เปิดร้านค้าทั้งที จะดีกว่ามั้ยถ้าไม่ต้องคอยหัวหมุนกับปัญหาจุกจิก ทั้งปัญหาสต๊อกที่อาจกวนใจ ออเดอร์ที่ต้องตรวจสอบ ยอดขายที่ต้องคอยเช็ค และรายละเอียดยิบย่อยต่าง ๆ อีกเพียบ ที่อาจจะสะสมจนหัวหมุนได้เชียวล่ะ! แต่ทุกปัญหามักมีทางออกเสมอ เพื่อช่วยลดขั้นตอนยุ่งยาก และปัญหาจุกจิกสำหรับหน้าร้าน ระบบขายของ จึงถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็นตัวช่วยสำคัญเพื่อให้ร้านค้าสามารถจัดการร้านค้าได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น

 

ระบบขายของ คืออะไร ?

ระบบขายของหรือระบบช่วยขาย คือ ระบบที่ถูกออกแบบและพัฒนามาเพื่อช่วยให้ร้านค้าสามารถขายของได้อย่างง่ายขึ้น โดยระบบขายของจะช่วยจัดการร้านค้าให้เป็นระบบ และช่วยลดภาระของผู้ประกอบการ ทั้งด้านสต๊อกสินค้า ด้านการขาย และด้านการบริหารจัดการ

 

ซึ่งโดยส่วนใหญ่ ระบบช่วยขายจะช่วยดูแลจัดการทั้งด้านระบบหลังร้าน และครอบคลุมถึงการขายหน้าร้าน โดยสามารถจัดการสต๊อกสินค้า จัดการออร์เดอร์สินค้า รายงานยอดขาย จนไปถึงการขายสินค้าระบบแคชเชียร์นั่นเอง

 

ระบบขายของมีประโยชน์อย่างไร ?

สำหรับผู้ประกอบการที่มีหน้าร้าน หรือมีแบรนด์สินค้า ธุรกิจ การขายมีระบบขายจะช่วยลดภาระ และปัญหาจุกจิก กวนใจไปได้มาก เพราะระบบขายจะช่วยดูแลร้านค้าเสมือนเป็นผู้จัดการร้านอีกคนหนึ่ง แต่ประโยชน์ของระบบช่วยขายไม่ได้มีเพียงแค่นี้ เพราะระบบช่วยขายของยังมีประโยชน์ด้านต่าง ๆ อีกมากมาย เช่น

 

1.บริหารจัดการร้านได้เป็นระเบียบมากขึ้น

การนำระบบขายของมาช่วยจัดการระบบหลังบ้าน จะช่วยให้คุณสามารถจัดการร้านได้อย่างเป็นระบบ ระเบียบมากยิ่งขึ้น ลดปัญหาที่ยุ่งยากลงไป ช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการร้านได้ดีมากยิ่งขึ้น

 

2.ควบคุมและดูแลได้อย่างสะดวก

เพราะมีการจัดการร้านอย่างเป็นระบบ จึงทำให้สามารถตรวจเช็ค และติดตามงานได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น ช่วยอำนวยความสะดวกให้เจ้าของกิจการดูแลได้อย่างง่ายขึ้น

 

3.ลดเวลาและขั้นตอนการทำงาน

การนำระบบช่วยขายมาใช้ จะช่วยลดเวลา และขั้นตอนที่ไม่จำเป็นออกไป ทำให้เจ้าของกิจการมีเวลาว่างในการทำอย่างอื่นมากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยลดขั้นตอนยุ่งยากในการจัดการร้านได้อีกด้วย

 

4.ช่วยเพิ่มยอดขายมากยิ่งขึ้น

การนำระบบช่วยขายมาใช้กับร้านค้า จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับร้านของคุณมากยิ่งขึ้น เพราะระบบช่วยขายจะทำหน้าที่เป็นตัวช่วยที่ดีในการจัดการระบบต่าง ๆ ภายในร้าน ทำให้ไม่ต้องกังวลในส่วนของระบบหลังร้าน และมีเวลาในการโฟกัสการขายมากยิ่งขึ้น

 

ระบบขายของที่เหมาะสม ควรมีฟังก์ชันอะไรบ้าง

1.คิดเงินหน้าร้าน

ระบบ POS โดยส่วนใหญ่สามารถใช้งานร่วมกับเครื่องสแกนบาร์โค้ดได้ เพียงแค่สแกนบาร์โค้ดหรือกรอกรหัสสินค้า ก็จะสามารถแสดงรายละเอียดสินค้าและสรุปยอดขายในแต่ละบิลได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลาและช่วยลดขั้นตอนที่ยุ่งยากไม่จำเป็นออกไป อีกทั้งยังช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าไม่ต้องรอนาน

ระบบขายของ

2.รายงานและสรุปยอดขาย

สรุปยอดขายที่ร้านได้รับในแต่ละวันและย้อนหลัง เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบและจัดทำบัญชี โดยฟังก์ชันสรุปยอดขายของ MultiOne สามารถดูยอดขายได้ทั้งโดยรวม และแยกย่อยรายแบรนด์ เพื่ออำนวยให้คุณสามารถตรวจสอบยอดขายต่าง ๆ ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น เหมาะสำหรับร้านฝากขาย ร้านมัลติแบรนด์ และร้านค้าที่มีแบรนด์สินค้ามากกว่าหนึ่งแบรนด์

ระบบขายของ

3.ตรวจสอบสต๊อก

ในหลาย ๆ ครั้ง ร้านค้ามักเผชิญปัญหา สต๊อกไม่พอขาย เนื่องจากการคำนวณสต๊อกที่ผิดพลาด ทำให้เติมสต๊อกไม่ทัน มีสินค้าไม่เพียงพอต่อการขาย ฟังก์ชันตรวจสอบสต๊อกจึงเป็นฟังก์ชันที่สำคัญและพัฒนามาเพื่อลดปัญหาสต๊อกขาด โดยการรายงานยอดสต๊อกคงเหลือภายในร้านของคุณนั่นเอง

สำหรับฟังก์ชันสต๊อกของ MultiOne นอกจากจะรายงานสต๊อกคงเหลือในแต่ละแบรนด์ ร้านค้าสามารถจัดการข้อมูลสินค้าและแบรนด์ที่ทำการฝากขาย รวมถึงจัดโปรโมชั่นร่วมกันกับแบรนด์ได้อีกด้วย

ระบบขายของ

4.E-Commerce

ร้านค้าหลาย ๆ ร้านมีการขายทั้งออนไลน์และหน้าร้าน เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการสินค้าและแบรนด์สินค้าร่วมกัน การเชื่อมต่อสต๊อกทั้งออนไลน์และหน้าร้านเข้าด้วยกันจะช่วยให้ง่ายต่อการบริหารจัดการคลังสินค้าภายในร้านนั่นเอง

ระบบขายของ

บทความแนะนำ

ระบบจัดการร้านค้ามัลติแบรนด์ และร้านค้ารับฝากขาย

9 ขั้นตอนการเตรียม เปิดร้านขายของ ให้ขายดีมีกำไร ต้องรู้อะไรบ้าง

ระบบขายหน้าร้าน MultiOne เครื่องมือสำคัญตอบโจทย์ร้านค้าในยุคใหม่

 

MultiOne Platform เพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจคุณ

 

แพลตฟอร์มระบบจัดการร้านมัลติแบรนด์ ร้านค้าปลีก และร้านค้ารับฝากขายสินค้าจากหลายแบรนด์ ที่จะมาช่วยให้การจัดการร้านค้าสะดวกสบายขึ้น ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากหลายขั้นตอน ลดความผิดพลาดการจัดการสินค้า เพิ่มรายได้ และประเภทของสินค้าภายในร้าน จากการรับฝากขายสินค้าจากแบรนด์ดังในระบบ

แหล่งพบปะของร้านค้าออนไลน์ และออฟไลน์ พาร์ทเนอร์ที่ช่วยให้คุณขายได้มากขึ้น ผ่านการฝากขายยุคใหม่

การันตีด้วยพาร์ทเนอร์ร้านค้าดัง ขายดีที่ใช้ระบบมากกว่า 30 ร้านค้า และแบรนด์ดังที่ฝากขายผ่านระบบมากกว่า 2,000 แบรนด์

ระบบฟังก์ชันหลักสำหรับร้านค้าพาร์ทเนอร์ของ MultiOne ที่ช่วยให้การบริหารจัดการร้านค้าเป็นเรื่องง่าย 

 

  • ระบบ POS แคชเชียร์และจัดการร้านค้าใช้งานง่าย
  • จัดการสต็อกสินค้า แยกรายแบรนด์ เช็คสะดวก
  • ร้านจัดการส่วนลด โปรโมชั่นร่วมกับแบรนด์ได้หลากหลาย
  • ออกบาร์โค้ด เชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องยิงบาร์โค้ด
  • มีระบบการใช้งานสำหรับพนักงาน
  • ออกเอกสารทางบัญชี
  • ระบบ Import Export ข้อมูล
  • จัดการข้อมูลลูกค้า และสินค้า
  • ระบบวิเคราะห์ข้อมูลยอดขายรายวัน รายเดือน แยกรายแบรนด์
  • วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและช่องทางจำหน่าย

และเรายังมีฟังก์ชันอีกมากมายสำหรับแบรนด์สินค้าที่มาลงฝากขาย ด้วยระบบที่ออกแบบมาให้ร้านค้าเจอกับแบรนด์ง่ายขึ้น ลดขั้นตอนการส่ง เช็ค และจัดการสินค้าฝากขาย ร้านค้าสามารถเลือกพาร์ทเนอร์ที่เหมาะสมกับหน้าร้านของคุณได้ง่าย ๆ ผ่านระบบบนแพลตฟอร์มของเรา

สนใจเป็นร้านค้าพาร์ทเนอร์ คลิกที่นี่ 

สนใจลงฝากขายสินค้า คลิกที่นี่ 

หรือ INBOX สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยที่ MultiOne 

Learn More

หากคุณกำลังอยากจะเปิดร้านขายของเป็นของตัวเอง การจัดร้านค้า เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ลองคิดภาพตามว่าทำไมเราเดินเข้าห้างสรรพสินค้าได้เป็นชั่วโมงๆ โดยที่เพลิดเพลินไปกันมัน แต่กลับกันบางร้านเข้าไปไม่กี่นาทีเราก็อยากออกจากร้านแล้ว ดังนั้นถ้าคุณมีการจัดร้านค้าให้ดูน่าเข้าไปซื้อของและน่าดึงดูด ก็มีโอกาสที่ลูกค้าจะเข้าร้าน และซื้อสินค้าร้านคุณได้ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของการจัดร้านค้า 

 

แผนผังร้านค้า คืออะไร ?

แผนผังร้านค้า คือ แผนผังที่กำหนดตำแหน่ง ชั้นวางสินค้า และทิศทางการเดินของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ เพื่อทำให้เกิดการกระตุ้นผู้คนให้เกิดการซื้อสินค้า ซึ่งหากคุณสามารถจัดแผนผังร้านให้ออกมาดีมีความเหมาะสมจะทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดี ที่ได้รับจากการเลือกซื้อสินค้าในร้านของคุณ และยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ร้านคุณได้

 

การเปิดร้านขายของให้ขายดี วิธีการจัดร้านค้าถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก น้องมัลตี้ขอเสนอ 6 ไอเดียการกำหนดรูปแบบ การจัดร้านค้า ให้ขายดีและตอบโจทยท์กลุ่มเป้าหมาย!! 

