ซึ่งบางครั้งหากไม่สามารถหาเงินได้ทัน หรือไม่แบ่งเงินส่วนนี้ไว้อาจทำให้เกิดวิกฤตได้ เช่น เหตุการณ์ระบาดของ โควิด 19 ที่ผ่านมา เป็ฺนหนึ่งในเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ทำให้ร้านค้าหลายแห่งต้องปิดตัวลงและใช้เวลาปรับตัวกันมากขึ้น เพราะไม่มีการจัดการกระแสเงินสดที่ดี ร้านค้าจึงจำเป็นต้องทราบว่ามีเงินจำนวนเท่าไหร่และจำลองสถานการณ์ขึ้นมาว่าทางร้านจะรับมือล่วงหน้าอย่างไร

ประเมินความเสี่ยงและเตรียมรับมือล่วงหน้าด้วยการจัดการกระแสเงินสด-5 เคล็ดลับการจัดการกระแสเงินสดของร้านค้าให้มีประสิทธิภาพ

2.ติดตามสต๊อกสินค้าให้มีประสิทธิภาพ

การจัดการกระแสเงินสดที่ดี ร้านค้าควรจะติดตามสต็อกสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เช่นนั้นจะพบกับปัญหาต่างๆตามมา ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาในการจ่ายเงินสินค้าซัพพลายเออร์ ปัญหาสต๊อกไม่ตรง สต๊อกเกิน เป็นต้น ทางร้านจึงต้องต้องนับและติดตามสต๊อกสินค้าให้แม่นยำ เพื่อวิเคราะห์ออกมาว่าสินค้าไหนควรขายต่อไป สินค้าไหนควรหยุดขาย เราจึงขอแนะนำให้เลือกใช้ระบบ POS ที่มีประสิทธิภาพอย่าง Multione ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มจัดการร้านมัลติแบรนด์ ร้านค้าปลีกที่มีฟังก์ชัน POS ช่วยให้คุณเจ้าของร้านติดตามสต๊อกและบริหารกระแสเงินสดได้ดีขึ้น

ติดตามสต๊อกสินค้าให้มีประสิทธิภาพ-5 เคล็ดลับการจัดการกระแสเงินสดของร้านค้าให้มีประสิทธิภาพ

3.จัดการเคลียร์เงินสดแต่ละบัญชี

ในธุรกิจไม่ว่าคุณจะใช้เงินไปจำนวนมากเท่าไหร่ หรือทราบว่าเงินสดมีจำนวนเท่าใด มันไม่ได้หมายความว่าคุณมีการจัดการเงินที่ดีเสมอไป เนื่องจากลักษณะของธุรกิจมีความแตกต่างกัน แต่สิ่งที่จำเป็นต้องคือ การจัดการกระแสเงินสดในกลุ่มต่าง ๆ ที่ติดอยู่กับกิจกรรมทางธุรกิจ หากคุณมีการจัดการเงินสดได้ดีมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งทำให้ภาพรวมของธุรกิจมั่นคงขึ้นมากไปด้วย และยังสามารถคำนวณรายรับ รายจ่ายรวม จำนวนกำไรขาดทุน หรือตรวจพบได้ง่ายหากจำนวนเงินเข้าและออกร้านค้ามีจำนวนที่ไม่เท่ากัน

จัดการเคลียร์เงินสดแต่ละบัญชี-5 เคล็ดลับการจัดการกระแสเงินสดของร้านค้าให้มีประสิทธิภาพ

4. ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในร้านค้าด้วย การจัดการกระแสเงินสด

เคล็ดลับเล็กๆน้อยๆที่หลายคนอาจจะมองข้ามไป คือ การลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในร้านออกไป โดยการดูยอดรายจ่ายของแต่ละเดือนบ้าง ดูว่าต้องจ่ายเงินจำนวนเท่าไหร่ จากนั้นเราก็จะเห็นว่าสามารถลดค่าใช้จ่ายตรงส่วนไหนได้บ้าง เช่น ยกเลิกการบริการที่ไม่ตอบโจทย์กับทางร้าน ค่าใช้จ่ายสื่อด้านการตลาดที่ไม่เกิดผลในการดึงดูดผู้บริโภค ค่าน้ำค่าไฟ เป็นต้น ลองดูว่ารายจ่ายส่วนไหนที่ตัดออกไปได้บ้างจะทำให้การจัดการกระแสเงินสดและสภาพการเงินในร้านดีขึ้นอย่างแน่นอน

5. การจัดการกระแสเงินสด ด้วยเครื่องมือต่างๆ

เพื่อการจัดการกระแสเงินสดในร้านคุณให้มีประสิทธิภาพ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คุณควรหาเครื่องมือที่เหมาะ สมสำหรับตัวเองจะช่วยให้การบริหารกระแสเงินสดในร้านของคุณมีคุณภาพมากขึ้น หากเป็นเจ้าของกิจการมือใหม่ที่ไม่รู้ว่าควรจะเลือกเครื่องมือชนิดไหนในการจัดการ Cashflow น้องมัลตี้มีเครื่องมือต่างๆ มาแนะนำเพื่อประกอบการตัดสินใจกันด้วยนะ

  • จัดการกระแสเงินสดด้วยหนังสือ เหมาะสมสำหรับธุรกิจเริ่มต้น
  • จัดการกระแสเงินสดด้วย Excel เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดกลาง
  • จัดการกระแสเงินสดด้วย Google Sheet ตรวจสอบได้ทุกที่เพียงมีอินเตอร์เน็ต
  • จัดการด้วยระบบการจัดการร้านค้า Multione สะดวก ใช้งานง่าย ฟังก์ชันหลากหลาย

การจัดการกระแสเงินสดด้วยเครื่องมือต่างๆ-จัดการร้านค้าด้วยระบบMultione-การจัดการกระแสเงินสดของร้านค้าให้มีประสิทธิภาพ

การจัดการกระแสเงินสดของร้านค้าให้มีประสิทธิภาพ มีเคล็ดลับและวิธีการมาบอกมากมายถึง 5 ไอเดียที่น้องมัลตี้ได้เสนอแนะไป ในบล็อกนี้เป็นเพียงแค่แนวทางในการจัดการกระแสเงินสดให้มีประสิทธิภาพ ที่เหมาะสำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ที่ต้องการหาวิธีการจัดการเงินภายในร้านให้มีสภา่พคล่องตัวขึ้น โดยเริ่มต้นได้แบบง่าย ๆ

เมื่อมีการวางแผนการจัดการกระแสดเงินสดที่ดี สิ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลยนั่นคือระบบการจัดการร้านดี ๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณมีช่องทางการขายที่มากขึ้น เพราะเมื่อการขายออนไลน์อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ MultiOne Platform เพื่อนคู่ใจที่จะทำให้การฝากขายของคุณง่ายขึ้น !

บทความแนะนำ

MultiOne Platform ระบบจัดการร้านค้ามัลติแบรนด์และสินค้าฝากขาย-เพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจคุณ

MultiOne Platform เพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจคุณ

แพลตฟอร์มจัดการร้านมัลติแบรนด์ ร้านค้าปลีกและร้านค้ารับฝากขายสินค้าจากหลายแบรนด์ ที่จะมาช่วยให้การจัดการร้านค้าสะดวกสบายขึ้น ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากหลายขั้นตอน ลดความผิดพลาดการจัดการสินค้า เพิ่มรายได้ และประเภทของสินค้าภายในร้าน จากการรับฝากขายสินค้าจากแบรนด์ดังในระบบ

แหล่งพบปะของร้านค้าออนไลน์ และออฟไลน์ พาร์ทเนอร์ที่ช่วยให้คุณขายได้มากขึ้น ผ่านการฝากขายยุคใหม่
การันตีด้วยพาร์ทเนอร์ร้านค้าดัง ขายดีที่ใช้ระบบมากกว่า 50 ร้านค้า และแบรนด์ดังที่ฝากขายผ่านระบบมากกว่า 2,000 แบรนด์

ระบบฟังก์ชันหลักสำหรับร้านค้าพาร์ทเนอร์ของ MultiOne ที่ช่วยให้การบริหารจัดการร้านค้าเป็นเรื่องง่าย

  • ระบบ POS แคชเชียร์และจัดการร้านค้าใช้งานง่าย
  • จัดการสต็อกสินค้า แยกรายแบรนด์ เช็คสะดวก
  • ร้านจัดการส่วนลด โปรโมชั่นร่วมกับแบรนด์ได้หลากหลาย
  • ออกบาร์โค้ด เชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องยิงบาร์โค้ด
  • มีระบบการใช้งานสำหรับพนักงาน
  • ออกเอกสารทางบัญชี
  • ระบบ Import Export ข้อมูล
  • จัดการข้อมูลลูกค้า และสินค้า
  • ระบบวิเคราะห์ข้อมูลยอดขายรายวัน รายเดือน แยกรายแบรนด์
  • วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและช่องทางจำหน่าย

และเรายังมีฟังก์ชันอีกมากมายสำหรับแบรนด์สินค้าที่มาลงฝากขาย ด้วยระบบที่ออกแบบมาให้ร้านค้าเจอกับแบรนด์ง่ายขึ้น ลดขั้นตอนการส่ง เช็ค และจัดการสินค้าฝากขาย ร้านค้าสามารถเลือกพาร์ทเนอร์ที่เหมาะสมกับหน้าร้านของคุณได้ง่าย ๆ ผ่านระบบบนแพลตฟอร์มของเรา

สนใจเป็นร้านค้าพาร์ทเนอร์ คลิกที่นี่ 

สนใจลงฝากขายสินค้า คลิกที่นี่ 

หรือ INBOX สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยที่ MultiOne คลิกที่นี่

Learn More

ไม่ว่าจะเป็นการตลาด offline และ online ก็ต้องมีการวางแผนเพื่อสร้าง Creative Content ให้น่าสนใจและดึงดูดลูกค้าให้เข้ามามีส่วนร่วมกับโพสหรือเข้ามาชมสินค้าภายในร้านค้า วันนี้น้องมัลตี้เลยจะมาแนะนำเทคนิคการทำ Content ให้มีความหลากหลาย โดดเด่น และไม่ซ้ำใคร

เพราะปัจจุบันการเข้าถึง Social Media เป็นเรื่องง่ายเข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา จากหลากอุปกรณ์ในการเข้าถึง การจะสร้างความประทับใจให้ลูกค้าของคุณ สิ่งสำคัญคือ การสร้าง Content บน Social Media ได้อย่างน่าสนใจ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความประทับใจและดึงดูดให้ลูกค้าเลือกเรานั่นเอง แต่การจะสร้างคอนเทนต์ให้หลากหลายและมีประสิทธิภาพนั้นจำเป็นต้องเข้าใจหลากหลายองค์ประกอบ ทั้งกลุ่มคนเป้าหมาย และวัตถุประสงค์ในการสร้าง เพื่อให้คอนเทนต์ที่สร้างขึ้นมากนั้นเกิดประโยชน์สูงสุดและคุ้มค่าในการทำมากที่สุด ซึ่งก่อนที่จะเข้าเนื้อเรื่อง เราไปดูกันก่อนว่าเราควรรู้อะไรบ้างก่อนที่จะเริ่มทำคอนเทนต์

Social Media คืออะไร

          Social Media คือ แพลตฟอร์มดิจิทัลที่ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแบ่งปันเรื่องราวสู่สาธารณผ่านอินเทอร์เน็ตช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เฟสบุ๊ค อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ ติ๊กต็อก และอื่นๆ ซึ่งโซเชียลมีเดียเปรียบเสมือนแคตตาล็อกสินค้า อีกทั้งยังเป็นพื้นที่สำหรับแชร์ความรู้และการพรีเซนต์ Branding ให้เป็นที่รู้จักได้ดี แต่การจะสร้างเนื้อหาคอนเทนต์ให้เกิดความน่าสนใจ ต้องมีการวางแผนที่ดีและควรคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ อีกหลายประการ เช่น

  • กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
  • ความสอดคล้องต่อสินค้าและบริการ
  • รูปภาพต้องมีความเป็นเอกลักษณ์และสามารถสะท้อนถึงตัวแบรนด์ได้ดี

วิธีการที่จะสร้างคอนเทนต์ให้ปัง นอกจากการวางแผนและการศึกษาข้อมูลที่ดี การเล่นกับกระแสในช่วงนั้น ๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้เลือกธุรกิจของคุณ

Social Media Content คืออะไร?