 

1.การจัดชั้นวางสินค้าในร้าน

การจัดร้านค้า ปฏิเสธไม่ได้ว่าการจัดชั้นวางสินค้าในร้านเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการจัดร้านค้า ความจริงแล้ววิธีการจัดร้านนั้นไม่มีตายตัว ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับพื้นที่และไอเดียความสร้างสรรค์ที่คุณมีอยู่ แต่การจัดชั้นวางสินค้าต้องคำนึงถึงความสะดวกสบายของลูกค้าเป็นสำคัญ การจัดชั้นวางสินค้าจึงสามารถปรับเปลี่ยนตามพื้นที่ให้มีความเหมาะสมกับร้านของคุณได้นั่นเอง 

 

2.ความสะอาดของร้านค้า

แน่นอนว่าสิ่งที่เป็นหน้าเป็นตาของการจัดร้านค้าก็คือ ความสะอาดภายในร้าน ถึงแม้ว่าในร้านของคุณจะมีสินค้าหลากหลายประเภทมากแค่ไหน แต่ถ้าเรื่องความสะอาดมีไม่มากพอ คุณก็อาจจะเสียลูกค้าไปได้ง่ายๆ เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก คุณจะต้องดูแลรักษาความสะอาดทั้งภายในร้านค้า นอกร้านค้า และตัวสินค้าของคุณ หากมีฝุ่นเกาะบนตัวสินค้าหรือเศษขยะตกตามพื้น นอกจากทำให้ดูไม่น่าซื้อ ยังแสดงถึงความไม่เอาใจใส่ของเจ้าของร้านอีกด้วย นอกจากความสะอาดแล้วแสงในร้านค้าก็ควรจัดให้มีความสว่างที่เพียงพออีกด้วยเพื่อลูกค้าจะได้เลือกซื้อสินค้าได้อย่างชัดเจนและ ดังนั้นเจ้าของร้านควรทำความสะอาดร้านอย่างสม่ำเสมอ เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีและความสะอาดของร้านคุณเอง

 

3.การจัดเรียงสินค้าให้ดูน่าสนใจ

การจัดเรียงสินค้าที่ดีควรนึกถึงความสะดวกสบายของลูกค้าเป็นลำดับแรก หากจัดเรียงสินค้าได้ดี ใช้พื้นที่วางแต่ละชั้นให้เกิดประโยชน์ แบ่งหมวดหมู่ประเภทของสินค้าเหมาะสม ก็จะสร้างโอกาสในการขายและยอดขายมากขึ้น

 

เทคนิคการจัดเรียงสินค้าให้น่าซื้อ

  • การจัดหมวดหมู่สินค้าให้เป็นหมวดหมู่เดียวกัน จะช่วยให้ลูกค้าเลือกสินค้าได้ง่ายขึ้น
  • ควรจัดวางสินค้าให้อยู่ในระดับสายตา เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นก่อน และอาจเพิ่มความน่าสนใจโดยการติดป้ายราคาหรือชื่อสินค้า เพื่อดึงดูดความน่าสนใจ ทั้งนี้อยู่ที่ไอเดียและความต้องการของแต่ละร้านด้วย
  • จัดเรียงสินค้าให้มีความสัมพันธ์กันและต่อเนื่องกัน โดยการจัดสินค้าที่มีความเกี่ยวข้องกัน หรือสินค้าที่ต้องใช้ร่วมกัน ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าค้นหาสินค้าที่ต้องการได้ง่ายมากขึ้น เช่น จัดวางสมุดโน๊ตไว้ใกล้ๆกับสติ๊กเกอร์, ปากกา จัดเคสมือถือไว้ใกล้ๆกับเคสหูฟังไร้สาย, ของตกแต่งมือถือ เป็นต้น การที่ลูกค้าหาสิ่งที่ชอบเจอแล้ว ก็จะมองเห็นสินค้าที่อยู่ใกล้เคียง ช่วยเพิ่มโอกาสในการขายมากขึ้น
  • มีการจัดโซนโปรโมชั่น โดยเลือกสินค้าที่อยู่ในช่วงโปรโมชั่น สินค้าขายดี หรือสินค้าใหม่ มาจัดในโซนนี้ โดยอาจจะสลับปรับเปลี่ยนในช่วงที่มีโปรโมชั่น เพื่อเพิ่มมิติในการขาย และยังช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าอยากซื้ออีกด้วย

 

4.มีธีมร้านเป็นของตัวเอง

การจัดร้านค้า ให้ดูโดดเด่นไม่จำเป็นต้องทำตามคนอื่นเสมอไป การสร้างจุดเด่น หรือภาพจำของร้านคุณสามารถทำได้ด้วยการ สร้างธีมร้านของคุณ ตั้งแต่สไตล์การออกแบบร้าน บรรยากาศภายในร้าน ด้านนอกร้าน การตกแต่งร้าน ให้มีความ mix&match กัน คุณอาจจะเลือกโทนสีในร่านให้อยู่ในโทนใกล้เคียงกัน หรือจะเพิ่มลูกเล่นกับการตกแต่งร้านก็ได้เช่นกัน เพียงแค่ร้านมีสีสันน่าดึงดูดลูกค้าก็จะเดินเข้าร้านของคุณอย่างแน่นอน ช่วยให้ร้านของคุณมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นที่จดจำได้ไม่ยาก 

 

5.การแต่งร้านตามเทศกาล

การตกแต่งร้านนั้นคุณไม่จำเป็นต้องแต่งแบบเดิมๆตลอดไป การตกแต่งร้านตามเทศกาลนั้นช่วยสร้างสีสัน สะดุดตา ให้กับร้านของคุณได้ดีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเทศกาลวาเลนไทน์ เทศกาลคริสมาสต์ เทศกาลปีใหม่ เทศกาลสงกรานต์ เป็นต้น เป็นการสร้างบรรยาศของร้านให้ดูมีความแปลกใหม่และพิเศษมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถเพิ่มยอดขายให้กับร้านคุณมากขึ้นอีกด้วย

 

6.สร้างทางเดินให้สะดวกสบาย

หากลูกค้าเดินเข้ามาร้านค้าแล้วส่วนใหญ่มักจะมีสินค้าที่อยากได้ในใจอยู่แล้ว แต่ลูกค้ามักจะเดินสำรวจดูรอบๆร้านก่อน ร้านของคุณจึงควรมีทางเดินที่ปลอดโปร่ง สะดวกสบาย มีพื้นที่เหมาะแก่การเดินไม่อึดอัด ร้านจะต้องออกแบบทางเดินที่มีพื้นที่อคบ เพื่อหลีกเลี่ยงการชนกัน หรือการจัดสินค้าไม่ดีทำให้ลูกค้าอึดอัด จึงควรมีการจัดร้านค้าให้มีพื้นที่เพียงพอระหว่างทางเดินกับสินค้า เพื่อให้ลูกค้าเดินซื้อของอย่างสบายใจ และการจะออกแบบช่องทางเดิน ต้องทำร่วมกับการออกแบบการวางชั้นวางสินค้า แม้ว่าพื้นที่ของร้านในคุณจะดูน้อยแต่ถ้าหากคุณสามารถจัดดสรรพื้นที่ได้ดี ลูกค้าก็จะสะดวกสบายมากที่สุดนั่นเอง 

 

สำหรับร้านค้า เมื่อมีการจัดร้านค้าที่ดีขึ้นแล้วการมีระบบบริหารจัดการร้านค้าที่ดีด้วยเช่นกัน MultiOne จึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่จะช่วยเพิ่มอำนวยความสะดวกให้เจ้าของร้านให้สามารถขายสินค้าได้อย่างไม่สะดุด ช่วยบริหารจัดการร้านค้าของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยระบบที่ออกแบบมาเพื่อครอบคลุมการขายสินค้าหน้าร้าน ทั้งร้านค้าปลีก ร้านรับฝากขายและร้านมัลติแบรนด์

บทความแนะนำ

MultiOne Platform เพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจคุณ

 

แพลตฟอร์มระบบจัดการร้านมัลติแบรนด์ ร้านค้าปลีก และร้านค้ารับฝากขายสินค้าจากหลายแบรนด์ ที่จะมาช่วยให้การจัดการร้านค้าสะดวกสบายขึ้น ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากหลายขั้นตอน ลดความผิดพลาดการจัดการสินค้า เพิ่มรายได้ และประเภทของสินค้าภายในร้าน จากการรับฝากขายสินค้าจากแบรนด์ดังในระบบ

แหล่งพบปะของร้านค้าออนไลน์ และออฟไลน์ พาร์ทเนอร์ที่ช่วยให้คุณขายได้มากขึ้น ผ่านการฝากขายยุคใหม่

การันตีด้วยพาร์ทเนอร์ร้านค้าดัง ขายดีที่ใช้ระบบมากกว่า 30 ร้านค้า และแบรนด์ดังที่ฝากขายผ่านระบบมากกว่า 2,000 แบรนด์

ระบบฟังก์ชันหลักสำหรับร้านค้าพาร์ทเนอร์ของ MultiOne ที่ช่วยให้การบริหารจัดการร้านค้าเป็นเรื่องง่าย 

 

  • ระบบ POS แคชเชียร์และจัดการร้านค้าใช้งานง่าย
  • จัดการสต็อกสินค้า แยกรายแบรนด์ เช็คสะดวก
  • ร้านจัดการส่วนลด โปรโมชั่นร่วมกับแบรนด์ได้หลากหลาย
  • ออกบาร์โค้ด เชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องยิงบาร์โค้ด
  • มีระบบการใช้งานสำหรับพนักงาน
  • ออกเอกสารทางบัญชี
  • ระบบ Import Export ข้อมูล
  • จัดการข้อมูลลูกค้า และสินค้า
  • ระบบวิเคราะห์ข้อมูลยอดขายรายวัน รายเดือน แยกรายแบรนด์
  • วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและช่องทางจำหน่าย

และเรายังมีฟังก์ชันอีกมากมายสำหรับแบรนด์สินค้าที่มาลงฝากขาย ด้วยระบบที่ออกแบบมาให้ร้านค้าเจอกับแบรนด์ง่ายขึ้น ลดขั้นตอนการส่ง เช็ค และจัดการสินค้าฝากขาย ร้านค้าสามารถเลือกพาร์ทเนอร์ที่เหมาะสมกับหน้าร้านของคุณได้ง่าย ๆ ผ่านระบบบนแพลตฟอร์มของเรา

สนใจเป็นร้านค้าพาร์ทเนอร์ คลิกที่นี่ 

สนใจลงฝากขายสินค้า คลิกที่นี่ 

หรือ INBOX สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยที่ MultiOne 

Learn More

สำหรับธุรกิจร้านค้าและบริการ การพัฒนาศักยภาพของ พนักงานขาย  (Sales Training) อยู่เสมอเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อที่จะรักษามาตรฐานคุณภาพของธุรกิจไว้คงเดิม การพัฒนาบุคลากรจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ และไม่ควรมองข้าม เพื่อให้พนักงานขายสามารถบรรลุเป้าหมายขององค์กร ทั้งในด้านการสร้างยอดขาย สร้างผลกำไรให้แก่ร้านค้ามากขึ้น 

 

Sales Training คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญสำหรับ พนักงานขาย!!?

Sales Training หรือการฝึกอบรมการขาย เป็นการเพิ่มศักยภาพให้พนักงานขาย (Sales) จากผู้ฝึกสอน (Sales Trainer) ที่มีประสบการณ์ด้านการขาย และมีความเข้าใจในกระบวนการทำงานของพนักงานขายเป็นอย่างดี เพื่อให้พนักงานขายสามารถเข้าใจกระบวนการขาย และนำเทคนิคที่สำคัญไปใช้พัฒนาองค์กรในอนาคตนั่นเอง

Sale training_พนักงานขาย_How to เทรนพนักงานขายหน้าร้านอย่างไร ให้บริการลูกค้าได้อย่างมีมาตรฐาน

อยากพัฒนาศักยภาพ พนักงานขาย ควรเริ่มต้นอย่างไร?

1.ระบุความต้องการในการฝึกอบรม

ก่อนที่จะมีการฝึกอบรม เพื่อให้ทราบจุดประสงค์ที่ชัดเจน จำเป็นต้องมีการกำหนดความต้องการ และความคาดหวังที่จะได้จากการฝึกอบรมในแต่ละครั้ง เช่น การศึกษาพฤติกรรม ทัศนคติ การวิเคราะห์จุดแข็ง และจุดอ่อนของพนักงาน ความต้องการที่จะพัฒนาศักยภาพของพนักงาน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เราสามารถวิเคราะห์ และนำมาออกแบบแนวทางในการฝึกอบรมพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

2. กำหนดวัตถุประสงค์ในการฝึกอบรม

การกำหนดวัตถุประสงค์ของการอบรม จะช่วยให้เราสามารถหาแนวทางที่เหมาะสมในการอบรมพนักงานได้ดียิ่งขึ้น มีการกำหนดขอบเขตการฝึกอบรมที่ชัดเจนตามสินค้า และบริการขององค์กร เพราะในแต่ละองค์กรมีการประกอบธุรกิจสินค้าและบริการที่แตกต่างกัน เช่น สินค้าประเภทเครื่องสำอางค์ พนักงานขายจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของสินค้าอย่างถ่องแท้ เพื่อที่จะสามารถอธิบาย และบอกรายละเอียดของสินค้าได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ทั้งประโยชน์ ส่วนประกอบ และวิธีการใช้งาน รวมถึงข้อบ่งชี้สำหรับผู้แพ้สารเคมีต่าง ๆ เพื่อป้องกันอันตรายหากลูกค้า หรือผู้บริโภคซื้อสินค้าไปแล้ว เกิดอาการแพ้และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต 

โดยวัตถุประสงค์ในการฝึกอบรมด้านการขาย ควรเน้นไปที่การให้บริการกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ประสิทธิภาพ และการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า ให้พนักงานขายได้เรียนรู้วิธีในการดูแล จัดระเบียบ และการใช้เครื่องมือในการขายได้อย่างเหมาะสม

 

3.เน้นการฝึกทักษะและเวิร์คชอปให้ทุกคนมีส่วนร่วม

การฝึกอบรมการขายที่ดีและเหมาะสม ควรมีกิจกรรมให้พนักงานได้มีส่วนร่วมจริง เพราะการสอนทฤษฎีเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอเท่าการได้ลงมือปฏิบัติจริง ๆ การยกตัวอย่าง case study และฝึกฝนให้พนักงานได้ลงมือทำจะช่วยให้สามารถระบุจุดอ่อน จุดแข็งของพนักงานได้ดีมากยิ่งขึ้น อีกทั้งจะช่วยลดความน่าเบื่อหน่ายจากเนื้อหาทฤษฎีที่ใช้ในการอบรม การมีกิจกรรมดี ๆ ที่จะสร้างการมีส่วนร่วมให้แก่พนักงาน และการระดมความคิด  (Brainstroming) นอกจากจะช่วยให้พนักงานมีความคิดสร้างสรรค์แล้ว ยังเป็นวิธีการละลายพฤติกรรมให้พนักงานได้เรียนรู้การทำงานร่วมกันเป็นทีม (Teamwork) อีกด้วย

workshop_พนักงานขาย_How to เทรนพนักงานขายหน้าร้านอย่างไร ให้บริการลูกค้าได้อย่างมีมาตรฐาน

4.สร้างแรงจูงใจด้วยกิจกรรมและการแจกของรางวัล

เพื่อกระตุ้นให้พนักงานมีส่วนร่วม การจัดกิจกรรมโดยมีของรางวัลเป็นสิ่งตอบแทนจะช่วยเป็นแรงใจให้พนักงานของคุณ การแจกของรางวัลนอกจากจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการแข่งขัน และช่วยให้กิจกรรมมีสีสันมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความสนุกมากให้กับกิจกรรมในครั้งนี้มากขึ้นกว่าเดิมเชียวล่ะ

 

5. มีการประเมินและให้คำแนะนำ

หลังการฝึกอบรมในแต่ละครั้ง เมื่อพนักงานได้เรียนรู้ทั้งจุดแข็ง จุดอ่อน การชี้แนะ และให้คำแนะนำก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญ เพื่อให้พนักงานสามารถปรับปรุง แก้ไข และพัฒนาได้อย่างดีมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

เมื่อการฝึกอบรมเสร็จสิ้น การประเมินประสิทธิภาพ และผลลัพทธ์การฝึกอบรมในแต่ละครั้งจะดูจากวัตถุประสงค์ของการอบรมที่จัดขึ้นว่าตรงตามความต้องการ และเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ โดยการประเมินนั้นสามารถดำเนินได้จากการประเมินตนเอง การประเมินจากเพื่อนร่วมงาน การประเมินจากหัวหน้างาน และที่ขาดไปไม่ได้คือการประเมินกิจกรรมการฝึกอบรมในแต่ละครั้งที่ได้จัดขึ้น เพื่อที่จะได้นำข้อมูลในแต่ละครั้งไปปรับปรุง และวางแผนการฝึกอมรมในครั้งต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

การฝึกอบรมศักยภาพพนักงานขาย มีความสำคัญอย่างไร

  • ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ทีมขาย (Sales) มากยิ่งขึ้น
  • เรียนรู้จุดแข็ง จุดอ่อน ของแต่ละคนในทีมได้อย่างดี
  • ช่วยให้พนักงานขายสามารถปิดการขายได้ดีมากยิ่งขึ้น
  • ช่วยสร้างทักษะการทำงานเป็นทีม ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของ Teamwork
  • ทำให้พัฒนาทักษะ กระบวนการคิด กระบวนการแก้ปัญหาให้พนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • รักษามาตรฐานการบริการให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด และลูกค้าเกิดความประทับใจมากขึ้น

 

Sales Tranning เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการพัฒนาทักษะสำหรับพนักงานขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับธุรกิจที่ดำเนินการด้วยพนักงานขายเป็นปัจจัยหลักอย่าง ธุรกิจร้านค้า ธุรกิจบริการ เป็นต้น

การเพิ่มประสิทธิภาพให้ทีมขายด้วยกระบวนการ Sales Tranning จะช่วยให้ทีมขายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้รายได้ และกำไรเติบโตมากขึ้นตามไปด้วย

 

สำหรับร้านค้า เมื่อมีทีมขายที่เก่งแล้วก็ต้องมีระบบบริหารจัดการร้านค้าที่ดีด้วยเช่นกัน MultiOne จึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่จะช่วยลดภาระและอำนวยความสะดวกให้พนักงานขายให้สามารถขายสินค้าได้อย่างไม่สะดุด ช่วยบริหารจัดการร้านค้าของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยระบบที่ออกแบบมาเพื่อครอบคลุมการขายสินค้าหน้าร้าน ทั้งร้านค้าปลีก ร้านรับฝากขายและร้านมัลติแบรนด์

บทความแนะนำ

9 ขั้นตอนการเตรียม เปิดร้านขายของ ให้ขายดีมีกำไร ต้องรู้อะไรบ้าง

ระบบขายหน้าร้าน MultiOne เครื่องมือสำคัญตอบโจทย์ร้านค้าในยุคใหม่

ระบบจัดการร้านค้ามัลติแบรนด์ และร้านค้ารับฝากขาย

MultiOne Platform เพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจคุณ

 

แพลตฟอร์มระบบจัดการร้านมัลติแบรนด์ ร้านค้าปลีก และร้านค้ารับฝากขายสินค้าจากหลายแบรนด์ ที่จะมาช่วยให้การจัดการร้านค้าสะดวกสบายขึ้น ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากหลายขั้นตอน ลดความผิดพลาดการจัดการสินค้า เพิ่มรายได้ และประเภทของสินค้าภายในร้าน จากการรับฝากขายสินค้าจากแบรนด์ดังในระบบ

แหล่งพบปะของร้านค้าออนไลน์ และออฟไลน์ พาร์ทเนอร์ที่ช่วยให้คุณขายได้มากขึ้น ผ่านการฝากขายยุคใหม่

การันตีด้วยพาร์ทเนอร์ร้านค้าดัง ขายดีที่ใช้ระบบมากกว่า 30 ร้านค้า และแบรนด์ดังที่ฝากขายผ่านระบบมากกว่า 2,000 แบรนด์

ระบบฟังก์ชันหลักสำหรับร้านค้าพาร์ทเนอร์ของ MultiOne ที่ช่วยให้การบริหารจัดการร้านค้าเป็นเรื่องง่าย 

 

  • ระบบ POS แคชเชียร์และจัดการร้านค้าใช้งานง่าย
  • จัดการสต็อกสินค้า แยกรายแบรนด์ เช็คสะดวก
  • ร้านจัดการส่วนลด โปรโมชั่นร่วมกับแบรนด์ได้หลากหลาย
  • ออกบาร์โค้ด เชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องยิงบาร์โค้ด
  • มีระบบการใช้งานสำหรับพนักงาน
  • ออกเอกสารทางบัญชี
  • ระบบ Import Export ข้อมูล
  • จัดการข้อมูลลูกค้า และสินค้า
  • ระบบวิเคราะห์ข้อมูลยอดขายรายวัน รายเดือน แยกรายแบรนด์
  • วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและช่องทางจำหน่าย

และเรายังมีฟังก์ชันอีกมากมายสำหรับแบรนด์สินค้าที่มาลงฝากขาย ด้วยระบบที่ออกแบบมาให้ร้านค้าเจอกับแบรนด์ง่ายขึ้น ลดขั้นตอนการส่ง เช็ค และจัดการสินค้าฝากขาย ร้านค้าสามารถเลือกพาร์ทเนอร์ที่เหมาะสมกับหน้าร้านของคุณได้ง่าย ๆ ผ่านระบบบนแพลตฟอร์มของเรา

สนใจเป็นร้านค้าพาร์ทเนอร์ คลิกที่นี่ 

สนใจลงฝากขายสินค้า คลิกที่นี่ 

หรือ INBOX สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยที่ MultiOne 

 