          Social คือ สังคม, Media คือ สื่อ, Content คือ เนื้อหา ดังนั้น Social Media Content เมื่อแปลอย่างตรงตัวจึงมีความหมายว่า เนื้อหาในการสื่อสารออกสังคม ซึ่ง Content เป็นหัวใจสำคัญในการวางกลยุทธ์ทางการตลาดและการสร้างแบรนด์ในปัจจุบัน เมื่อรวมกับ Social Media ก็ยิ่งเป็นสิ่งที่นักการตลาดต้องใส่ใจเป็นอันดับแรก ๆ การผลิตคอนเทนต์ให้น่าสนใจไม่เพียงแต่จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้มาสนใจมากขึ้น แต่ยังช่วยสร้างการรับรู้ให้กับธุรกิจของคุณสู่สังคมจากการแชร์ กดไลค์ และบอกต่อ

การทำคอนเทนต์บน Social Media สำคัญยังไง ?

การทำคอนเทนต์บนสื่อ Social media หรือ Social Media Content Marketing นั้นทำเพื่อการเพิ่มการรับรู้ของบริษัท สินค้า และบริการบนโลกออนไลน์ เพิ่มยอดขาย ความน่าเชื่อถือ และการติดตามข่าวสารของกลุ่มลูกค้าที่สนใจในตัวสินค้าและบริการของบริษัท เป็นช่องทางหนึ่งในการติดต่อสื่อสาร แต่ก่อนที่จะเริ่มทำคอนเทนต์นั้น ควรจะกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน และทำคอนเทนต์ให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าของเรา โดยการกำหนดเป้าหมายที่ดีนั้นควรตั้งเป้าหมายตามหลัก SMART

  • S – Specific หมายถึง เจาะจง เช่น มีกลุ่มลูกค้าแบบไหนเข้ามาเยี่ยมชมเพจ Socail Media หรือเว็บไซต์
  • M – Measurable หมายถึง สามารถวัดผลได้ เช่น จำนวนคนเห็นโพส 10,000 ครั้ง หรือจำนวนคนที่มีส่วนร่วมกับโพส 1,000 ครั้ง
  • A – Attainable หมายถึง เป็นไปได้จริง เช่น มียอดผู้ติดตามเพิ่มขึ้น สะสม 1,000 คน (ควรตั้งตามความเป็นจริงและงบประมาณ)
  • R – Relevant หมายถึง มีความเกี่ยวข้อง สอดคล้องกับเป้าหมายทางการตลาด และสามารถสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจได้
  • T – Time-bound หมายถึง กำหนดระยะเวลาชัดเจน เช่น มีผู้ติดตามเพิ่มขึ้น 1,000 ต่อเดือน เป็นต้น

1. การสร้าง Content โดยใช้รูปภาพสินค้าแนวไลฟ์สไตล์

          สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับแบรนด์สินค้า ก็คือตัวสินค้า การนำเสนอรูปแบบของสินค้าจึงมีความสำคัญมาก การเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้สินค้าของคุณ หากคุณเป็นผู้ประกอบการมือใหม่ที่ไม่รู้ว่าควรจะถ่ายรูปแบบไหน น้องมัลตี้ก็มีเทคนิคดีๆ มาแนะนำนั่นก็คือ

  • ภาพ Flat Lay ที่เรียบง่าย สบายตา 
  • ภาพถ่ายในสตูดิโอ 
  • ภาพถ่ายสินค้ากับนางแบบ/นายแบบ 
  • ภาพถ่ายกลางแจ้งแนวไลฟ์สไตล์ 
  • ภาพการใช้งานสินค้าในรูปแบบต่าง ๆ

          ซึ่งในปัจจุบัน เทคนิค Flat Lay ก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยสไตล์ของรูปภาพที่เรียบง่าย สบายตา โดยมีการนำสิ่งของต่าง ๆ ที่มีความเข้ากัน โทนเดียวกัน นำมาจัดวางให้เข้าที่ และถ่ายภาพจากมุมสูงลงมา 90 องศา ทำให้เหมาะสมกับการใช้ถ่ายภาพสินค้า ซึ่งจะช่วยให้สินค้าของเราน่าสนใจและเด่นมากยิ่งขึ้น

เทคนิคดี ๆ2. การสร้าง Content Customer Testimonials (การรับรองจากลูกค้า)

          Testimonial คือ การรับรองคุณภาพสินค้าหรือบริการจากบุคคลอื่น หรือเรียกสั้น ๆ ก็คือการ รีวิว ซึ่งต้องเป็น รีวิวในด้านที่ดี เพื่อช่วยยืนยันคุณภาพของบริการเหล่านั้น ให้กับผู้ที่ไม่เคยลองใช้มาก่อน โดยการทำคอนเทนต์ Testimonial ให้น่าสนใจอาจอยู่ในรูปแบบ บทความ, คำพูดสั้น ๆ, ภาพ หรือวีดีโอ พูดง่าย ๆ Testimonial ก็คือเครื่องมือในการทำ Social Proof นั่นเอง และเมื่อลูกค้าหรือผู้ใช้ทำการรีวิวสินค้าหรือบริการของคุณลง Social Media คุณสามารถทำการรีโพสต์เพื่อแสดงให้ลูกค้าคนอื่น ๆ เห็นว่าสินค้าของแบรนด์คุณมีคุณภาพที่ดี และมีผู้ใช้งานจริง 

การสร้างความน่าเชื่อถือผ่านคอนเทนต์นั้น มักจะเป็นเนื้อหาหลักที่หลายๆ Content creator มักจะหยิบเข้ามาเพิ่มเพื่อให้ลูกค้าที่เห็นคอนเทนต์หรือโฆษณานั้นตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้ใช้ จำนวนยอดขาย Feedback รีวิวจากลูกค้าที่หลากหลาย รางวัลต่างๆที่ได้รับ รวมไปถึงพาร์ทเนอร์ต่างๆที่ไว้ใจเลือกใช้

การทำคอนเทนต์3. การสร้าง Content สาธิตการใช้งานสินค้า

          อีกหนึ่ง Content ที่สำคัญที่แบรนด์สินค้าควรมี คือการสาธิตการใช้งานสินค้า เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพการใช้งานสินค้าจริง เช่น แบรนด์เครื่องสำอางค์สาธิตตัวอย่างการใช้เครื่องสำอางค์ โดยการทำวิดีโอคอนเทนต์เกี่ยวกับการแต่งหน้า แบรนด์เสื้อผ้าโพสต์รูปหรือวิดีโอการแมชเสื้อผ้า แบรนด์สินค้า DIY สอนการทำหรือประกอบสินค้า เป็นต้น

การทำ Content แนวนี้เน้นไปทางการช่วยเหลือลูกค้า ทำให้ลูกค้าเข้าใจระบบหรือใช้งานสินค้าและบริการที่เสนอง่ายขึ้น ซึ่งก็สามารถทำได้หลากหลายแนวไม่ว่าจะเป็นรูปภาพขั้นตอน หรือวีดิโอสาธิต อธิบายแต่ละขั้นตอน แต่ก็ต้องคำนึงถึงความสนุกและน่าสนใจของคอนเทต์ที่เหมาะสมและสามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าของสินค้าและบริการที่จะเสนอได้

 Content ที่สำคัญ4. การสร้าง Content โพสต์สร้างแรงบันดาลใจ

          อีกหนึ่งเทคนิคการสร้าง Content ที่สำคัญ คือคอนเทนต์ที่แชร์เรื่องราว หรือสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อ่าน หรือจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับค่านิยมของบริษัทคุณก็ได้เช่นกัน ในส่วนของคอนเทนต์สร้างแรงบันดาลใจ คุณสามารถหาคอนเทนต์ดี ๆ หรือเทคนิคจากสื่อ คนดังหรือผู้มีชื่อเสียงต่าง ๆ จากช่องทางออนไลน์มาโพสต์ได้เช่นกัน ซึ่งการสร้างคอนเทนต์แนวนี้นั้นสามารถทำได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการพูดถึงเป้าหมายของกลุ่มลูกค้าโดยการยกผู้ที่ประสบความสำเร็จมาให้คำแนะนำที่มีประโยชน์ การแนะแนววิธีการที่เป็นประโยชน์แก่เป้าหมายของกลุ่มลูกค้า หรือการให้แนวคิดหรือกำลังใจในการเป็นผู้ประกอบการหรือผู้นำของกลุ่มลูกค้าที่เน้นไปทางการสร้างความรู้สึกร่วมกับเป้าหมายของกลุ่มที่เราต้องการจะสื่อสารด้วย

เทคนิคการสร้าง Content5. เทรนด์ใหม่ ๆ หรืออีเวนต์ที่กำลังจะมาถึง

          การสร้างคอนเทนต์ให้เกาะกระแสและอินตามเทรนด์อยู่เสมอ เมื่อมีไวรัลต่าง ๆ เกิดขึ้น การสร้างคอนเทนต์ที่มีการเล่นกับกระแสนั้น ๆ จะทำให้ร้านของคุณเป็นที่รู้จักในวงกว้างและเร็วมากขึ้น  ตัวอย่างคอนเทนต์โดน ๆ ที่เป็นไวรัล เช่น คอนเทนต์การปรับตัวร้านค้าหรือธุรกิจให้เข้ากับเทรนด์ในปัจจุบันเช่น เทรนด์ร้านค้าในยุค Covid-19, เทรนด์การเล่นคำ, วันสำคัญต่างๆ, หรือเทรนด์การพูดถึงเหตุการณ์หนึ่ง เป็นต้น หรืออาจจะเป็นการนำเทรด์ธุรกิจสไตล์ใหม่ๆ รวมทั้งข่าวที่ผู้คนจำนวนมากพูดถึง ไม่ว่าจะเป็นในประเทศ หรือต่างประเทศ คอนเทนต์แนวนี้จำได้รับความสนใจและการมีส่วนร่วมจากผู้ติดตามได้มาก เพราะเนื้อหาของโพสที่กำลังเป็นไวรัลมักจะมีผู้แสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว ซึ่งคอมเมนต์ที่ได้ก็จะมีหลากหลายความคิดเห็นจากหลายๆมุมมองต่อเทรนด์นั้นๆ

การสร้าง Content6. การสร้าง Content ถาม-ตอบคำถาม

การสร้าง Content ที่ง่าย และเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าอย่างการถาม – ตอบคำถามก็เป็นอีกหนึ่งคอนเทนต์คุณภาพที่ไม่มีไม่ได้ การทำคอนเทนต์ถามคำถามกับลูกค้านั้น ทำให้เราได้รู้ทั้งความคิดเห็นของลูกค้าส่วนมาก ทั้งยังเป็นการเป็นการเพิ่มจำนวนการมีส่วนของผู้ติดตาม ส่งผลให้เพิ่มโอกาสจำนวนคนที่จะเห็นโพสคอนเทนต์ของเราอีกด้วย ซึ่งก็อาจจะมีการให้ของรางวัลหรือส่วนลดกับผู้ที่มีส่วนร่วมกับคอนเทนต์กิจกรรมตอบคำถาม เป็นการจูงใจให้ผู้ติดตามหรือคนที่เห็นมีโอกาสแสดงความคิดเห็นมากขึ้น