Learn More

ธุรกิจร้านขายของ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ยอดนิยมเป็นอย่างมากในสังคมไทย ผู้คนจำนวนไม่น้อยจึงสนใจการ เปิดร้านขายของ ซึ่งไม่ว่าจะไปที่ไหนเราก็มักจะพบเห็นร้านค้าประเภทนี้อยู่บ่อยๆ ตั้งแต่เด็กจนโตเราจะเห็นว่าร้านขายของนั้นมีมากมายหลายระดับ ตั้งแต่ร้านค้าเล็กๆ แถวบ้าน ชมชุน หรือ ร้านสะดวกซื้อยอดนิยม อย่าง 7-11, แจ่มฟ้าพลาซ่า ไปจนถึงซุปเปอร์มาร์เก็ต  

 

การจะเปิดร้านขายของ แน่นอนว่าต้องมีเงินทุน และทำเลที่ตั้งก็สามารถเริ่มต้นเปิดร้านค้าได้แล้ว ซึ่งการเปิดร้านขายของถือว่าเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ อย่างมากมายเลยทีเดียว จะเห็นว่าเทรนด์เปิดร้านขายของในยุคปัจจุบัน มีทั้งการผสมผสานการขายของรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ เนื่องจากสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีและมอบความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าได้ 

 

แน่นอนว่าหากคุณมีความคิดที่อยาก เปิดร้านขายของ ก็ควรมีการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเปิดร้าน ต้องมีการวางแผนที่ดี ซึ่งหากเตรียมตัวมาไม่ดีพออาจทำให้การเปิดร้านของคุณนั้นไม่ปังอย่างที่คาดหวังไว้ แต่จะทำอย่างไรล่ะให้ ขายแล้วมีกำไร ?

 

วันนี้ Miltione ขอแนะนำ 9 ขั้นตอนการเตรียม เปิดร้านขายของ ให้ขายดีมีกำไร ควรรู้อะไรบ้าง ไปดูพร้อมกันเลย!!

 

1.ทำความเข้าใจตลาดให้ดีก่อน เปิดร้านขายของ

หากว่าคุณกำลังจะวางแผนเปิดร้านขายของ สิ่งแรกที่ควรจะทำ คือ การทำความเข้าใจศึกษาการตลาดให้ดีเสียก่อน คุณต้องดูว่าในทำเลที่คุณจะเข้าไปเปิดร้านค้าผู้คนต้องการสินค้าชนิดใดบ้าง  เช่น หากเปิดในชุมชนสินค้าที่ต้องขายอาจเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค ดังนั้นควรศึกษาตลาดให้ดีและเลือกสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าในบริเวณนั้น

 

2.เลือกทำเลที่เหมาะสมกับการเปิดร้าน

การเลือกทำเลที่ตั้งให้เหมาะสมกับร้าน นับว่าเป็นหนึ่งในส่วนที่สำคัญมากในการ เปิดร้านขายของ หากคุณอยู่ในทำเลที่เหมาะสมแล้ว ยอดขายของคุณก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย การจะหาทำเลที่ดีนั้นมีอยู่หลายองค์ประกอบและหลายเหตุผลในการเลือกเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น การเลือกทำเลที่ลูกค้า สามารถเดินทางมาได้สะดวกและมีที่จอดรถเพียงพอต่อลูกค้า หรือ เลือกทำเลที่อยู่ในกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย จะทำให้มีกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน และเพิ่มยอดขายขึ้นอย่างแน่นอน อาจจะเปิดใกล้ชุมชน หรือ สถานศึกษา ไหนก็ได้ที่มีกลุ่มเป้าหมาย

 

3.การวางแผนการตลาด

การวางแผนการตลาดที่มีความชัดเจน จะช่วยให้ทำงานง่ายขึ้น ซึ่งต้องวางแผนล่วงหน้าและกำหนดรูปแบบให้ชัดเจน จัดโปรโมชั่นช่วงไหน ช่องทางไหนที่กลุ่มลูกค้าที่มีโอกาสซื้อสินค้ามากที่สุดใช้งาน ใช้งานในช่วงเวลาไหนบ่อยที่สุด ทำการตลาดแบบไหน พร้อมทั้งกำหนดเป้าหมายของแต่ละคอนเทนต์ให้มีความชัดเจน ก็จะเปิดร้านขายของ ให้ขายดีมีกำไรได้ไม่ยาก

 

4.ตั้งราคาให้เหมาะสม และเข้ากับกลุ่มเป้าหมายของสินค้า

หนึ่งในปัญหาที่เจ้าของธุรกิจมือใหม่มักจะเจอเมื่อเริ่มเปิดร้านขายของ คือ ไม่รู้วิธีการตั้งราคาสินค้าให้ลูกค้าถูกใจ หากตั้งราคาสูงเกินไปลูกค้าก็ไม่อยากซื้อ หากตั้งราคาต่ำเกินไป ก็จะส่งผลต่อกำไร เสี่ยงขาดทุน และอาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของสินค้าได้ ร้านจึงควรมีกลยุทธ์ในการตั้งราคาสินค้าที่ชาญฉลาด เช่น ตั้งราคาโดยการคิดราคาเพิ่ม 10-20 %, ศึกษาราคาเฉลี่ยจากร้านค้าใกล้เคียงกัน เป็นต้น 

 

5.หาคู่ค้าหรือ supplier ที่น่าเชื่อถือ


การเลือกหาคู่ค้าที่น่าเชื่อถือ ร้านค้าจะต้องเลือกคู่ค้าที่มีประสิทธิภาพ และมีความน่าเชื่อถือ จึงจะเปิดร้านได้อย่างราบรื่น ควรมีการตกลงหรือทำสัญญาสั่งซื้อให้ชัดเจน ลองค้นหาแหล่งซื้อสินค้าที่ขายสินค้าราคาเป็นกันเอง จะได้ประหยัดต้นทุนได้มากขึ้น เมื่อหาซัพพลายเออร์ที่อยู่ใกล้ร้านคุณแล้ว ก็จะช่วยประหยัดค่าเดินทาง และค่าขนส่งอีกด้วย

 

6.คาดการณ์จำนวนลูกค้าอยู่เสมอ 

การคาดการณ์จำนวนลูกค้าต้องอย่าใช้ความรู้สึก เพราะอาจได้ข้อมูลที่ผิดพลาดจนจำนวนลูกค้าลดลงได้ จึงควรมีข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจ ศึกษานิสัยของลูกค้า รายได้ของลูกค้า ในทำเลที่คุณเปิดร้าน และนำมาวิเคราะห์ต่อว่าสินค้าอะไรที่ขายดีที่สุด หรือควรมีบริการเสริมอะไรบ้างจึงจะขายดีมีกำไรมากที่สุด

 

7.ดูงบประมาณในการ เปิดร้านขายของให้ละเอียด

งบประมาณในการเปิดร้านขายของนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของร้านที่ต้องการเปิด หากว่าคุณวางแผนจะเปิดร้านขนาดเล็กหรือมีพื้นที่เป็นของตัวเองอยู่แล้วก็จะใช้งบประมาณไม่มาก แต่หากอยากเปิดร้านขนาดใหญ่อาจจำเป็นต้องทำร้านใหม่ซึ่งใช้งบประมาณค่อนข้างมาก ก็ต้องมีเงินทุนที่มากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นถ้าคุณอยากเปิดร้านจริง ๆ แนะนำว่าให้เปิดร้านตามงบประมาณที่เรามีอยู่ไปก่อน หากร้านของคุณสร้างรายได้มากมาย ก็ค่อยๆต่อเติมร้านค้า จะได้ไม่เสี่ยงต่อการขาดทุนในช่วงเริ่มเปิดร้าน

 

8.ขายทั้งรูปแบบออนไลน์ และออฟไลน์ 

ในยุคนี้โลกเรามีสิ่งอำนวยความสะดวกมากขึ้น ลูกค้าจึงหันมาใช้บริการออนไลน์กันมากขึ้น แม้เทรนด์ร้านขายของออนไลน์จะได้รับความนิยมมากขึ้น แต่ก็ยังมีลูกค้าบางกลุ่มที่ชอบเลือกดูสินค้าจากการดู สัมผัสโดยตรง และเดินช้อปปิ้งไปเรื่อยๆ อยู่เหมือนกัน ซึ่งการเปิดหน้าร้านยังมีความจำเป็นอยู่ ดังนั้นการทำการตลาดในยุคนี้ ร้านขายของควรจะขายในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ผสมผสายกันไป

 

9.ใช้ระบบจัดการร้านที่มีประสิทธิภาพ

การมีระบบจัดการร้าน หรือระบบ POS ที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยให้การขายของคุณราบรื่นขึ้น ช่วยอำนวยความสะดวก ลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก ลดความผิดพลาดการจัดการสินค้า เพิ่มยอดขายให้กับร้านของคุณ อีกทั้งยังช่วยให้การจัดโปรโมช่นเป็นเรื่องง่าย ดังนั้นการที่ร้านขายของใช้ระบบ POS ที่มีประสิทธิภาพช่วยเพิ่มโอกาสให้ยอดขายมากขึ้นและได้กำไรมากกว่าร้านที่ไม่ใช้

หากอยากลองเริ่มเปิดร้านขายของ คุณควรมีความรู้ในหลายๆเรื่องก่อนเปิดร้านซึ่งจะช่วยให้คุณเปิดร้านแล้วประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาการตลาดก่อนเปิดร้านเพื่อทราบว่าต้องการเปิดร้านแบบไหน การเลือกทำเลที่เหมาะสมที่สุด การตั้งราคาให้มีกลยุทธ์ หรือการวางแผนการตลาด เป็นต้น เราหวังว่าเมื่อคุณรู้ทริคต่างๆแล้วจะสามารถเปิดร้านค้าให้ขายดีมีกำไรได้ง่ายๆ

 

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่มีหน้าร้าน และอยู่ในช่วงตัดสินใจว่าจะสมัครใช้งาน POS ดีมั้ย? จะคุ้มหรือเปล่า? เหมาะกับร้านของเรามั้ย? อยากให้เพื่อน ๆ ไม่ต้องลังเลใจ และมาลองใช้งานระบบขายหน้าร้าน POS ของ MultiOne เพราะนอกจากจะช่วยจัดการร้านของเพื่อน ๆ MultiOne ยังมีฟังก์ชันต่าง ๆ อีกมากมายที่ตอบโจทย์ทุกการขายหน้าร้าน สนใจสมัครใช้งานได้เลย

 

บทความแนะนำ

ระบบจัดการร้านค้ามัลติแบรนด์ และร้านค้ารับฝากขาย

MultiOne Platform เพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจคุณ

 

แพลตฟอร์มระบบจัดการร้านมัลติแบรนด์ ร้านค้าปลีก และร้านค้ารับฝากขายสินค้าจากหลายแบรนด์ ที่จะมาช่วยให้การจัดการร้านค้าสะดวกสบายขึ้น ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากหลายขั้นตอน ลดความผิดพลาดการจัดการสินค้า เพิ่มรายได้ และประเภทของสินค้าภายในร้าน จากการรับฝากขายสินค้าจากแบรนด์ดังในระบบ

แหล่งพบปะของร้านค้าออนไลน์ และออฟไลน์ พาร์ทเนอร์ที่ช่วยให้คุณขายได้มากขึ้น ผ่านการฝากขายยุคใหม่

การันตีด้วยพาร์ทเนอร์ร้านค้าดัง ขายดีที่ใช้ระบบมากกว่า 30 ร้านค้า และแบรนด์ดังที่ฝากขายผ่านระบบมากกว่า 2,000 แบรนด์

ระบบฟังก์ชันหลักสำหรับร้านค้าพาร์ทเนอร์ของ MultiOne ที่ช่วยให้การบริหารจัดการร้านค้าเป็นเรื่องง่าย 

 

  • ระบบ POS แคชเชียร์และจัดการร้านค้าใช้งานง่าย
  • จัดการสต็อกสินค้า แยกรายแบรนด์ เช็คสะดวก
  • ร้านจัดการส่วนลด โปรโมชั่นร่วมกับแบรนด์ได้หลากหลาย
  • ออกบาร์โค้ด เชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องยิงบาร์โค้ด
  • มีระบบการใช้งานสำหรับพนักงาน
  • ออกเอกสารทางบัญชี
  • ระบบ Import Export ข้อมูล
  • จัดการข้อมูลลูกค้า และสินค้า
  • ระบบวิเคราะห์ข้อมูลยอดขายรายวัน รายเดือน แยกรายแบรนด์
  • วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและช่องทางจำหน่าย

และเรายังมีฟังก์ชันอีกมากมายสำหรับแบรนด์สินค้าที่มาลงฝากขาย ด้วยระบบที่ออกแบบมาให้ร้านค้าเจอกับแบรนด์ง่ายขึ้น ลดขั้นตอนการส่ง เช็ค และจัดการสินค้าฝากขาย ร้านค้าสามารถเลือกพาร์ทเนอร์ที่เหมาะสมกับหน้าร้านของคุณได้ง่าย ๆ ผ่านระบบบนแพลตฟอร์มของเรา

สนใจเป็นร้านค้าพาร์ทเนอร์ คลิกที่นี่ 

สนใจลงฝากขายสินค้า คลิกที่นี่ 

หรือ INBOX สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยที่ MultiOne

Learn More

Cloud based POS ในระบบจัดการยุคใหม่ เครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถเก็บข้อมูล และอัพโหลดไฟล์ต่างๆ เพื่อจัดเก็บไว้ในคลาวด์ออนไลน์ที่มีความปลอดภัยและได้มาตรฐาน เมื่อธุรกิจต่างก็ปรับตัวเข้าสู่ยุคออนไลน์ Cloud-based จึงเป็นเทคโนโลยีแบบใหม่ที่ถูกออกแบบและพัฒนามาเพื่ออำนวยความสะดวกต่อธุรกิจมากยิ่งขึ้น

 

ทำไม Cloud-based POS กับ POS โดยทั่วไปจึงมีความแตกต่างกัน​?

Cloud-based POS คือ POS ที่ทำงานบนคลาวด์ ทำให้สามารถรวบรวมข้อมูลต่างๆ มาไว้ในส่วนกลางได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ง่านต่อการใช้งาน และการค้นหาข้อมูล ช่วยให้คุณประหยัดเวลา และเพิ่มพื้นที่ในการเก็บข้อมูลมากขึ้น 

 

หมดปัญหาการย้ายข้อมูลเมื่อต้องย้ายร้าน เพราะ POS ที่ทำงานผ่านคลาวด์จะเชื่อมต่อและอัพเดทข้อมูลต่างๆ ไปไว้ที่คลาวด์โดยอัตโนมัติเพียงแค่คุณเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต คุณก็จะสามารถอัพโหลดไฟล์ ดาวน์โหลดไฟล์ และย้ายข้อมูลได้เลยง่ายๆ

 

Cloud based POS ดียังไง ทำไมจึงสำคัญกับร้านค้ารับฝากขาย

สำหรับร้านค้ารับฝากขาย เมื่อมีจำนวนสินค้าในร้านเป็นจำนวนเยอะ ออเดอร์ ข้อมูลการซื้อขาย รายละเอียดสินค้าต่างๆ ก็จะเยอะตามกันไป การจัดเก็บข้อมูลจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดย Cloud-based สามารถเก็บข้อมูลได้อย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ จึงเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการตอบสนองความต้องการของร้านค้านั่นเอง

 

แต่ POS ที่ทำงานผ่านคราวด์ก็ไม่ได้มีข้อดีเพียงเท่านี้ เพราะ Cloud based POS สามารถช่วยให้คุณจัดการร้านค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น

 

1. รวบรวมข้อมูลต่างๆ ไว้ที่คลาวด์ส่วนกลาง

จัดการข้อมูลได้ง่าย และปลอดภัย ข้อมูลถูกเก็บไว้ในรูปแบบคลาวด์ออนไลน์ ทำให้ยากต่อการเจาะข้อมูล มีการอัพเดทข้อมูลเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องแม้อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์จะชำรุดก็ตาม

 

2. ทำให้ขายได้ง่าย สะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ขายง่าย ขายคล่อง เพราะเชื่อมต่อข้อมูลสินค้าจากฐานข้อมูลในร้านค้าโดยตรง สรุปยอดขาย และคำนวณราคาสินค้าได้ง่าย สามารถพิมพ์ใบเสร็จได้ทันที และตัดสต๊อกอัตโนมัติเมื่อมีการซื้อขายสำเร็จ ป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นจากพนักงานขายในด้านต่างๆ

 

3. อัพเดทข้อมูลต่างๆ สม่ำเสมอ

รายงายข้อมูลต่างๆ แบบ Real-time เพียงแค่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะยอดขาย สต๊อกคงเหลือ ยอดขายย้อนหลังก็ตรวจสอบได้ง่ายๆ พร้อมอัพเดทสต๊อกทันทีเมื่อมีการขายสินค้าออกไป หมดปัญหาสต๊อกไม่ตรง ยอดขายไม่เป๊ะ

 

4. พัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง

มีการอัพเดท และพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับปรุงให้ระบบมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งอัพเดทฟังก์ชันต่างๆ ออกมาให้ตอบสนองความต้องการของร้านค้ามากที่สุด 

 

5. ใช้งานได้สะดวก ทุกที่ ทุกเวลา บนทุกอุปกรณ์

ใช้งานได้ง่ายผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ ที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนคุณก็สามารถจัดการร้านค้าได้อย่างรวดเร็ว และสามารถใช้งานได้บนทุกอุปกรณ์เพียงแค่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต

 

Cloud-based POS ตัวช่วยให้คุณจัดการร้านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สำหรับร้านค้าในยุคปัจจุบัน การมีระบบจัดการที่ดี และตอบโจทย์เป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างหนึ่ง ระบบ POS ในปัจจุบันมีการพัฒนา และอัพเดทให้เหมาะสมกับร้านค้าต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น ครอบคลุมหน้าร้านประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าปลีก ร้านรับฝากขาย และร้านมัลติแบรนด์

 

การจะจัดการข้อมูลต่างๆ ภายในร้าน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลรายละเอียดสินค้า ราคา โปรโมชั่น ข้อมูลลูกค้า ข้อมูลพนักงานและอื่น ๆ เป็นเรื่องยุ่งยากและซับซ้อน ยิ่งมีข้อมูลมากเท่าไหร่ การจัดเก็บข้อมูลก็ยิ่งต้องมีความละเอียด รอบคอบและมีความปลอดภัยสูง

Cloud-based POS_ข้อดีของการใช้ระบบ Cloud-based POS สำหรับร้านค้ารับฝากขาย

MultiOne เราให้บริการแพลตฟอร์มจัดการร้านค้าที่มีคุณภาพ มีระบบช่วยขายหน้าร้าน POS (Point of Sale System) ที่ตอบโจทย์ร้านค้าในยุคใหม่ มีการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ที่ได้มาตรฐาน และมีความปลอดภัยสูง มีฟังก์ชันการใช้งานระบบต่างๆ อีกมากมายที่จะช่วยให้การขายของคุณง่ายขึ้น

 

บทความแนะนำ

ระบบจัดการร้านค้ามัลติแบรนด์ และร้านค้ารับฝากขาย

MultiOne Platform เพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจคุณ

 

แพลตฟอร์มระบบจัดการร้านมัลติแบรนด์ ร้านค้าปลีก และร้านค้ารับฝากขายสินค้าจากหลายแบรนด์ ที่จะมาช่วยให้การจัดการร้านค้าสะดวกสบายขึ้น ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากหลายขั้นตอน ลดความผิดพลาดการจัดการสินค้า เพิ่มรายได้ และประเภทของสินค้าภายในร้าน จากการรับฝากขายสินค้าจากแบรนด์ดังในระบบ

แหล่งพบปะของร้านค้าออนไลน์ และออฟไลน์ พาร์ทเนอร์ที่ช่วยให้คุณขายได้มากขึ้น ผ่านการฝากขายยุคใหม่

การันตีด้วยพาร์ทเนอร์ร้านค้าดัง ขายดีที่ใช้ระบบมากกว่า 30 ร้านค้า และแบรนด์ดังที่ฝากขายผ่านระบบมากกว่า 2,000 แบรนด์

ระบบฟังก์ชันหลักสำหรับร้านค้าพาร์ทเนอร์ของ MultiOne ที่ช่วยให้การบริหารจัดการร้านค้าเป็นเรื่องง่าย 

 

  • ระบบ POS แคชเชียร์และจัดการร้านค้าใช้งานง่าย
  • จัดการสต็อกสินค้า แยกรายแบรนด์ เช็คสะดวก
  • ร้านจัดการส่วนลด โปรโมชั่นร่วมกับแบรนด์ได้หลากหลาย
  • ออกบาร์โค้ด เชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องยิงบาร์โค้ด
  • มีระบบการใช้งานสำหรับพนักงาน
  • ออกเอกสารทางบัญชี
  • ระบบ Import Export ข้อมูล
  • จัดการข้อมูลลูกค้า และสินค้า
  • ระบบวิเคราะห์ข้อมูลยอดขายรายวัน รายเดือน แยกรายแบรนด์
  • วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและช่องทางจำหน่าย

และเรายังมีฟังก์ชันอีกมากมายสำหรับแบรนด์สินค้าที่มาลงฝากขาย ด้วยระบบที่ออกแบบมาให้ร้านค้าเจอกับแบรนด์ง่ายขึ้น ลดขั้นตอนการส่ง เช็ค และจัดการสินค้าฝากขาย ร้านค้าสามารถเลือกพาร์ทเนอร์ที่เหมาะสมกับหน้าร้านของคุณได้ง่าย ๆ ผ่านระบบบนแพลตฟอร์มของเรา

สนใจเป็นร้านค้าพาร์ทเนอร์ คลิกที่นี่ 

สนใจลงฝากขายสินค้า คลิกที่นี่ 

หรือ INBOX สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยที่ MultiOne 

 

Learn More

ระบบ POS ถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยยกระดับร้านค้าของคุณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทันสมัยมากขึ้น ในยุคสมัยนี้การจะเปิดหน้าร้านโดยไม่มีตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพคงไม่เพียงพอต่อการจัดการร้าน นอกจากจะยุ่งยากและเกิดความล่าช้าในการทำงานแล้ว ยังมีโอกาสผิดพลาดมากอีกด้วย ซึ่งอาจส่งผลให้ยอดขายตกต่ำลงได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ร้านค้าควรหันมาใช้ POS เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับร้านคุณ นอกจากนี้ยังช่วยในหลายๆด้านอีกด้วยไม่ว่าจะเป็น การจัดการธุรกิจการขายและการบริการต่าง ๆ ให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น 

ระบบการขายหน้าร้าน POS คืออะไร?