ส่วนคำตอบที่นำมาทำคอนเทนต์ คุณอาจเลือกคำถามที่ลูกค้ามักจะถามบ่อยๆ หรือ Frequently Asked Questions นั่นเอง คำถามที่พบบ่อยนั้นเปรียบเสมือนเส้นทางที่ทำให้ลูกค้าเข้าถึงตัวแบรนด์ได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังประหยัดเวลาในการสร้างคอนเทนต์ให้โดนใจลูกค้ามากที่สุด และชัดเจนที่สุดอีกรูปแบบหนึ่ง เป็นการลดขั้นตอนในการหาข้อมูลของลูกค้าที่ต้องทักเข้ามาถามและรอคำตอบ ซึ่งก็สามารถทำเป็นหัวข้อหนึ่งของคอนเทนต์ที่สามารถนำมาประยุกต์ในการทำคอนเทนต์เพื่อการเพิ่มส่วนร่วมต่อของกลุ่มลูกค้าเช่น การทำคอนเทนต์ถามคำถาม เพื่อรวบรวมคำถามที่ถูกถามเข้ามามากมาทำคำตอบล่วงหน้าเพื่อให้บริการการตอบคำถามลูกค้ารวดเร็วขึ้น หรืออาจจะนำเข้าไปเพิ่มในหน้า FAQs ภายในเว็บไซต์ เพื่อตอบข้อสงสัยจากคำถามที่ถูกถามเข้ามามากที่สุด

การสร้าง Content ที่ง่าย7. โปรโมชั่นและอัพเดต

          เทคนิคสำคัญสำหรับ Content Marketing คือการออกโปรโมชั่นหรือเซล โดยสามารถโพสต์ผ่านสื่อโซเชียลแพลตฟอร์มต่าง ๆ ของแบรนด์ได้โดยตรง การโพสต์เพื่ออัพเดตโปรโมชั่นเป็นระยะ หรือการนับเวลาถอยหลังจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดตื่นเต้นและวางแผนในการเลือกซื้อสินค้าของคุณ การอัพเดทบริการใหม่ๆ หรือข่าวสารของบริษัท เพิ่มทั้งจำนวนการมีส่วนร่วมและเป็นการ Re-marketing หรือการทำการตลาดกับลูกค้าเก่าของเราเพื่ออัพเดทโปรโมชั่นสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์และน่าสนใจอยู่เสมอ ซึ่งก็ต้องสร้างคอนเทนต์ให้เหมาะสมกับช่องทางที่ติดต่อกับกลุ่มลูกค้าด้วย ไม่ว่าจะเป็นช่องทาง Social media หรือ Line OA ที่สามารถติดต่อกับลูกค้าต่างประเภทได้โดยตรง

เทคนิคสำคัญสำหรับ Content Marketing

          การทำ Digital Marketing โดย การสร้าง Content ที่น่าสนใจผ่าน Social Media มีเทคนิคและวิธีการทำมากมาย 7 ไอเดียที่น้องมัลตี้นำเสนอไปในบล็อกนี้ เป็นเพียงแค่ตัวอย่างแนวทางในการทำคอนเทนต์ ที่เหมาะสำหรับแบรนด์ หรือผู้ประกอบการมือใหม่ที่ต้องการทำการตลาดโดยเริ่มต้นแบบง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก ซึ่งก็มีช่องทางและวิธีการอื่นๆ อีกมากมายที่แตกต่างและเฉพาะเจาะจงกับสไตล์และประเภทที่แตกต่างกันของธุรกิจ ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของการทำการตลาด การโฆษณา และเนื้อหาที่ต้องการจะสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าที่แตกต่าง

 

          เมื่อมีการวางแผนการทำการตลาดที่ดี อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือระบบดี ๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณมีช่องทางการขายที่มากขึ้น เพราะเมื่อการขายออนไลน์อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ MultiOne Platform เพื่อนคู่ใจที่จะทำให้การฝากขายของคุณง่ายขึ้น !

บทความแนะนำ

MultiOne Platform เพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจคุณ

 

          แพลตฟอร์มจัดการร้านมัลติแบรนด์ ร้านค้าปลีก และร้านค้ารับฝากขายสินค้าจากหลายแบรนด์ ที่จะมาช่วยให้การจัดการร้านค้าสะดวกสบายขึ้น ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากหลายขั้นตอน ลดความผิดพลาดการจัดการสินค้า เพิ่มรายได้ และประเภทของสินค้าภายในร้าน จากการรับฝากขายสินค้าจากแบรนด์ดังในระบบ

 

แหล่งพบปะของร้านค้าออนไลน์ และออฟไลน์ พาร์ทเนอร์ที่ช่วยให้คุณขายได้มากขึ้น ผ่านการฝากขายยุคใหม่

การันตีด้วยพาร์ทเนอร์ร้านค้าดัง ขายดีที่ใช้ระบบมากกว่า 30 ร้านค้า และแบรนด์ดังที่ฝากขายผ่านระบบมากกว่า 2,000 แบรนด์

ระบบฟังก์ชันหลักสำหรับร้านค้าพาร์ทเนอร์ของ MultiOne ที่ช่วยให้การบริหารจัดการร้านค้าเป็นเรื่องง่าย 

 

  • ระบบ POS แคชเชียร์และจัดการร้านค้าใช้งานง่าย
  • จัดการสต็อกสินค้า แยกรายแบรนด์ เช็คสะดวก
  • ร้านจัดการส่วนลด โปรโมชั่นร่วมกับแบรนด์ได้หลากหลาย
  • ออกบาร์โค้ด เชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องยิงบาร์โค้ด
  • มีระบบการใช้งานสำหรับพนักงาน
  • ออกเอกสารทางบัญชี
  • ระบบ Import Export ข้อมูล
  • จัดการข้อมูลลูกค้า และสินค้า
  • ระบบวิเคราะห์ข้อมูลยอดขายรายวัน รายเดือน แยกรายแบรนด์
  • วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและช่องทางจำหน่าย

และเรายังมีฟังก์ชันอีกมากมายสำหรับแบรนด์สินค้าที่มาลงฝากขาย ด้วยระบบที่ออกแบบมาให้ร้านค้าเจอกับแบรนด์ง่ายขึ้น ลดขั้นตอนการส่ง เช็ค และจัดการสินค้าฝากขาย ร้านค้าสามารถเลือกพาร์ทเนอร์ที่เหมาะสมกับหน้าร้านของคุณได้ง่าย ๆ ผ่านระบบบนแพลตฟอร์มของเรา

สนใจเป็นร้านค้าพาร์ทเนอร์ คลิก

สนใจลงฝากขายสินค้า คลิก

หรือ INBOX สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยที่ MultiOne คลิก

Learn More

ร้านค้ามัลติแบรนด์ ( Multi-brand store ) คืออะไร แตกต่างจากร้านค้าทั่วไปยังไง และทำไมแบรนด์ออนไลน์ส่วนใหญ่จึงเลือกฝากขายกับ ร้านค้ามัลติแบรนด์

อะไรคือ ร้านค้ามัลติแบรนด์ ?

ร้านค้า Multi-brand คือ แหล่งรวบรวมสินค้าจากหลากหลายแบรนด์มาวางขายหน้าร้าน ซึ่งส่วนใหญ่ จะเป็นแบรนด์ขนาดเล็กที่มีหน้าร้านอยู่บนโลกออนไลน์ ทำให้แบรนด์เล็ก ๆที่มีเงินทุนไม่มาก หรือไม่อยากเปิดหน้าร้านเอง สามารถมีหน้าร้านโดยที่ไม่ต้องลงทุนสูง ไม่ต้องจ้างพนักงานขาย ไม่ต้องทำการตลาดเอง

ผู้ผลิต หรือแบรนด์นั้น ไม่สามารถกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภคได้เองเสมอไป การฝากขายกับหน้าร้านค้ามัลติแบรนด์ ที่นอกจากจะช่วยเพิ่มช่องทางการขายสินค้า แบรนด์จะได้รับการโปรโมท และเพิ่มกลุ่มลูกค้าจากฐานลูกค้าเดิมของหน้าร้าน

ร้านค้ามัลติแบรนด์แตกต่างจากร้านค้าฝากขายทั่วไปยังไง ?

โดยปกติ ร้านค้ามัลติแบรนด์จะมีคอนเซ็ปต์ และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่งจะแตกต่างกับร้านฝากขายทั่วไป ที่มักจะขายสินค้าอย่างหลากหลาย และกลุ่มลูกค้าอาจไม่ชัดเจนนัก และร้านค้ามัลติแบรนด์ส่วนใหญ่ จะมีการจัดการร้านที่เป็นระบบ ทำให้แบรนด์ไม่ต้องกังวลปัญหาที่อาจเกิดขึ้น หลังจากการฝากขาย อีกทั้งการฝากขายกับร้านค้ามัลติแบรนด์ ร้านจะมีการโปรโมท และช่วยแบรนด์ในด้านการทำการตลาด 

ในปัจจุบัน ร้านมัลติแบรนด์ เป็นช่องทางการวางขายสินค้าหน้าร้าน ที่สำคัญสำหรับแบรนด์ออนไลน์ ที่ต้องการฝากขายสินค้า เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสสินค้า และได้ลองสวมใส่จริง ตอบโจทย์ผู้บริโภค ที่ชื่นชอบการซื้อของแบรนด์ออนไลน์ แต่มีความลังเลที่จะตัดสินใจซื้อ เพราะกลัวสินค้าอาจไม่ตรงปกบ้าง ไซส์ไม่ตรงบ้าง ร้านค้ามัลติแบรนด์จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแก้ไขในจุดนี้นั่นเอง

จึงไม่แปลก ที่ในปัจจุบัน ร้านมัลติแบรนด์จะได้รับความนิยม และมีฐานลูกค้าที่มากมาย เพราะร้านมัลติแบรนด์ นอกจากจะรวบรวมสินค้าแบรนด์ออนไลน์ที่หลากหลายเอาไว้ในที่เดียวแล้ว ร้านมัลติแบรนด์ส่วนใหญ่จะมีการอัพเดทเทรนด์แฟชั่นให้ตามยุคสมัยอยู่เสมอ

เปิดเหตุผลทำไมแบรนด์ส่วนใหญ่จึงเลือกฝากขายกับร้านมัลติแบรนด์

เปิดเหตุผล ทำไมแบรนด์ออนไลน์ส่วนใหญ่ จึงเลือกฝากขายกับ” ร้านค้ามัลติแบรนด์ “

ในปัจจุบันที่การเปิดแบรนด์ของตัวเองไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป จึงมีแบรนด์ออนไลน์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่การขายช่องทางเดียวอาจไม่เพียงพอ แบรนด์ออนไลน์หลาย ๆแบรนด์ จึงมองหาช่องทางที่จะเพิ่มรายได้ และกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด

การจะเปิดหน้าร้านเองอาจไม่ตอบโจทย์แบรนด์ออนไลน์มากนักใช่มั้ยล่ะ ? ดังนั้นการฝากขายกับร้านค้ามัลติแบรนด์จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

ประโยชน์และสิ่งที่แบรนด์จะได้รับเมื่อฝากขายกับร้านมัลติแบรนด์

ประโยชน์ และสิ่งที่แบรนด์จะได้รับ เมื่อฝากขายกับร้านค้ามัลติแบรนด์  มีอะไรบ้าง MultiOne มีคำตอบ

  • การฝากขายกับร้านมัลติแบรนด์ จะช่วยกระจายสินค้าให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น แบรนด์จะได้ฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นนั่นเอง
  • ร้านมัลติแบรนด์ช่วยโปรโมทสินค้าให้แบรนด์ มีการโพสสินค้าลงช่องทางต่าง ๆของหน้าร้าน
  • แบรนด์ไม่ต้องเหนื่อยขายสินค้าเอง เพราะร้านจะช่วยทำหน้าที่ในการขาย การโปรโมท และการบริการลูกค้าหน้าร้านให้แบรนด์
  • เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ง่ายขึ้น ทั้งลูกค้าออนไลน์และหน้าร้าน
  • มีพื้นที่สำหรับทดลองและสัมผัสสินค้าจริง เพื่อเพิ่มการตัดสินใจให้แก่ลูกค้านั่นเอง