 

ระบบ POS ย่อมาจากคำว่า point of sale system ระบบขายหน้าร้าน หรือโปรแกรมที่ช่วยการเก็บข้อมูลการขาย โดยปกติทั่วไปเรามักจะพบเห็นได้ตามห้างสรรพสินค้า และร้านค้าทั่วไปได้ที่จุดแคชเชียร์ชำระเงินนั่นเอง ซึ่ง POS นั้นเป็นการผสมผสานระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ซึ่ง POS นั้นถูกออกแบบและพัฒนามาจากระบบแคชเชียร์คิดเงินแบบดั้งเดิม ที่เน้นในด้านการคิดเงินเพียงอย่างเดียวและการแสดงยอดขายแต่ละวันเท่านั้น 

 

หลายคนมักเกิดความสับสนว่าสรุปแล้ว POS มันคือ คอมพิมเตอร์ใช่ไหม? แต่แท้จริงแล้วระบบ POS ก็คือ เครื่องคิดเงินที่มีตัวเครื่องติดกับเครื่องสแกนบาร์โค้ดอีกที แต่ในปัจจุบันเครื่องคิดเงินมีความสามารถหลากหลายกว่าเดิมมาก ซึ่งได้ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายคอมพิวเตอร์เพื่อการใช้งานที่สะดวกสบายขึ้น เครื่อง POS บางแบรนด์สามารถเชื่อมต่อกับมือถือหรือแท็บเล็ตได้ เป็นการเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก และเพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการกับลูกค้าอีกด้วย 

 

ระบบ POS มีกี่ประเภทกันนะ ?

แน่นอนว่าระบบ POS นั้นมีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้งาน โดยคุณสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสม แต่ว่าประเภทไหนที่จะเหมาะสมกับร้านค้าของคุณเรามียกตัวอย่างมาให้ดูคร่าว ๆ กันแล้วไปดูกันเลย!!

 

1.Mobile Point-of-Sale systems

คือ ระบบ POS ที่เป็นแอพอยู่บนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต มีทั้งแบบใช้งานได้ฟรีและเสียเงิน มีความสามารถในการช่วยประมวลผลการชำระเงิน และจัดการสินค้าได้บางส่วนเท่านั้น ซึ่งมีความสะดวกในการพกพาไปไหนมาไหน ใช้งานง่าย และไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับธุรกิจหรือร้านค้าขนาดเล็ก ที่มีสินค้าจำนวนไม่มาก เพียงแค่มีอินเตอร์เน็ตก็สามารถใช้งานได้ทันที สะดวกต่อลูกค้าและร้านค้า

 

2.Tablet POS

มีความคล้ายคลึงกับระบบ Mobile POS แต่ใช้งานบนแท็บเล็ต สามารถใช้งานกับสินค้าคงคลังที่มีปริมาณมากได้ มีข้อดีคือสามารถติดตามเวลาการทำงานของพนักงานได้ เหมาะสำหรับร้านค้าขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ที่มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด และต้องการ POS system ที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้บางครั้ง

 

3.Terminal POS

ถ้าจะถามว่าระบบ POS ตัวไหนที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด ก็คงเป็น Terminal POS โดยใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อ เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ที่ต้องการการจัดการที่สะดวกครบครัน และมีพื้นที่ว่างในการติดตั้ง

 

4.Multi-channel commerce POS

ระบบ POS ประเภทนี้มีทั้งแบบหน้าร้านและออนไลน์ จะเป็นการรวมการขายในหลาย ๆ ช่องทางเข้าด้วยกัน รวมไปถึงร้านค้าที่มีหลายสาขาอีกด้วย โดย  Multi-channel POS หากจะใช้งานให้เหมาะสมนั้นธุรกิจที่มีหน้าร้านเป็นของตัวเองและบนช่องทางออนไลน์นั้นมีความเหมาะสมมากที่สุด 

หลังจากได้รู้จักประเภทของ POS กันแล้วก็จำเป็นต้องทราบประโยชน์ด้วยนะ วันนี้น้องมัลตี้และ MultiOne จะมาบอก 5 ข้อดีที่  POS system จะช่วยให้ยอดขายของร้านค้าคุณเพิ่มขึ้น

 

1.ช่วยประหยัดเวลาจากการใช้ POS system

สำหรับผู้ทำธุรกิจนั้นเวลาไม่เคยรอใคร การที่มีเครื่อง POS สักเครื่องจะช่วยคุณประหยัดเวลาได้มากขึ้น ช่วยลดเวลาในการทำงาน ทำให้เจ้าของธุรกิจไม่ต้องจดบิล อีกทั้งทำให้การคิดเงิน การหาสินค้าชนิดต่างๆ รวดเร็วมากขึ้น สามารถเก็บข้อมูลได้หลายส่วนพร้อมกันได้ 

 

2.เพิ่มความแม่นยำ ลดความผิดพลาด

POS system จะช่วยเก็บข้อมูล ราคา สินค้าอย่างเป็นระบบ ทำให้ไม่ต้องกังวลในเรื่อง ยอดขายที่จะตกหล่นจากการคำนวณที่ผิดพลาด ช่วยลดการขาดทุน แสดงจำนวนยอดสินค้าคงคลังตามจริงในสต็อก การลดข้อผิดพลาดในการทำงานนั้นจะทำให้ภาพลักษณ์ของธุรกิจคุณ มีความน่าเชื่อถือ และแสดงความเป็นมืออาชีพอีกด้วย 

 

3.ลดการจ้างพนักงาน

เป็นเรื่องปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการจ้างพนักงานน้อยลง สามารถช่วยประหยัดเงินในการลงทุนได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เนื่องจากสามารถดูข้อมูลร่วมกันผ่านระบบได้ในที่เดียวกัน จึงใช้จำนวนพนักงานน้อยลง อีกทั้งยังประหยัดเวลาในการทำงานของพนักงานอีกด้วย อย่างเช่น การออกใบเสร็จเอง เป็นต้น

 

4.การช่วยวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า

เครื่อง POS based cloud จะมีระบบเก็บข้อมูลลูกค้าอยู่ การวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าจะช่วยเพิ่มยอดขายสินค้าให้กับธุรกิจของคุณ มีการพิมพ์ใบเสร็จที่มีรายละเอียดรายการสั่งซื้อสินค้า สามารถนำมาวิเคราะห์ได้ว่า ลูกค้าชอบซื้อสินค้าประเภทไหน สินค้าชนิดใดขายดีที่สุด ซึ่งสามารถนำข้อมูลที่มีอยู่มาช่วยคิดการวางกลยุทธ์ในการทำการตลาดได้ง่ายขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ทราบกลุ่มลูกค้าได้ชัดเจนขึ้น และยังจัดโปรโมชั่นได้ง่ายขึ้นอีกด้วย 

 

5.มีลูกค้าประจำมากขึ้นจาก POS system

การมีลูกค้าประจำร้านนั้นเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งช่วยการันตีแน่ๆว่าคุณมีลูกค้า เมื่อใช้ฟีเจอร์ CRM ที่อยู่ใน POS เจ้าของสามารถจัดโปรโมชั่นได้หลากหลายและตอบแทนลูกค้าประจำ เป็นการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ช่วยให้พวกเขากลับมาใช้บริการอยู่ตลอด อีกทั้งยังทำให้ลูกค้าไม่หันไปซื้อสินค้าร้านอื่นๆ และอยากซื้อสินค้ากับร้านของคุณต่อไป 

 

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่มีหน้าร้าน และอยู่ในช่วงตัดสินใจว่าจะสมัครใช้งาน POS ดีมั้ย? จะคุ้มหรือเปล่า? เหมาะกับร้านของเรามั้ย? อยากให้เพื่อน ๆ ไม่ต้องลังเลใจ และมาลองใช้งานระบบขายหน้าร้าน POS ของ MultiOne เพราะนอกจากจะช่วยจัดการร้านของเพื่อน ๆ MultiOne ยังมีฟังก์ชันต่าง ๆ อีกมากมายที่ตอบโจทย์ทุกการขายหน้าร้าน สนใจสมัครใช้งานได้เลย

 

บทความแนะนำ

 

MultiOne Platform เพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจคุณ

 

แพลตฟอร์มระบบจัดการร้านมัลติแบรนด์ ร้านค้าปลีก และร้านค้ารับฝากขายสินค้าจากหลายแบรนด์ ที่จะมาช่วยให้การจัดการร้านค้าสะดวกสบายขึ้น ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากหลายขั้นตอน ลดความผิดพลาดการจัดการสินค้า เพิ่มรายได้ และประเภทของสินค้าภายในร้าน จากการรับฝากขายสินค้าจากแบรนด์ดังในระบบ

แหล่งพบปะของร้านค้าออนไลน์ และออฟไลน์ พาร์ทเนอร์ที่ช่วยให้คุณขายได้มากขึ้น ผ่านการฝากขายยุคใหม่

การันตีด้วยพาร์ทเนอร์ร้านค้าดัง ขายดีที่ใช้ระบบมากกว่า 30 ร้านค้า และแบรนด์ดังที่ฝากขายผ่านระบบมากกว่า 2,000 แบรนด์

ระบบฟังก์ชันหลักสำหรับร้านค้าพาร์ทเนอร์ของ MultiOne ที่ช่วยให้การบริหารจัดการร้านค้าเป็นเรื่องง่าย 

 

  • ระบบ POS แคชเชียร์และจัดการร้านค้าใช้งานง่าย
  • จัดการสต็อกสินค้า แยกรายแบรนด์ เช็คสะดวก
  • ร้านจัดการส่วนลด โปรโมชั่นร่วมกับแบรนด์ได้หลากหลาย
  • ออกบาร์โค้ด เชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องยิงบาร์โค้ด
  • มีระบบการใช้งานสำหรับพนักงาน
  • ออกเอกสารทางบัญชี
  • ระบบ Import Export ข้อมูล
  • จัดการข้อมูลลูกค้า และสินค้า
  • ระบบวิเคราะห์ข้อมูลยอดขายรายวัน รายเดือน แยกรายแบรนด์
  • วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและช่องทางจำหน่าย

และเรายังมีฟังก์ชันอีกมากมายสำหรับแบรนด์สินค้าที่มาลงฝากขาย ด้วยระบบที่ออกแบบมาให้ร้านค้าเจอกับแบรนด์ง่ายขึ้น ลดขั้นตอนการส่ง เช็ค และจัดการสินค้าฝากขาย ร้านค้าสามารถเลือกพาร์ทเนอร์ที่เหมาะสมกับหน้าร้านของคุณได้ง่าย ๆ ผ่านระบบบนแพลตฟอร์มของเรา

สนใจเป็นร้านค้าพาร์ทเนอร์ คลิกที่นี่ 

สนใจลงฝากขายสินค้า คลิกที่นี่ 

หรือ INBOX สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยที่ MultiOne 

 

Learn More

ระบบขายหน้าร้าน เครื่องมือสำคัญสำหรับร้านค้ายุคใหม่ที่จะช่วยให้การจัดการร้านค้าของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะในปัจจุบัน การเปิดร้านค้าทำเลดีอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ การมีระบบหน้าบ้านที่ดี และมีระบบหลังบ้านที่มีประสิทธิภาพ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้ร้านค้าประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าขนาดเล็กหรือใหญ่ก็ตาม

 

ระบบการขายหน้าร้าน (Point of sale system) หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ ระบบ POS ตัวช่วยสำคัญสำหรับร้านค้า ถูกออกแบบและพัฒนามาจากระบบแคชเชียร์คิดเงินแบบเก่า ที่เน้นในด้านการคิดเงินเพียงอย่างเดียว ซึ่งนั่นอาจไม่เพียงพอสำหรับร้านค้าในยุคปัจจุบัน

 

ปัจจุบัน ระบบ POS ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ไม่เป็นเพียงแค่เครื่องคิดเงินธรรมดา ทั่วไป แต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยบริหารร้านค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยระบบ POS จะเป็นตัวช่วยให้ร้านค้าจัดการร้านค้าได้อย่างลื่นไหล ทั้งยังช่วยประหยัดเวลาและลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็น และช่วยให้เจ้าของร้านไม่ต้องเหนื่อยจนเกินไปอีกด้วย

 

ระบบขายหน้าร้าน สำคัญอย่างไร แล้วเหมาะกับร้านค้าแบบไหนบ้าง?