การฝากขายกับร้านมัลติแบรนด์น่าสนใจใช่มั้ยล่ะ นอกจากจะเป็นช่องทางใหม่ให้แบรนด์ได้มีพื้นที่สำหรับวางขายสินค้าหน้าร้าน การฝากขายกับร้านมัลติแบรนด์ยังมีข้อดีอีกมากมาย  แบรนด์ไม่ต้องลงทุนเปิดหน้าร้านจนงบบานปลาย ทั้งยังมีหน้าร้านที่คอยช่วยแบรนด์ขาย และโปรโมทสินค้า ไม่ต้องเหนื่อยเพิ่ม แบรนด์ออนไลน์ก็สามารถมีพื้นที่วางขายสินค้าของตัวเองได้ง่าย ๆ เพียงแค่เริ่มต้นฝากขายกับร้านมัลติแบรนด์

 

ตัวอย่างร้านมัลติแบรนด์ในระบบของ MultiOne

all about us logo

all about us

fashion & creator store สุดเก๋ แหล่งรวบรวมผลงานสร้างสรรค์ของนักวาด นักออกแบบมากมาย ไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า เครื่องประดับ สินค้าแฟชั่น หรือจะเป็นสินค้า stationery ต่าง ๆ อาทิ โปสการ์ด โปสเตอร์ สติ๊กเกอร์ และสารพัดของกุ๊กกิ๊กทั้งหลาย

here for sth logo

here for sth

Multi-Brand Store ที่มีความ Minimal ตั้งแต่บรรยากาศของร้าน ไปจนถึงสไตล์ของสินค้าที่วางขาย ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า น้ำหอม และเครื่องประดับต่าง ๆ ที่คุมโทนความ Minimal

the holiday logo
theholiday

Multi-Brand Store สไตล์ Stationary ที่รวบรวมสินค้าสุด cute ไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น postcard, sticker, tape และ soy wax candle 

 

MultiOne Platform เพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจคุณ

แพลตฟอร์มจัดการร้านมัลติแบรนด์ ร้านค้าปลีก และร้านค้ารับฝากขายสินค้าจากหลายแบรนด์ ที่จะมาช่วยให้การจัดการร้านค้าสะดวกสบายขึ้น ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากหลายขั้นตอน ลดความผิดพลาดการจัดการสินค้า เพิ่มรายได้ ความน่าเชื่อถือ และประเภทของสินค้าภายในร้าน จากการรับฝากขายสินค้าจากแบรนด์ดังในระบบ

  • แหล่งพบปะของร้านค้าออนไลน์ และออฟไลน์ พาร์ทเนอร์ที่ช่วยให้คุณขายได้มากขึ้น ผ่านการฝากขายยุคใหม่
  • การันตีด้วยพาร์ทเนอร์ร้านค้าดัง ขายดีที่ใช้ระบบมากกว่า 30 ร้านค้า และแบรนด์ดังที่ฝากขายผ่านระบบมากกว่า 2,000 แบรนด์

ระบบฟังก์ชันหลักสำหรับร้านค้าพาร์ทเนอร์ของ MultiOne ที่ช่วยให้การบริหารจัดการร้านค้าเป็นเรื่องง่าย

  • ระบบ POS แคชเชียร์และจัดการร้านค้าใช้งานง่าย
  • จัดการสต็อกสินค้า แยกรายแบรนด์ เช็คสะดวก
  • ร้านจัดการส่วนลด โปรโมชั่นร่วมกับแบรนด์ได้หลากหลาย
  • ออกบาร์โค้ด เชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องยิงบาร์โค้ด
  • มีระบบการใช้งานสำหรับพนักงาน
  • ออกเอกสารทางบัญชี
  • ระบบ Import Export ข้อมูล
  • จัดการข้อมูลลูกค้า และสินค้า
  • ระบบวิเคราะห์ข้อมูลยอดขายรายวัน รายเดือน แยกรายแบรนด์
  • วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและช่องทางจำหน่าย

และเรายังมีฟังก์ชันอีกมากมายสำหรับแบรนด์สินค้าที่มาลงฝากขาย ด้วยระบบที่ออกแบบมาให้ร้านค้าเจอกับแบรนด์ง่ายขึ้น ลดขั้นตอนการส่ง เช็ค และจัดการสินค้าฝากขาย ร้านค้าสามารถเลือกพาร์ทเนอร์ที่เหมาะสมกับหน้าร้านของคุณได้ง่ายๆ บนแพลตฟอร์ม

สนใจเป็นร้านค้าพาร์ทเนอร์ สนใจลงฝากขายสินค้า หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยที่ MultiOne INBOX

Learn More

ฝากขาย กับร้านมัลติแบรนด์ ยกสินค้าจาก Online สู่ On shelves ให้ลูกค้าได้สัมผัสกับสินค้าได้จริง!!!!

ทำไมถึงต้อง” ฝากขาย “กับร้านค้า Multi-Brand !?

        ปัจจุบัน แบรนด์ออนไลน์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นมามากมาย แม้จะมีสินค้าหลากหลายตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า แต่เมื่อลูกค้าเห็นแค่เพียงรูปถ่ายเพียงอย่างเดียว ก็เกิดความลังเลใจที่จะซื้อมากกว่าใช่มั้ยล่ะ

        ปัญหาใหญ่ของแบรนด์ออนไลน์คือ การไม่มีพื้นที่สำหรับให้ลูกค้าได้ลองสัมผัสสินค้าจริง และการจะเปิดหน้าร้านสักร้านหนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ภาระหน้าที่ในด้านการบริหารจัดการ การทำการตลาด การโปรโมท และอีกหลายอย่างที่อาจเกิดขึ้น 

        เมื่อการเปิดร้านอาจไม่ใช่เรื่องง่ายดายอย่างที่คิด อีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับแบรนด์ออนไลน์ที่ต้องการมีหน้าร้านสำหรับวางขายสินค้า คือการ “ ฝากขาย ” กับร้านมัลติแบรนด์

        “ การฝากขาย ” หรือ consignment คือ การที่แบรนด์สินค้า หรือผู้ผลิตนำสินค้าไปลงฝากขายที่หน้าร้าน หรือห้างสรรพสินค้า โดยสินค้าที่ได้ทำการฝากขายนั้น จะเป็นสิทธ์ของแบรนด์ หรือเจ้าของตามเดิม และเมื่อสินค้าถูกขายออกไป สินค้าจะเปลี่ยนเป็นสิทธ์ของลูกค้าโดยทันที ในส่วนของรายได้ที่ได้รับ แบรนด์สินค้าจะทำการแบ่งเปอร์เซ็นต์หรือจ่ายค่าเช่าพื้นที่ในการฝากขายตามแต่ตกลงกับหน้าร้านนั้นๆ

ข้อดีของการฝากขายสินค้า

การฝากขายสินค้ามีข้อดีอย่างไรบ้าง ?

  1. แบรนด์สามารถเลือกพื้นที่หน้าร้านสำหรับฝากขายสินค้าได้อย่างเหมาะสม ทั้งด้านงบประมาณ ทำเลที่ต้องการ กลุ่มลูกค้าที่เหมาะสมกับสินค้า เนื่องจากมีหน้าร้านที่เปิดรับฝากขายสินค้าเป็นจำนวนมาก แบรนด์จึงมีตัวเลือกในการฝากขายหน้าร้านที่หลากหลาย
  2. แบรนด์เพิ่มช่องทางการวางขายสินค้าให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น เพิ่มความสะดวกในการซื้อสินค้าให้แก่ลูกค้า ทั้งยังเป็นการช่วยขยายฐานลูกค้าอีกด้วย 
  3. แบรนด์สามารถควบคุมราคาสินค้าได้ แม้จะมีการฝากขายสินค้ากับหน้าร้านจำนวนมาก แต่แบรนด์จะเป็นผู้กำหนดราคาขายสินค้าแต่เพียงผู้เดียว หมดปัญหาร้านค้าขายเกินราคาหรือขายตัดราคา

        ในปัจจุบัน การฝากขายกับร้านมัลติแบรนด์ อีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการของแบรนด์ออนไลน์ ที่ต้องการมีพื้นที่สำหรับวางขายสินค้า นอกจากจะช่วยกระจายสินค้าให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น ร้านมัลติแบรนด์ยังช่วยแบรนด์ขาย และโปรโมทสินค้าให้แบรนด์ ไปในตัว ร้านมัลติแบรนด์ส่วนใหญ่จะมีการจัดการร้านที่เป็นระบบทำให้แบรนด์ไม่ต้องกังวลถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเมื่อมีการฝากขายอีกด้วย

        เมื่อการขายออนไลน์ช่องทางเดียวอาจไม่เพียงพอ แบรนด์ออนไลน์อยากเริ่มต้นฝากขายสินค้า สิ่งที่แบรนด์ควรพิจารณามีอะไรบ้าง แบรนด์ควรเลือกหน้าร้านสำหรับการฝากขายยังไง น้องมัลตี้มีคำตอบ

เลือกหน้าร้านฝากขายยังไงให้ปัง

จะเลือกลง” ฝากขาย “กับร้านมัลติแบรนด์ เลือกหน้าร้านยังไงให้ปัง

        สำหรับแบรนด์ออนไลน์ที่อยากเริ่มต้นฝากขาย แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกยังไง ควรพิจารณาปัจจัยอะไรบ้าง วันนี้น้องมัลตี้มีแนวทางดีๆมาฝาก จะมีอะไรบ้าง มาเช็คกันเลย!

        1.พิจารณาคอนเซปต์ของร้าน 

สิ่งแรกที่ควรพิจารณา คือ คอนเซ็ปต์ของหน้าร้านฝากขาย ว่าตรงกับกลุ่มลูกค้าของเราหรือเปล่า ช่วงราคาที่ใกล้เคียงกัน กับสินค้าอื่น ๆ ภายในร้าน และสไตล์ของสินค้าเรา เข้ากับหน้าร้านมั้ย

        2. พิจารณาทำเลที่ตั้ง

สินค้าที่เราฝากขายนั้น จะขายดีหรือไม่ ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าทำเลที่ตั้งของหน้าร้านฝากขายอยู่ในบริเวณ ที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหรือเปล่า รายได้ของกลุ่มลูกค้าบริเวณนั้น อายุและอาชีพ สิ่งเหล่านี้ จะช่วยให้คุณวิเคราะห์ได้ว่า สินค้าของเราตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าในพื้นที่นั้นหรือเปล่า แล้วทำเลในจุดไหน ที่จะทำให้เราได้ลูกค้าเป้าหมาย ที่มีแนวโน้มจะซื้อสินค้าของเราได้มากที่สุด

         3.พิจารณาฐานลูกค้า

ฐานลูกค้าเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลย แม้ว่า ที่ทำเลจะดีแค่ไหน หรือ คอนเซ็ปต์ของหน้าร้านฝากขาย จะตรงและถูกใจมากเท่าไหร่ แต่ ถ้าไม่มีฐานลูกค้าที่แน่นพอ ก็รับประกันได้ยาก ว่าสินค้าที่เราส่งไปฝากขายนั้น จะขายออกได้เมื่อไหร่ ดังนั้น น้องมัลตี้ขอแนะนำ ให้เลือกหน้าร้านฝากขาย ที่มีฐานลูกค้าอยู่แล้ว ดีกว่าหน้าร้านฝากขายที่ไม่มีฐานลูกค้าเลย เพื่อให้สินค้า ที่ฝากขายหน้าร้านของคุณ มีเปอร์เซ็นต์ การขายออก ที่มากขึ้น