หากคุณเดินเข้าไปซื้อของในร้านค้าขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ มากกว่า 80% คุณจะพบว่าร้านค้าต่าง ๆ มีการนำระบบ POS มาใช้ในการจัดการหน้าร้าน ทั้งในส่วนของการคิดเงิน การเช็คยอดขาย การเช็คสต๊อกคงเหลือ และการรายงานความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ภายในร้าน 

ระบบขายหน้าร้าน_ระบบขายหน้าร้าน MultiOne เครื่องมือสำคัญตอบโจทย์ร้านค้าในยุคใหม่

เพื่อให้เห็นภาพมากยิ่งขึ้น เราขอยกตัวอย่างการใช้ระบบ POS ภายในร้านสะดวกซื้อ เมื่อลูกค้ามาซื้อสินค้าในแต่ละครั้ง ระบบจะทำการสรุปยอดคำสั่งซื้อ และทำการตัดสต๊อกสินค้าที่ทำการสั่งซื้อสำเร็จออกไปจากคลังสินค้า ทำให้ร้านค้าสามารถตรวจสอบยอดสต๊อกคงเหลือได้อย่างรวดเร็ว อัพเดทอย่างสม่ำเสมอ และยังสามารถตรวจสอบยอดขายทั้งหมดที่ได้รับในแต่ละวันได้ด้วยเช่นกัน

 

ดังนั้น ระบบ POS ตัวช่วยขายหน้าร้าน จึงเหมาะกับหน้าร้านประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ร้านมัลติแบรนด์ ร้านรับฝากขาย ร้านค้าปลีก ร้านอาหาร คาเฟ่ หรือห้างต่าง ๆ ที่มีการซื้อ-ขายสินค้านั่นเอง

 

แล้วระบบ POS ตอบโจทย์ธุรกิจของคุณหรือไม่?

ร้านค้าที่กำลังสงสัย ระบบ POS ขายหน้าร้านดีหรือไม่? เหมาะสมกับร้านของเราหรือเปล่า? จำเป็นต่อร้านของเราแค่ไหน? วันนี้เราจะมาไขคำตอบกัน

ระบบขายหน้าร้าน_ระบบขายหน้าร้าน MultiOne เครื่องมือสำคัญตอบโจทย์ร้านค้าในยุคใหม่

สำหรับร้านค้า การมีระบบดี ๆ ที่ช่วยเรื่องการขายหน้าร้าน เปรียบเสมือนการมีทางลัดสู่ความสำเร็จ เพราะระบบ POS ไม่ได้เป็นเพียงแค่ระบบช่วยขายหน้าร้านเท่านั้น แต่ระบบ POS ยังสามารถเก็บข้อมูลความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ภายในร้านของคุณได้อีกด้วย

ซึ่งในปัจจุบัน ระบบ POS ได้รับการพัฒนาให้มีฟังก์ชันต่าง ๆ ตอบโจทย์การขายหน้าร้านมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะเปิดร้านมัลติแบรนด์ ร้านรับฝากขาย หรือร้านค้าปลีกก็ตาม

 

ระบบขายหน้าร้านที่ดี และตอบโจทย์การขายยุคใหม่ ควรทำอะไรได้บ้าง?

1.คิดเงินหน้าร้าน

ระบบ POS โดยส่วนใหญ่สามารถใช้งานร่วมกับเครื่องสแกนบาร์โค้ดได้ เพียงแค่สแกนบาร์โค้ดหรือกรอกรหัสสินค้า ก็จะสามารถแสดงรายละเอียดสินค้าและสรุปยอดขายในแต่ละบิลได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลาและช่วยลดขั้นตอนที่ยุ่งยากไม่จำเป็นออกไป อีกทั้งยังช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าไม่ต้องรอนาน

 

2.รายงานและสรุปยอดขาย

สรุปยอดขายที่ร้านได้รับในแต่ละวันและย้อนหลัง เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบ และจัดทำบัญชี โดยฟังก์ชันสรุปยอดขายของ MultiOne สามารถดูยอดขายได้ทั้งโดยรวม และแยกย่อยรายแบรนด์ เพื่ออำนวยให้คุณสามารถตรวจสอบยอดขายต่าง ๆ ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น เหมาะสำหรับร้านฝากขาย ร้านมัลติแบรนด์ และร้านค้าที่มีแบรนด์สินค้ามากกว่าหนึ่งแบรนด์

 

3.ตรวจสอบสต๊อก

ในหลาย ๆ ครั้ง ร้านค้ามักเผชิญปัญหา สต๊อกไม่พอขาย เนื่องจากการคำนวณสต๊อกที่ผิดพลาด ทำให้เติมสต๊อกไม่ทัน มีสินค้าไม่เพียงพอต่อการขาย ฟังก์ชันตรวจสอบสต๊อกจึงเป็นฟังก์ชันที่สำคัญ และพัฒนามาเพื่อลดปัญหาสต๊อกขาด โดยการรายงานยอดสต๊อกคงเหลือภายในร้านของคุณนั่นเอง

 

สำหรับฟังก์ชันสต๊อกของ MultiOne นอกจากจะรายงานสต๊อกคงเหลือในแต่ละแบรนด์ ร้านค้าสามารถจัดการข้อมูลสินค้าและแบรนด์ที่ทำการฝากขาย รวมถึงจัดโปรโมชั่นร่วมกันกับแบรนด์ได้อีกด้วย

 

4.E-Commerce

ร้านค้าหลาย ๆ ร้านมีการขายทั้งออนไลน์และหน้าร้าน เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการสินค้าและแบรนด์สินค้าร่วมกัน การเชื่อมต่อสต๊อกทั้งออนไลน์และหน้าร้านเข้าด้วยกัน จะช่วยให้ง่ายต่อการบริหารจัดการคลังสินค้าภายในร้านนั่นเอง

 

ทำไมระบบขายหน้าร้าน POS ถึงครองใจร้านค้าและเจ้าของกิจการ?!?

คุณเคยสงสัยหรือไม่ ทำไมระบบ POS ถึงครองใจเจ้าของร้านค้าหรือผู้ประกอบการในยุคใหม่ ระบบ POS มีข้อดียังไงกันนะ ทำไมถึงมัดใจเจ้าของร้านได้ขนาดนี้!!

  • ช่วยอำนวยความสะดวกให้การขายสินค้า และบริการ
  • ลดภาระด้านค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น
  • ลดภาระด้านการตรวจสอบทั้งยอดขาย และสต๊อก 
  • เพิ่มความแม่นยำ และละเอียดรอบคอบ
  • สรุปข้อมูลต่าง ๆ ให้เข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้น
  • ตรวจสอบยอดขาย ตรวจสอบสต๊อกได้ทุกที่ ทุกเวลา!! 

 

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่มีหน้าร้าน และอยู่ในช่วงตัดสินใจว่าจะสมัครใช้งานระบบ POS ดีมั้ย? จะคุ้มหรือเปล่า? เหมาะกับร้านของเรามั้ย? อยากให้เพื่อน ๆ ไม่ต้องลังเลใจ และมาลองใช้งานระบบขายหน้าร้าน POS ของ MultiOne เพราะนอกจากจะช่วยจัดการร้านของเพื่อน ๆ MultiOne ยังมีฟังก์ชันต่าง ๆ อีกมากมายที่ตอบโจทย์ทุกการขายหน้าร้าน สนใจสมัครใช้งานได้เลย

 

บทความแนะนำ

ระบบจัดการร้านค้ามัลติแบรนด์ และร้านค้ารับฝากขาย

MultiOne Platform เพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจคุณ

 

แพลตฟอร์มระบบจัดการร้านมัลติแบรนด์ ร้านค้าปลีก และร้านค้ารับฝากขายสินค้าจากหลายแบรนด์ ที่จะมาช่วยให้การจัดการร้านค้าสะดวกสบายขึ้น ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากหลายขั้นตอน ลดความผิดพลาดการจัดการสินค้า เพิ่มรายได้ และประเภทของสินค้าภายในร้าน จากการรับฝากขายสินค้าจากแบรนด์ดังในระบบ

แหล่งพบปะของร้านค้าออนไลน์ และออฟไลน์ พาร์ทเนอร์ที่ช่วยให้คุณขายได้มากขึ้น ผ่านการฝากขายยุคใหม่

การันตีด้วยพาร์ทเนอร์ร้านค้าดัง ขายดีที่ใช้ระบบมากกว่า 30 ร้านค้า และแบรนด์ดังที่ฝากขายผ่านระบบมากกว่า 2,000 แบรนด์

ระบบฟังก์ชันหลักสำหรับร้านค้าพาร์ทเนอร์ของ MultiOne ที่ช่วยให้การบริหารจัดการร้านค้าเป็นเรื่องง่าย 

 

  • ระบบ POS แคชเชียร์และจัดการร้านค้าใช้งานง่าย
  • จัดการสต็อกสินค้า แยกรายแบรนด์ เช็คสะดวก
  • ร้านจัดการส่วนลด โปรโมชั่นร่วมกับแบรนด์ได้หลากหลาย
  • ออกบาร์โค้ด เชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องยิงบาร์โค้ด
  • มีระบบการใช้งานสำหรับพนักงาน
  • ออกเอกสารทางบัญชี
  • ระบบ Import Export ข้อมูล
  • จัดการข้อมูลลูกค้า และสินค้า
  • ระบบวิเคราะห์ข้อมูลยอดขายรายวัน รายเดือน แยกรายแบรนด์
  • วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและช่องทางจำหน่าย