        4.พิจารณาค่าเช่า

พิจารณาค่าเช่า ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของค่าเช่าแผง ค่าเช่า Shelf ค่าบล็อกหรือแม้แต่ค่าเช่าราวเสื้อผ้าก็ล้วนต้องผ่านการพิจารณาอย่างดี หากค่าเช่าแพงเกินไปก็ไม่คุ้มที่จะนำสินค้าไปลงแน่นอนแต่ไม่ใช่ว่าเห็นค่าเช่าแพงก็ปัดตกหมดทุกร้านนะต้องดูด้วยว่าที่แพงเพราะปัจจัยอะไรอาจจะแพงเพราะเป็น Shelf ที่อยู่โซนสินค้าแนะนำมีฐานลูกค้าเยอะ ร้านอยู่ในทำเลที่ตั้งดีหรือแม้แต่แพงเพราะร้านมีชื่อเสียง ปัจจัยเหล่านี้ ล้วนมีค่าให้พิจารณาดูอีกครั้ง

        5.พิจารณาการจัดการภายในร้าน

หากว่าเราจะต้องฝากขายกับหน้าร้านที่จัดการอะไรต่าง ๆ ภายในร้านแบบยุ่งยากวุ่นวายเราก็คงไม่อยากร่วมงานด้วยหรอกใช่มั้ย เพราะฉะนั้น น้องมัลตี้แนะนำให้เลือกร้านที่มีการจัดการภายในร้านที่เป็นระบบดีกว่า

5 ข้อดีของการฝากขายกับ multione

เปิดเหตุผล ทำไมแบรนด์ออนไลน์ถึงไว้ใจ MultiOne

หลายคนอาจสงสัย ทำไมต้องฝากขายกับ MultiOne วันนี้น้องมัลตี้จะมาแนะนำ 5 ข้อดี ฝากขายกับ MultiOne เพื่อนคู่ใจที่จะช่วยให้การฝากขายของคุณเป็นเรื่องง่าย

1.มีระบบหลังบ้านที่ครบครัน

เช็คสต๊อก กรอกข้อมูล ตรวจสอบยอดขาย เราช่วยให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่าย ๆ

2.ขายได้ทั้งออนไลน์และหน้าร้าน

หมดยุคการขายของเพียงช่องทางเดียว! MultiOne ตัวช่วยที่จะทำให้เพื่อน ๆ ขายของง่าย ทั้งออนไลน์และหน้าร้าน

3.เชื่อมต่อ LineOA ให้การขายของคุณไม่จำกัด

ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เพื่อน ๆ สามารถขายได้ทุกที่ ทุกเวลา

4.มีบอทช่วยตอบลูกค้า

หมดปัญหาลูกค้าทักมาดึก ๆ แล้วตอบไม่ทัน! เรามีบอทอัตโนมัติช่วยตอบลูกค้า ช่วยลดภาระให้แอดมินอีกด้วย

5.ขยายฐานลูกค้าให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น

การฝากขายจะช่วยเพิ่มช่องทางการมองเห็นให้สินค้า ลูกค้าจากหน้าร้านจะเข้าถึงแบรนด์สินค้าของเพื่อน ๆ ได้ง่ายขึ้น

 

สำหรับแบรนด์ออนไลน์ที่สนใจอยากฝากขายสินค้ากับร้านมัลติแบรนด์แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มที่ตรงไหน วันนี้น้องมัลตี้มีแพลตฟอร์มดีๆ มาแนะนำนั่นก็คือ MultiOne Platform ของเรานั่นเอง

Learn More

ธุรกิจฝากขาย กับเทรนด์มาแรงในยุคปัจจุบัน อย่าง ” ร้านมัลติแบรนด์ ” นั้นดีอย่างไร แล้วทำไมผู้ประกอบการที่เปิดกิจการทำ ” ธุรกิจฝากขาย ” ถึงควรเลือกเทรนด์นี้…. 

 

ร้านรับฝากขายคืออะไร?

ก่อนจะมาเริ่มทำความรู้จักกับ Multibrand Store อยากให้ทุกคนลองนึกถึงการทำธุรกิจประเภทร้านค้าฝากขายดูก่อน การฝากขาย หรือ Consignment คือ การที่เจ้าของสินค้าหรือเจ้าของแบรนด์ไป ฝากขายสินค้าตามร้านค้าต่าง ๆ ซึ่งการที่เรานำสินค้าไปฝากขายของตามร้านนั้นแบรนด์จะยังถือว่าเป็นเจ้าของจนกว่าสินค้าจะถูกขาย โดยหน้าร้านจะหักค่า GP จากราคาสินค้าก่อนที่แบรนด์จะได้รับเงิน

เรื่องของเรื่องก็คือ แบรนด์ผลิตสินค้าออกมาก็ต้องการหาช่องทางที่จะขายสินค้าออกไป พ่อค้าแม่ค้าหน้าร้านก็ต้องการที่จะหาของมาขาย ไม่ว่าจะเพราะที่ว่างในร้านเหลือ หรืออยากเพิ่มความหลากหลายของสินค้าภายในร้าน ความต้องการของทั้งคู่จึงมาพบเจอกัน เกิดเป็นโมเดลธุรกิจนี้ขึ้นมา

การเป็นร้านค้า Multi-Brand ดีกว่ายังไง ?

การเป็นร้านค้ามัลติแบรนด์นั้นมีประโยชน์มากมาย แต่ข้อดีหลักๆก็คือ

1.การเพิ่มความหลากหลายของสินค้า – เป็นการสร้างข้อได้เปรียบช่องทางหนึ่งให้เหนือกว่าคู่แข่ง โดยการเพิ่มตัวเลือกหมวดหมู่ประเภทสินค้าทั้งด้านคุณภาพและราคาจากหลากหลายแบรนด์ให้ตอบโจทย์ลูกค้าหลายประเภท ถ้ายังนึกไม่ออกลองนึกถึงร้านเสื้อผ้าที่ขายเสื้อ กางเกง รองเท้า และเครื่องประดับ จากหลายๆแบรนด์ในร้านเดียวนั้นสามารถทำให้ใช้พื้นที่ว่างในร้านค้าในการเปิดให้ลงฝากขายและทำเพิ่มเติมให้กับร้านค้าเพื่อกระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้

2.เพิ่มประสิทธิภาพของการโฆษณา – การมีแบรนด์สินค้าฝากขายเป็นจำนวนมาก ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่ร้านมัลติแบรนด์เพียงอย่างเดียว ยังเป็นการเพิ่มช่องทางให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น ทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์ในด้านการโปรโมทหน้าร้านให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ร้านมัลติแบรนด์เองก็จะได้ทั้งฐานลูกค้าเดิมจากแบรนด์และลูกค้าจากกลุ่มใหม่

3.การจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ – การเปิดร้านมัลติแบรนด์ ร้านไม่ต้องจ่ายค่าสต๊อกสินค้าเพราะแบรนด์จะทำการส่งสินค้าให้ร้านช่วยขายหน้าร้าน ดังนั้น ร้านจึงประหยัดค่าต้นทุนการสต๊อกสินค้าและค่าดูแลรักษาสินค้า อีกทั้งร้านมัลติแบรนด์ยังมีรายได้จากค่าเช่าที่หน้าร้านและค่า GP ที่เก็บจากแบรนด์อีกด้วย

4.เพิ่มกลุ่มลูกค้า – การมีแบรนด์สินค้าที่แตกต่างกันจะช่วยดึงดูดลูกค้าต่างความชอบ อายุ รายได้ เข้ามายังร้านมัลติแบรนด์ กลยุทธ์สำคัญของร้านมัลติแบรนด์คือมีสินค้าที่หลายแบบและหลายสไตล์คอยตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายและไม่ยึดติดกับการซื้อสินค้าแบรนด์เดียว

 

แต่ว่าร้านรับฝากขายทั่วไปมักจะใช้ระบบ Manual หรือ POS ทั่วไปในการจัดการระบบสินค้าที่รับมาลงฝากขาย แพลตฟอร์ม MultiOne จึงสร้างมาเพื่อแก้ไขปัญหา และตอบโจทย์ร้านค้า Multi-Brand ยุคใหม่ ที่ต้องการพัฒนาหน้าร้านของตัวเองให้มีระบบการจัดการและจัดส่งสินค้าที่ครบครันและสะดวกทั้งสำหรับร้านค้า แบรนด์ พร้อมทั้งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าไปด้วยกัน

 

ข้อดีของฟังก์ชัน MultiOne Platform มีอะไรบ้าง ??

  • ระบบ POS จัดการร้าน Multi-brand

ฟังก์ชันขายหน้าร้าน ตัวช่วยที่จะทำให้การขายหน้าร้านของคุณง่ายขึ้น มาพร้อมฟีเจอร์ที่ใช้งานง่ายและสะดวก เช่น ฟีเจอร์แคชเชียร์หน้าร้าน, ฟีเจอร์รายงานยอดขาย, ฟีเจอร์ระบบสมาชิก, ฟีเจอร์สรุปกะสำหรับหน้าร้านที่มีพนักงานจำนวนมาก 

  • ระบบจัดการสต๊อคสินค้าจากหลายแบรนด์

          ฟังก์ชันจัดการแบรนด์และสต๊อกสินค้า ไม่ว่าจะเพิ่มแบรนด์ จัดการสัญญากับแบรนด์ จัดการสินค้าที่ฝากขายหรือจะส่งคืนสินค้า ก็สามารถจัดการได้ง่าย รองรับการใช้งานกับสินค้าระดับ SKU จำแนกสินค้าได้ตามประเภท 

  • ฟังก์ชันรายงานยอดขาย

          ฟังก์ชันรายงานยอดขายทั้งโดยรวมและแยกรายแบรนด์ รายงานยอดขายย้อนหลังได้ทั้งรายสัปดาห์และรายเดือน พร้อมฟีเจอร์ออกใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงิน

  • ระบบ Matching ค้นหาและจับคู่ร้านค้ากับแบรนด์ได้ง่ายๆ

          ฟังก์ชันที่ช่วยค้นหาแบรนด์ฝากขาย ซึ่งจะแสดงรายละเอียดและช่องทางติดต่อของแบรนด์พาร์ทเนอร์ในระบบของเราเพื่อใช้ในการจับคู่ฝากขาย สามารถเลือกค้นหาตามประเภทสินค้าหรือชื่อแบรนด์ได้ 

  • ฟรี !! เชื่อมต่อสต๊อคสินค้ากับ Line OA และช่องทางอี-คอมเมิร์ซอื่นๆ

          ฟังก์ชันร้านค้าออนไลน์ครบวงจร ฟรี! Sale Page โปรโมทสินค้า เชื่อมข้อมูลสินค้ากับสต๊อกหน้าร้านได้อย่างไม่จำกัด ขายไม่มีสะดุดทุกช่องทาง

  • การจัดการโปรโมชั่นผ่านระบบได้ง่ายๆ

          ฟังก์ชันที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ร้านและแบรนด์ออกโปรโมชั่นร่วมกันได้ เพียงแค่แบรนด์กำหนดโปรโมชั่นขึ้นมาในระบบ หน้าร้านก็จะสามารถตรวจสอบและอนุมัติได้อย่างรวดเร็ว

ทำไมต้องเทรนด์ร้าน Multibrand ?

พฤติกรรมของคน Gen Y และคน Gen Z

คน Gen Y และ Z เป็นคนในยุคใหม่ ที่เกิดมาในยุคที่เทคโนโลยีมีผลกระทบกับการใช้ชีวิต ทำให้มีพฤติกรรมบางส่วนที่คล้ายกัน นั่นก็คือ ความต้องการอิสระในชีวิต และการทำงาน แนวโน้มของคนรุ่นใหม่จึงมีโอกาสที่จะทำธุรกิจเป็นของตนเองสูง อย่างที่เรามักจะเห็นอาชีพแนวอิสระใหม่ๆ ที่ได้รับความนิยมกัน เช่น Blogger, Youtuber, นัก Review หรือทำธุรกิจอื่นๆ เองเป็นต้น อีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับคนยุคนี้ก็คือ ร้าน Multi-brand เงินลงทุนหลักๆ จะเป็นค่าเช่าสถานที่ที่ไม่มากจนเกินไป และจะได้รับคืนมาเป็นค่าเช่าพื้นที่ฝากขาย ทำให้มีความมั่นคงค่อนข้างสูง และที่สำคัญคือ มันเป็นธุรกิจที่อินดี้มากๆ เพราะ Concept ของร้าน แล้วแต่เจ้าของจะ Design ตั้งแต่การตกแต่ง, อารมณ์ของร้าน, Brand ที่จะนำมาลงขาย, สินค้าอะไรที่ต้องการ หรือไม่ต้องการ เห็นแล้วมันตอบโจทย์กับคำว่า อิสระทางความคิด และการใช้ชีวิตจริงๆ

 

โลกที่ไร้ซึ่งพรมแดน

เป็นสิ่งที่เอื้อทำให้ธุรกิจ Multibrand เกิดขึ้นได้ง่ายขึ้นอย่างมาก นึกภาพตามดูครับ ถ้าเราเปิดร้านอยู่จังหวัดเชียงใหม่ แต่เราต้องการเสื้อผ้าจาก Brand ที่ผลิตที่กรุงเทพฯ เราไม่มีความจำเป็นต้องลงทุนเดินทางลงไปเพื่อติดต่อแบบ face to face อีกแล้ว หากการตกลงสัญญา และเงื่อนไขจบ เราก็พร้อมรับของจากทางกรุงเทพฯ ได้ทันที หรือ ถ้าเรามองไกลยิ่งกว่านี้คือ Brand จากต่างประเทศหละ นั่นก็เป็นสิ่งที่เป็นไปได้เช่นเดียวกันสำหรับยุค Digital Disruption

 

เป็นจุด Start ให้กับ SME และช่องทางขายให้ธุรกิจอื่นๆ ได้

การแข่งขันธุรกิจในยุคนี้มีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ การทำการตลาดเพื่อเอาชนะใจลูกค้า เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตธุรกิจไปเสียแล้ว ดังนั้นเรื่องของ Cost เป็นสิ่งที่ต้องจัดการให้ดี ลงทุน 1 แต่ให้ได้ผลตอบแทน 10 หรือมากกว่า การฝากขายนอกจากจะได้ช่องทางการขายสู่มือลูกค้าที่มากขึ้น ประหยัดค่าเช่าเปิดร้านใหม่ ค่าพนักงาน ค่าบริหารต่างๆ แล้ว ที่สำคัญที่สุดเลยคือ Marketing ที่ทางร้านจะช่วยเสริม ให้กับทาง Brand ที่มาฝากขาย หรือนั่นคือการทำ Double Marketing ระหว่าง Brand เอง และ ร้านฝากขายนั่นเอง

 

เริ่มต้นได้ทันที

หากเป็นรูปแบบของการสร้างธุรกิจทั่วไป จะต้องผ่านการใช้เวลาวางแผน และเตรียมตัวก่อนจะเริ่มธุรกิจค่อนข้างนาน ยิ่งหากเป็นธุรกิจที่เน้น Value สร้างความแตกต่างด้วยนวัตกรรม อาจต้องกินเวลายาวนอนไปเป็นเดือนถึงปี ช่วงเวลาที่เสียไป คือต้นทุนค่าเสียโอกาส และจะเป็นช่วงเวลาที่เด็กๆ รุ่นใหม่ที่เริ่มต้นธุรกิจโดนพายุของแรงกดดันจากคนรอบข้าง ทั้งคำตักเตือน คำสอน หรือคำตำหนิต่างๆ มากมาย เช่น “เสียเวลาไปหลายเดือนแต่ยังไม่ได้เงินสักบาทเลย สู้เอาเวลาไปสมัครงานธุรกิจที่มั่นคงเสียดีกว่า….” เห็นภาพชัดเจนเลยถ้าเทียบกับ Multibrand แล้ว ที่สามารถเริ่มต้นได้เลยอย่างรวดเร็ว ไม่มีขั้นตอนยุ่งยาก และซับซ้อน

 

Work Life Balance และ อิสระภาพทางการเงิน

เป็นสิ่งที่ทุกๆ ต้องการจะมีในชีวิตอย่างแน่นอนไม่มากก็น้อย ธุรกิจที่จะทำให้เราเป็นเสือนอนกินได้นั้น โดยส่วนมากแล้วจะเป็นที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ ที่ได้รับรายได้เป็นค่าเช่าที่มั่นคง High Risk – High Return ลงทุนด้วยเม็ดเงินจำนวนมาก ก็มีโอกาสเสียมาก แต่หากสำเร็จก็อาจจะมีอิสระภาพทางการเงินได้เลย… ธุรกิจ Multibrand เป็นการย่อขนาดของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้อยู่ใน scale ที่เราสามารถทำได้ผ่านการเก็บค่าเช่าพื้นที่ฝากขาย และแน่นอนว่าธุรกิจนี้ต่อไปในอนาคต มีโอกาสที่จะทำให้คนรุ่นใหม่หลายๆ คนอาจกลายเป็นวัยรุ่นร้อยล้านกันได้

 

ทิ้งท้ายสักนิด…

ร้านค้า Multi-Brand นั้นแน่นอนว่าสร้างความได้เปรียบได้ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจทั่วไป หรือร้านค้าแทบจะทุกแนวได้อย่างหลากหลายแล้ว หากยิ่งได้แพลตฟอร์มดีๆแบบ MultiOne ไปช่วยอำนวยความสะดวกให้กับทางร้านแล้วล่ะก็รับรองได้เลยว่า เราจะเติบโตไปด้วยกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุดแน่นอน ทั้งหน้าร้านค้า แบรนด์ออนไลน์ และพวกเรา MultiOne ที่จะคอยพัฒนา สนับสนุน และแก้ไขทุกปัญหาที่เจอ พร้อมคอยเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดให้กับทุกธุรกิจเอง

 

Learn More

ร้านมัลติแบรนด์ ที่กำลังเริ่มกิจการใหม่นั้น ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ? หากอยากเป็น ร้านมัลติแบรนด์ ที่ประสบความสำเร็จ

multy chart shop

กลยุทธ์ multi-brand คือ วิธีการของบริษัทในการสร้าง กำหนดรูปแบบ และโฆษณาแบรนด์ต่างๆ 

โดยการใช้แบรนด์ การมีพอร์ตโฟลิโอผลงานของแบรนด์นั้น บริษัทสามารถเสนอผลิตภัณฑ์ต่างๆที่มีคุณสมบัติและวัตถุประสงค์เฉพาะเจาะจง เพื่อให้ลูกค้ามีตัวเลือกที่หลากหลายและสามารถกำหนดเป้าหมายเฉพาะสำหรับลูกค้าและตลาดที่ต้องการได้

ร้านค้าควรพิจารณาเกี่ยวกับปัจจัยบางอย่างในแต่ละแบรนด์ ในกลยุทธ์ Multi-brand ซึ่งรวมถึงวัตถุประสงค์ของแบรนด์ กลุ่มเป้าหมาย และความแตกต่างจากการแข่งขัน แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จจะต้องนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ซึ่งช่วยแก้ปัญหาและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ 

องค์ประกอบที่สำคัญของกลยุทธ์ Multi-brand

ก่อนที่เราจะประสบความสำเร็จนั้นเราควรทราบถึงองค์ประกอบที่สำคัญก่อนที่

1.เป้าหมาย: กลยุทธ์ Multi-brand ช่วยทำให้ธุรกิจของคุณบรรลุเป้าหมาย ช่วยทำให้ธุรกิจทำเงินได้มากขึ้น การตัดสินใจกำหนดเป้าหมายเมื่อวางแผนกลยุทธ์ Multi-brand นั้นสามารถช่วยให้บริษัทของคุณนั้นทำการตลาด วางแผนการขายที่รอบคอบและมีเป้าหมายได้

2.ความสม่ำเสมอ: หากแบรนด์ของบริษัทในกลยุทธ์ Multi-brand มีความสอดคล้องกันในด้านคุณภาพ ภาพลักษณ์ และวัตถุประสงค์ ลูกค้าจะจดจำและนึกถึงได้ง่ายขึ้น การรักษาความสอดคล้องกันของแบรนด์ต่างๆ หลายๆแบรนด์ในบริษัท สามารถช่วยแยกความแตกต่างจากแบรนด์อื่นได้

3.การมีอารมณ์ร่วม: แบรนด์ในกลยุทธ์ Multi-brand สามารถดึงดูดอารมณ์หรือความรู้สึกที่แตกต่างกันเพื่อดึงดูดลูกค้าที่มีแตกต่างกันทางอารมณ์ เช่น แบรนด์ๆหนึ่งของบริษัทอาจเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าแบรนด์อื่นๆ ซึ่งสามารถดึงดูดความรู้สึกของลูกค้าเกี่ยวกับการรักษ์สิ่งแวดล้อมได้

4.ความยืดหยุ่น: ในกลยุทธ์ Multi-brand ธุรกิจจะต้องมีความคิดสร้างสรรค์ สามารถแก้ปัญหา ปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง และสถานการณ์อยู่เสมอ ซึ่งหมายถึงการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดผลิตภัณฑ์ และบริการเพื่อให้ทันกับเทรนด์ในปัจจุบันอยู่เสมอ

เคล็ดลับในการสร้างกลยุทธ์ multi-brand มีอะไรบ้าง

เคล็ดลับในการสร้างกลยุทธ์ Multi-brand มีอะไรบ้าง

เช็คความสามารถตัวเอง: ก่อนการสร้างกลยุทธ์ Multi-brand ต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าเรามีทรัพยากรเพียงพอที่จะใช้เวลา ความพยายาม และเงินเพื่อสร้างแบรนด์ที่แยกกันจากการตลาด

การสร้างเป้าหมาย: การสร้างเป้าหมายสำหรับกลยุทธ์ Multi-brand จะช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถติดตามความคืบหน้าได้ โดยคำนึงถึงเป้าหมายตลอดกระบวนการทางการตลาด

การเลือกมูลค่าแบรนด์ของตัวเอง: ลูกค้ามักจะตอบรับในเชิงบวก หากแบรนด์มีหลักการ ความเชื่อ และค่านิยมที่ชัดเจน จะสามารถดึงดูดลูกค้าให้มาภักดีกับแบรนด์ของคุณได้

เน้นแบรนด์เฉพาะกลุ่ม: แบรนด์ต่างๆ มีมากมาย จึงเป็นความคิดที่ดีที่จะทำให้ลูกค้าเข้าใจถึงความแตกต่างในแต่ละแบรนด์ เน้นถึงลักษณะเฉพาะของแต่ละแบรนด์เพื่อให้แบรนด์มีจุดเด่นของตัวเองและให้ประโยชน์ที่เฉพาะตัวให้ลูกค้าจะได้รับ

สร้างแบรนด์ของคุณ: สร้างแบรนด์แต่ละแบรนด์ ด้วยการนำไปใช้กับโลโก้ หน้าโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่างๆ ป้ายโฆษณา และอื่นๆ การตลาดประเภทนี้สามารถช่วยให้แบรนด์ดูเป็นทางการและทำให้ลูกค้าไม่เกิดความสับสนกัแบรนด์อื่นๆ

ดำเนินการวิเคราะห์คู่แข่ง: การวิเคราะห์คู่แข่งคือการประเมินจุดแข็งและจุดอ่อนของคู่แข่งที่แท้จริงและมีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นในบริษัท การวิเคราะห์นี้ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจอุปสรรคต่อความสำเร็จที่เป็นไปได้และวิธีก้าวข้ามอุปสรรคเหล่านั้น

อะไรคือสิ่งที่ต้องเตรียมเพื่อให้ร้านค้าปลีก multi-brand ประสบความสำเร็จ?

        ด้วยความที่ว่าสินค้ามีหลายประเภท ร้าน multi-brand จึงสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างรวดเร็วและทันกับเทรนด์ใหม่ล่าสุดเสมอ ด้วยความหลากหลายของแบรนด์ที่คุณได้รับ ร้านของคุณจึงสามารถสร้างความเหนือกว่าในตลาดและคู่แข่งของคุณได้

        ลูกค้าจะเลือกร้านของคุณเสมอเนื่องจากการอัพเดทที่รวดเร็วและการปรับตัวสูงให้เข้ากับความต้องการของตลาด

โฆษณาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

        ด้วยแบรนด์ที่มากกว่าหนึ่งแบรนด์ในร้านค้าของคุณ คุณสามารถรับการสนับสนุนจากแบรนด์พาร์ทเนอร์ที่มาลงฝากขายในด้านการตลาด แทนที่จะโฆษณาด้วยตัวเอง คุณมีแบรนด์อื่นๆ โปรโมทภาพของคุณต่อผู้บริโภคมากขึ้น ไม่ใช่เน้นแค่การโปรโมทร้านค้าของตัวเอง แต่ร้านค้าก็ควรโปรโมทสินค้าของแบรนด์ที่นำมาลงขายให้ดีด้วย

multibrand store blog

        นอกจากนี้ คุณยังมีตัวเลือกเพิ่มเติมเพื่อแสดงจุดแข็งของคุณ พาร์ทเนอร์แบรนด์จำนวนมากถือว่าเป็นจุดที่แสดงให้เห็นว่าธุรกิจมีความน่าเชื่อถือได้ ความหลากหลายเป็นพ้อยหลักที่ทำให้ชนะใจลูกค้า ที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและลดระยะเวลาการทำการตลาด

จัดระเบียบงบประมาณอย่างถูกต้อง

การให้ความร่วมมือกับแบรนด์อื่นจำนวนมากๆ นั้นยังหมายถึงการประหยัดทรัพยากรจำนวนมาก ที่ต้องจัดการให้เป็นระบบอีกด้วย

        1.ร้านค้าช่วยให้แบรนด์ออนไลน์ขายสินค้าได้มากขึ้น ดังนั้นจะมีค่าธรรมเนียมสำหรับแบรนด์อื่นๆที่เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจคุณ ซึ่งจะช่วยให้คุณดูแลและยกระดับร้านค้าให้มีระดับ และสไตล์ตรงตามแบรนด์ที่นำมาลงขายอยู่ด้วย ซึ่งการจัดการสินค้าและแต่ละแบรนด์ให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพนั้นเป็นสิ่งสำคัญ

        2.ขั้นตอนต่อไป ในฐานะร้านค้าปลีก multi-brand คุณไม่จำเป็นต้องมีสินค้าคงคลัง เนื่องจากแต่ละแบรนด์จะมีพื้นที่จัดเก็บของตัวเอง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเช่าสถานที่และทรัพยากรบุคคลเพื่อติดตามและพัฒนาสินค้า แต่ร้านค้าก็ต้องมีการติดตาม คาดการณ์การเติมสินค้าและคัดเลือกสินค้าใหม่ๆ ที่ต้องการนำมาลงขายให้ดี

ได้รับอนุญาตจากแบรนด์ที่ให้ความร่วมมืออื่น ๆ

        จะไม่มีความหมายอะไรสำหรับร้านค้าที่มีผู้ค้าหลายรายที่ไม่มีแบรนด์ใดทำงานด้วย ดังนั้น สิ่งแรกที่ต้องทำคือติดต่อธุรกิจที่เลือกให้เหมาะกับสไตล์ของคุณ และเสนอให้พวกเขาขายผลิตภัณฑ์ของพวกเขา

        การขออนุญาตจะชี้แจงกระบวนการและผลกำไรของแต่ละฝ่าย รวมทั้งเสริมสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกันระหว่างแบรนด์เพื่อหลีกเลี่ยงการโกง

สร้าง workflow สำหรับการสั่งซื้อและการจัดการจัดส่งสินค้า

workflow1

        เพื่อให้กระบวนการเป็นไปอย่างราบรื่น ควรจัดทำแผนครอบคลุมสำหรับคำสั่งซื้อและการจัดการจัดส่งสินค้า ในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ต่างๆ การติดตามธุรกรรมทั้งหมดเป็นสิ่งสำคัญ workflow ที่ชัดเจนยังช่วยให้คุณสร้างประสบการณ์ของลูกค้าที่น่าพึงพอใจ ซึ่งจะลดการเสียรายได้จากสินค้าขาด

เลือกแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เหมาะสมกับคุณ

        ด้วยความบูมของอีคอมเมิร์ซ การนำร้าน multi-brand ออนไลน์ จึงเป็นกลยุทธ์ของเจ้าของกิจการจำนวนมากในขณะนี้ การสร้างแพลตฟอร์มที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ซึ่งน่าเชื่อถือ ปรับขนาดได้ และปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ คุณจะไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้เลยหากมีบริการที่ไม่เสถียรกับผู้ใช้งาน

        ซึ่งทาง MultiOne เราก็มีสิทธิพิเศษสำหรับผู้ใช้งานแพลตฟอร์มในการใช้ Line OA ได้ ฟรี !!

ต้องทำอย่างไรถึงจะชนะในเกมค้าปลีก multi-brand ได้?

        ต่อไป ให้เราแสดงวิธีชนะ multi-brand game ด้วยการเตรียมการอย่างระมัดระวังและการเดินเกมอย่างชาญฉลาด คุณสามารถเพิ่มยอดขายได้สูงกว่าที่คุณคาดไว้

เข้าใจเป้าหมายของคุณ

        เป้าหมายสูงสุดของทุกธุรกิจคือ การทำให้ลูกค้าซื้อมากขึ้นและเราได้รับกำไร ดังนั้น หากคุณไม่เข้าใจลูกค้าของคุณ คุณจะไม่สามารถเอาชนะธุรกิจใดๆได้ สำหรับร้านค้าที่มีผู้ค้าหลายราย ปัญหานี้จะมีความรุนแรงกว่า: คุณขายผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ มากมาย แต่ถ้าหากพวกเขาไม่ตอบสนองต่อความต้องการของเป้าหมาย คุณจะไปต่อไม่ได้ มันจะเป็นปัญหาใหญ่ไม่เพียงแต่ธุรกิจของคุณอย่างเดียวแต่รวมไปถึงพาร์ทเนอร์ของคุณด้วย ดังนั้นอย่าลืมทำการวิจัยผลิตภัณฑ์และการตลาดก่อนทำการตัดสินใจครั้งใหญ่

มั่นใจได้ถึงกระบวนการที่คล่องตัวและได้มาตรฐาน

รักษาคุณภาพการบริการ customer service quality

        จากการวิจัยพบว่า ลูกค้า 74% เดินจากไปเพราะว่า การบริการลูกค้าที่ไม่ดีและกระบวนการซื้อที่ยากลำบาก ในขณะที่เปอร์เซ็นต์เดียวกันตกหลุมรักแบรนด์สำหรับการสนับสนุนที่เป็นประโยชน์ ในฐานะที่เป็นร้านค้า multi-brand คุณควรรักษาคุณภาพการบริการอย่างสม่ำเสมอ

        การใช้งานเกตเวย์การชำระเงินที่ปลอดภัยและชาญฉลาดจะช่วยให้ลูกค้าเพลิดเพลินกับการเดินทางช้อปปิ้งที่ร้านค้าของคุณ

ตรวจสอบเป็นประจำ

        การจัดการแบรนด์ต่างๆ มากมายอาจเป็นงานที่เหนื่อย แต่อย่าลืมติดตามเป็นประจำ รายงานเพื่อตอบคำถามสำคัญ เช่น ‘มีสินค้าคงคลังหรือไม่’ หรือ ‘ประสิทธิภาพของแบรนด์ A ในเดือนนี้เป็นอย่างไรบ้าง’ ควรดำเนินการอย่างถี่ถ้วนเสมอ ข้อมูลนี้มีบทบาทสำคัญในการกำหนดกลยุทธ์ในอนาคตของคุณ

        นอกจากนี้ การตรวจสอบบ่อยๆ ยังช่วยให้คุณอัปเดตและปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ในโลกสมัยใหม่ได้

        ร้านค้า multi-brand เริ่มคุ้นเคยกับผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นกลยุทธ์หนึ่งในการแก้ไขปัญหาความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และการลดต้นทุน จากความต้องการในทางปฏิบัติ คุณสามารถเลือกเส้นทางนี้เพื่อนำธุรกิจของคุณไปสู่ระดับใหม่ในการสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งในตลาดได้

        แม้ว่าการจัดการร้านค้าปลีกหลายรายอาจเป็นเรื่องที่ยาก แต่เมื่อคุณเอาชนะความท้าทายไปได้ หน้าร้านค้าของคุณและแบรนด์ที่มาลงฝากขาย จะสามารถเติบโตไปด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นจุดแข็งช่องทางหนึ่งที่ทำให้ร้านค้าอยู่เหนือคู่แข่ง ดังนั้นกลยุทธ์ Multi-brand จึงเป็นได้ทั้ง ทางแก้ไขปัญหา และความท้าทาย สำหรับร้านค้าในการเติบโตแบบก้าวกระโดด

         ผู้ค้าจำนวนมากเลือกใช้แพลตฟอร์มกลางเพื่อเชื่อมต่อกับหลายช่องทางเพื่อลดความซับซ้อนของกระบวนการจัดการของร้านค้าหลายช่องทาง ด้วยวิธีนี้ เจ้าของร้านค้าสามารถรวมสินค้าคงคลังเข้ากับช่องทางการขายทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย และตรวจสอบทุกอย่างในที่เดียว

        ซึ่งจะขาดไปไม่ได้เลย MultiOne ระบบจัดการสินค้าที่ดีที่สุดสำหรับร้าน Multi-brand ครบ จบในที่เดียว 

        หากสนใจร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ MultiOne คลิกที่นี่ เรามีแบรนด์สินค้า และ ร้านค้าพาร์ทเนอร์ ในระบบมากมายให้คุณเลือก พร้อมด้วยฟังก์ชั่นระบบหลังบ้านที่ครบครัน ช่วยให้การจัดโปรโมชั่นระหว่างร้านกับแบรนด์ เป็นเรื่องง่ายขึ้น.

และถ้าอยากติดตามการแนะนำของน้องมัลตี้ในเรื่องอื่น ๆ ล่ะก็ เข้าไปดูได้เลย ที่นี่  และ มารอติดตามกันว่า น้องมัลตี้จะเอาอะไรมาฝาก ในครั้งหน้าได้ ที่นี่

Learn More

ร้านมัลติแบรนด์ เทรนด์ร้านค้ายุคใหม่ ตอบโจทย์การชอปปิ้งในปัจจุบัน ร้านมัลติแบรนด์ จะช่วยให้คุณยกสินค้า Online สู่ On Shelves ให้ลูกค้าสามารถสัมผัสสินค้าได้จริง!!!

 

การเป็น ” ร้านมัลติแบรนด์ ” นั้น สร้างข้อได้เปรียบให้กับร้านค้ายังไง ?

        หลายคนอาจคุ้นหูหรือเคยได้ยินคำว่า ร้าน Multibrand กันมาบ้างแล้ว แต่หลายคนอาจสงสัยว่า ร้าน Multibrand แตกต่างกับร้านค้าทั่วไปยังไง

        Multi-Brand Store แหล่งรวบรวมสินค้าจากแบรนด์ออนไลน์ไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับหรือจะเป็นสินค้าประเภท stationery สติ๊กเกอร์ เทป เทียนหอม etc. 

        ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น วัยเรียนอย่างนักศึกษาหรือนักเรียนมัธยมที่ชอบหาข้อมูล หรือติดตามสินค้าจากสื่อสังคมออนไลน์ก่อนที่จะมาเลือกสินค้าที่หน้าร้านจริง

การเปิดหน้าร้าน เทรนด์ยุคใหม่กับเหตุผลทำไมต้องเป็น ” ร้านมัลติแบรนด์ “

        ร้านมัลติแบรนด์สร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์แบรนด์ออนไลน์ที่ต้องการมีพื้นที่สำหรับวางขายสินค้าโดยที่ไม่ต้องเปิดหน้าร้านเป็นของตัวเอง

        โดยร้านมัลติแบรนด์จะให้บริการเช่าพื้นที่สำหรับวางขาย ช่วยขายสินค้าให้แบรนด์ออนไลน์ อีกทั้งยังมีการโปรโมทและช่วยในด้านการทำการตลาดให้แบรนด์สินค้าอีกด้วย

การเปิดร้านมัลติแบรนด์ดียังไง แล้วทำไมร้านค้าส่วนใหญ่จึงเลือกเปลี่ยนมารับฝากขายมากขึ้น

  1. เพิ่มมูลค่าให้พื้นที่

        จะดีกว่ามั้ยถ้าเปลี่ยนพื้นที่โล่ง ๆ ภายในร้านให้กลายเป็นพื้นที่สร้างมูลค่า เพิ่มรายได้เสริมจากพื้นที่ว่างภายในร้านให้เกิดประโยชน์สูงสุด การรับฝากขายจากแบรนด์จะช่วยให้หน้าร้านมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการวางขายสินค้า

      2. ร้านค้าไม่ต้องจ่ายค่าสต๊อกสินค้า

        การฝากขายสินค้า คือการที่แบรนด์ส่งสินค้าให้ร้านช่วยทำการขายให้ผ่านช่องทางหน้าร้านและร้านไม่ต้องจ่ายค่าสต๊อกสินค้า หมดปัญหาสต๊อกจนทุนจม ร้านมีหน้าที่เพียงช่วยขายสินค้าให้กับแบรนด์ หากต้องการสินค้าเพิ่ม หน้าร้านก็เพียงติดต่อให้แบรนด์ส่งสินค้ามายังหน้าร้าน

      3. มีสินค้าที่หลากหลาย ไม่เอ้าท์ ไม่ตกเทรนด์

        แบรนด์ส่วนใหญ่มักมีการออกสินค้าใหม่ๆ เสมอ ดังนั้นเมื่อมีการฝากขายสินค้า แบรนด์ผู้ทำหน้าที่ฝากขายก็จะคอยอัพเดทสินค้าใหม่ๆ เพื่อวางขายที่หน้าร้าน สินค้าภายในร้านมัลติแบรนด์จึงมักจะเป็นสินค้าที่ต้องตามเทรนด์และอัพเดทอยู่เสมอนั่นเอง

      4. เพิ่มฐานลูกค้าใหม่ ๆ ให้ร้าน

        แบรนด์หลาย ๆ แบรนด์มักจะมีฐานลูกค้าเดิมอยู่ก่อนแล้ว เมื่อมีการฝากขายกับหน้าร้าน หน้าร้านก็จะพลอยได้ฐานลูกค้าเดิมจากแบรนด์อีกด้วย ไม่ต้องยิง Ads. เพิ่ม หน้าร้านก็จะได้ฐานลูกค้าใหม่ ๆ จากแบรนด์มาด้วยนะ ดีใช่มั้ยล่ะ

      5. แบรนด์ช่วยร้านโปรโมท

        เมื่อแบรนด์ฝากขายกับหน้าร้าน แบรนด์จะช่วยโปรโมทร้านให้กลุ่มลูกค้าได้รู้จักผ่านช่องทางออนไลน์ของแบรนด์ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อทั้งร้านและแบรนด์ เมื่อลูกค้าสนใจซื้อสินค้า ลูกค้าก็จะตามไปซื้อสินค้าจากหน้าร้านที่รับฝากขายนั่นเอง

        ดังนั้นแล้ว ร้านค้าในยุคปัจจุบันจึงเปลี่ยนมาเป็นร้านมัลติแบรนด์มากยิ่งขึ้น ทั้งเพิ่มความหลากหลายให้สินค้าภายในร้านและไม่ต้องเสียพื้นที่ในส่วนของหน้าร้านอย่างเสียเปล่า การฝากขายจึงเป็นเทรนด์ร้านค้ายุคใหม่ที่ถือได้ว่าปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยนี้มากที่สุด 

        เพราะในปัจจุบัน ร้านค้ามัลติแบรนด์ที่มีสินค้าหลากหลายประเภท มักเป็นจุดหมายปลายทางของขาช็อปในยุคนี้ ทั้งในแง่ความสะดวกและความหลากหลายของสินค้า จึงเป็นเหตุผลหลักที่ลูกค้าเลือกเข้าร้านมัลติแบรนด์มากยิ่งขึ้นนั่นเอง

        สำหรับใคร ที่กำลังตัดสินใจเปิดร้านมัลติแบรนด์อยู่และยังไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้างจึงจะเปิดร้านได้อย่างประสบความสำเร็จ ต้องทำยังไงถึงจะขายดี มีกำไร หรือแม้กระทั่งทำให้ลูกค้าติดใจและอยากกลับมาซื้อของที่ร้านอีก 

วันนี้น้องมัลตี้มี 5 สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนเปิด” ร้านมัลติแบรนด์ “มาแนะนำ อยากเปิด” ร้านมัลติแบรนด์ ” ควรพิจารณาอะไรบ้าง ไปเช็คกันเลย!

  1. วางคอนเซ็ปต์ร้านมัลติแบรนด์

        สิ่งแรกที่ผู้ประกอบการมือใหม่จะต้องพิจารณาคือคอนเซ็ปต์ของร้าน เพื่อจะหาและเลือกสินค้าจากแบรนด์ที่คอนเซ็ปต์ตรงกัน ตีตลาดกับกลุ่มลูกค้าที่ไม่กว้างจนเกินไป และสิ่งสำคัญในส่วนนี้คือคอนเนคชั่นกับแบรนด์ เพราะคอนเนคชั่นเปรียบเสมือนเครื่องมือที่ช่วยให้สิ่งที่เจ้าของธุรกิจต้องการเกิดขึ้นได้ง่ายในพริบตา

      2. พิจารณาค่าเช่า

        สิ่งต่อมาที่ผู้ประกอบจะต้องมีคือพื้นที่ในการเปิดหน้าร้านของตัวเองจึงต้องหาเช่าพื้นที่ (หากไม่มีพื้นที่เป็นของตัวเอง ) ต้องคำนวณทั้งค่าเช่า ยอดขาย และกำไรไว้ล่วงหน้าด้วยนะ จะได้วางแผนเปิดร้านค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอย่าลืมที่จะสำรวจว่าทำเลที่จะเช่านั้นมีลูกค้าเราอยู่หรือเปล่า คำนวณให้ละเอียดทั้งราคาที่จะขายสินค้า ราคาค่าเช่า ค่าจ้างพนักงาน ค่าน้ำค่าไฟ รวมถึงค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดต่าง ๆ ลองเขียนออกมาเป็นข้อ ๆ แล้วคุณจะเห็นภาพชัดยิ่งขึ้น ไหนจะต้องเลือกทำเล หาที่ปล่อยเช่าอีก  และแม้จะได้ทำเลที่คิดว่าดีที่สุด ก็อาจสะดุดเพราะเศรษฐกิจแย่ ไม่มีลูกค้าหรือปัจจัยอื่น ๆ ที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน เพราะฉะนั้นคุณควรหลีกเลี่ยงการเซ็นสัญญาระยะยาว จะได้ไม่มีข้อผูกมัดมากเกินไปตั้งแต่เริ่มเปิดร้านขายของ

      3. คาดการณ์ปริมาณลูกค้า

        สำรวจปริมาณลูกค้า ให้คุณดูลูกค้าบริเวณรอบที่ทำเลในการเปิดร้านมัลติแบรนด์ของคุณก่อนว่าคอนเซ็ปต์ของสินค้าที่จะขายตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าในพื้นที่นั้นหรือเปล่า ปริมาณลูกค้าที่จะเข้าร้านอยู่ที่เท่าไหร่ รายได้ของผู้คนบริเวณที่ทำเลเป็นอย่างไร หรือว่าต้องขายสินค้าแบบไหนร้านมัลติแบรนด์ของคุณถึงจะโดดเด่นและได้รับความสนใจจากลูกค้า

      4. รู้ขั้นตอนการทำงานอย่างถี่ถ้วน

        หากคิดจะเป็นเจ้าของกิจการแล้ว คุณต้องทำงานให้หนักขึ้นเพราะนี่คือร้านของคุณ คุณไม่สามารถมีรายได้ที่แน่นอนเหมือนมนุษย์เงินเดือน เพราะฉะนั้นคุณจะต้องคิดเสมอว่าการเปิดร้านมัลติแบรนด์ครั้งนี้คือธุรกิจที่คุณจะต้องดูแลและพร้อมที่จะปรับตัวเพื่อให้ร้านของคุณไปรอด สิ่งที่สำคัญและควรทำในการเป็นนายตัวเองนั้น คุณไม่สามารถหยุดทุกอย่างได้ตามใจตัวเอง แต่ต้องลงมือทำทุกขั้นตอนด้วยตนเองและรู้ขั้นตอนการทำงานอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด เริ่มตั้งแต่วิธีการติดต่อและการหาซัพพลายเออร์ การสั่งของจากแบรนด์ต่างๆ  การทำบิล ศึกษาการตลาด การเช็คสต๊อกสินค้า หรือแม้กระทั่งการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ซึ่งในฐานะผู้ประกอบการแล้ว คุณจะต้องรู้วิธีการจัดการสิ่งเหล่านี้อย่างละเอียด ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ

      5. ขายสินค้าราคาเที่ยงธรรม

        ไม่ว่าใคร ๆ ก็ชอบของดีมีคุณภาพในราคาที่ต้องจับต้องได้ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นอย่าขายสินค้าราคาที่สูงเกินราคาที่แบรนด์กำหนด และต้องไม่ตั้งราคาที่ต่ำจนเกินไป จะได้ไม่เข้าเนื้อตัวเองจนขาดทุน ลองศึกษาตลาด เปรียบเทียบราคาสินค้าและศึกษาคู่แข่งเพื่อทำโปรโมชั่นต่างๆ จากนั้นก็ตั้งราคาสินค้ากับโปรโมชั่นที่ใกล้เคียงเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าสินค้าของคุณราคาสมเหตุสมผลกับคุณภาพของแต่ละแบรนด์

        เมื่อรู้ข้อควรพิจารณาก่อนเปิดร้านมัลติแบรนด์แล้วสนใจอยากเปิดร้านมัลติแบรนด์ น้องมัลตี้มีแพลตฟอร์มดีๆมาแนะนำนั่นก็คือ MultiOne Platform ของเรานั่นเอง

        Multione Platform ตัวช่วยที่จะทำให้การจัดการร้านมัลติแบรนด์ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เรามีระบบ POS สุดปัง หมดปัญหาจัดการสต๊อกแสนยุ่งยาก อัพเดทข้อมูลแบบสินค้า real time ให้คุณจัดการร้านมัลติแบรนด์ง่ายๆ ครบจบในระบบเดียว

        หากสนใจร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ MultiOne คลิกที่นี่ เรามีแบรนด์สินค้า และ ร้านค้าพาร์ทเนอร์ ในระบบมากมายให้คุณเลือก พร้อมด้วยฟังก์ชั่นระบบหลังบ้านที่ครบครัน ช่วยให้การจัดโปรโมชั่นระหว่างร้านกับแบรนด์ เป็นเรื่องง่ายขึ้น.

และถ้าอยากติดตามการแนะนำของน้องมัลตี้ในเรื่องอื่น ๆ ล่ะก็ เข้าไปดูได้เลย ที่นี่  และ มารอติดตามกันว่า น้องมัลตี้จะเอาอะไรมาฝาก ในครั้งหน้าได้ ที่นี่

Learn More

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านนโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save