และเรายังมีฟังก์ชันอีกมากมายสำหรับแบรนด์สินค้าที่มาลงฝากขาย ด้วยระบบที่ออกแบบมาให้ร้านค้าเจอกับแบรนด์ง่ายขึ้น ลดขั้นตอนการส่ง เช็ค และจัดการสินค้าฝากขาย ร้านค้าสามารถเลือกพาร์ทเนอร์ที่เหมาะสมกับหน้าร้านของคุณได้ง่าย ๆ ผ่านระบบบนแพลตฟอร์มของเรา

สนใจเป็นร้านค้าพาร์ทเนอร์ คลิกที่นี่ 

สนใจลงฝากขายสินค้า คลิกที่นี่ 

หรือ INBOX สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยที่ MultiOne 

 

Learn More

การเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือ การมีธุรกิจเป็นของตัวเอง นับว่าเป็นความฝันของใครหลายต่อหลายคน ไม่ว่าจะเป็นคนที่ทำงานมานานหลายปีหรือคนรุ่นใหม่ไฟแรงก็ตาม ถือว่าเป็นงานถือมีความอิสระในการทำงานอย่างมาก เราสามารถเป็นเจ้านายตัวเองได้ สามารถทำเอง คิดเองได้ ตามที่ต้องการ ทำให้หลายปีที่ผ่านมานี้มีเจ้าของธุรกิจหน้าใหม่เกิดขึ้นมากมาย ทั้ง Startup และ SME อีกทั้งบางคนยังลาออกจากงานประจำมาเริ่มทำธุรกิจเองอีกด้วย เพราะการทำงานประจำอาจจะไม่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ชอบคิดนอกกรอบสักเท่าไหร่ การทำธุรกิจ จึงอาจจะตอบโจทย์กว่า

การเริ่มต้น การทำธุรกิจ ได้เงินไวจริงไหม?

การทำธุรกิจหลายคนกำลังคิดว่าสามารถทำงานได้ดั่งใจ ตามใจนึก ได้เงินไว แต่ความจริงแล้วธุรกิจที่อยู่รอดและประสบความสำเร็จกลับมีจำนวนไม่มากนัก การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้นต้องใช้ ความทุ่มเท ความขยัน และต้องทำงานอย่างหนักตั้งแต่เริ่มต้นทำแรก ๆ ไปจนธุรกิจเริ่มเข้าทาง แต่ก็ต้องพัฒนาอยู่เสมอเพื่อความยั่งยืนของธุรกิจ แล้วการเริ่มทำธุรกิจต้องคำนึงถึงอะไรบ้างล่ะ? 

10 คำถาม คุณมีความพร้อมมากแค่ไหนที่จะเริ่มทำธุรกิจ

วันนี้น้องมัลตี้มี 10 คำถามที่จะช่วยสำรวจว่าคุณมีความพร้อมมากแค่ไหนที่จะเริ่มการทำธุรกิจของตัวเอง ถ้าไม่อยากเจ๊งต้องรู้!!

 

1.เหตุผลอะไรที่เราอยากเริ่ม การทำธุรกิจ 

คำถามแรกที่มีความสำคัญมากที่สุดและต้องถามตัวเอง คือ เหตุผลอะไรที่ทำให้อยากเริ่มทำธุรกิจ จุดหมาย ท้ายที่สุดแล้วต้องการอะไร มีแรงจูงใจอะไรในการเริ่มทำ หลายๆ คนนั้นเริ่มต้นทำธุรกิจส่วนตัวแต่ไม่รู้จะทำอะไร ลงทุนไปก่อนโดยไม่รู้ว่าทำอะไรลงไปอยู่ ไม่ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ จึงทำให้เหตุผลในการเริ่มทำไม่ชัดเจน การดำเนินของธุรกิจจึงเดินในทิศทางที่ผิด ดังนั้นการเริ่มธุรกิจทั้งๆ ที่ไม่ชัดเจนในเป้าหมายและไม่มีความพร้อมนั้น ทำให้เจ้าของธุรกิจต้องเผชิญกับปัญหาวุ่นวายต่างๆ ที่ตามมา จึงมีโอกาสสูงมากที่เราจะล้มเลิกในการทำและสุดท้ายธุรกิจก็จะไปต่อไม่ได้เองในที่สุด 

 

2.ต้องการอะไรจาก การทำธุรกิจ

การตั้งคำถามว่าเราต้องการอะไรจากธุรกิจนั้นถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะช่วยให้เราทราบว่าเราต้องการและคาดหวังอะไร เริ่มต้นเราอาจจะลองเขียนสิ่งที่ต้องการออกมาโดยไม่ต้องรู้สึกกังวลว่าจะทำได้จริงตามที่เขียนออกมาหรือไม่ จากนั้นลองประเมินดูว่าเรามีความพร้อมอะไรบ้าง มีอะไรที่ขาดหายไปหรือมีอะไรอยู่บ้าง และดูว่าสิ่งไหนที่คิดว่ามีแนวโน้มเป็นไปได้ทำได้จริง มีแนวโน้มด้านบวก หรือสิ่งไหนที่ค่อนข้างยากเกินไปจากสิ่งที่ตั้งไว้ การเริ่มต้นลองเขียนจะทำให้เราเห็นภาพสิ่งที่ต้องการได้ชัดเจนขึ้น  

 

3.ปัญหาอะไรที่ส่งผลต่อ การทำธุรกิจ?

แน่นอนว่าหากเราเป็นผู้ประกอบการ เราก็ต้องมีสินค้าหรือบริการที่ตอบโจทย์ให้แก่ลูกค้าอยู่แล้ว ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มักมี ทักษะในการแก้ปัญหาต่างๆ รวมถึงไหวพริบการเอาตัวรอดในสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดี ฉะนั้นผู้ประกอบการมือใหม่ทั้งหลายที่ต้องการเริ่มทำธุรกิจควรลองหา ปัญหาที่ผู้คนส่วนใหญ่มักเจอว่าคืออะไร แล้วหาวิธีแก้ปัญหา หาทางออกที่น่าสนใจและคิดว่าตอบโจทย์ที่สุด เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาธรุกิจต่อไป ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์และไหวพริบค่อนข้างมาก ดังนั้นจึงควรแสวงหาวิธีแก้ไปเรื่อยๆ เพื่อสะสมประสบการณ์

 

4.กลุ่มลูกค้าของเราคือใคร?

เมื่อทราบถึงเป้าหมายในการทำธุรกิจแล้วว่าอยากทำธุรกิจอะไร ก็ควรทราบว่ากลุ่มลูกค้าของเราคือใครด้วย หากเราไม่ทราบกลุ่มลูกค้าของเรา ตอบไม่ได้ว่ากลุ่มลูกค้าของเราเป็นใคร ธุรกิจก็ไปต่อได้ยาก ทำให้คนซื้อน้อยลง เพราะไม่รู้กลุ่มลูกค้าที่แท้จริง เราจำเป็นต้องทำการศึกษาว่ากลุ่มลูกค้าหลักของเราเป็นใคร ศึกษาตั้งแต่ เพศ อายุ ระดับรายได้ ภูมิลำเนา และไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต เพื่อนำข้อมูลที่ศึกษาไปพัฒนาสินค้าหรือบริการของเราให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด อีกทั้งยังสามารถทำการตลาดได้ง่ายขึ้นด้วยเนื่องจากทราบกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แท้จริง 

 

5.แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจ?

นับวันโลกของเรามีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โลกธุรกิจก็เช่นกัน หากเราอยากมีธุรกิจที่ยั่งยืน ก่อนเริ่มทำธุรกิจเราจำเป็นต้องวิเคราะห์แนวโน้มของประเภทธุรกิจที่จะทำว่ามีแนวโน้มไปในทิศทางไหน ตั้งแต่การประเมินความเสี่ยง คู่แข่งในตลาด รวมถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอีกด้วย เพื่อธุรกิจจะได้เติบโตอย่างยั่งยืนและมีรายได้ที่น่าพึงพอใจ เช่น ธุรกิจร้านค้ามัลติแบรนด์ที่กำลังเป็นกระแสอย่างมากในยุคปัจจุบัน หรือธุรกิจร้านคาเฟ่ ร้านชาบูกระทะ เป็นต้น 

 

6.ประเมินจุดแข็งและจุดอ่อนของตนเอง

เจ้าของธุรกิจจำเป็นต้องรู้ลึกในเรื่องจุดแข็งและจุดอ่อนของตนเอง ประเมินตัวเองว่า จุดแข็งและจุดอ่อนของเราคืออะไร เพื่อที่จะนำจุดเด่นที่มีมาใช้เป็นตัวขายและสร้างความแตกต่างกับธุรกิจตนเอง ถ้าเห็นว่าทักษะที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอก็ต้องพัฒนา เพื่อลบจุดด้อยที่มีอยู่ อาจต้องไปเรียนรู้ทักษะเพิ่มเติม เพื่อสร้างความสมบูรณ์แบบให้กับธุรกิจของตนเองได้มากที่สุด ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการทำธุรกิจในอนาคตอีกด้วย

 

7.ธุรกิจที่อยากทำตอบโจทย์กับตลาดไหม

หากคุณเป็นคนที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองในรูปแบบเดียวกับคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นร้านมัลติแบรนด์ คาเฟ่ ร้านชาบูหมูกระทะ สิ่งที่สำคัญมาก คือ “ความแตกต่าง” โดยเริ่มจากการหาจุดเด่นในธุรกิจของตนเอง เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ ง่ายต่อการจดจำ เช่น การตกแต่งร้านที่เป็นเอกลักษณ์คนจดจำได้ง่าย การมีบริการพิเศษที่ไม่เหมือนใคร หรือมุมถ่ายรูปในร้านสวยๆก็สร้างความแตกต่างได้ เป็นต้น หากเราคิดไอเดียไม่ออกว่าจะทำยังไงให้ธุรกิจมีความแตกต่าง ให้ลองศึกษาจากคู่แข่งดูก่อน จากนั้นจึงนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจตนเองให้เหมาะสม

 

8.สามารถแก้ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้

การทำธุรกิจไม่ว่าจะช่วงเริ่มต้น หรือช่วงที่คงที่ ก็มีสิ่งที่ผู้เจ้าของธุรกิจต้องระวังอย่างมาก คือความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ แม้จะเป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยก็ย่อมมีผลกระทบตามมาแน่นอน ซึ่งการมองข้ามหรือปล่อยปะละเลยข้อผิดพลาดให้กลายเป็นดินพอกหางหมูอาจเป็นจุดจุดจบของการทำธุรกิจได้ ดังนั้น หากผู้นำดำเนินกิจการในทิศทางที่ผิดพลาดแล้ว ต้องสามารถยอมรับข้อผิดพลาดนั้นให้ได้ และหาวิธีแก้ไขเร็วให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมถึงเปิดรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นๆ ด้วย ซึ่งจะช่วยให้แก้ปัญหาได้รวดเร็วขึ้นกว่าการแก้ปัญหาเองแน่นอน

 

9.มองหาผู้สนับสนุนเรา

ธุรกิจไม่มีทางประสบความสำเร็จได้แน่นอนหากคุณ “ทำทุกอย่างเพียงตัวคนเดียว” คุณจำเป็นต้องมีผู้ช่วยผลักดัน หรือผู้ที่สนับสนุนเรา เพื่อการเติบโตและพัฒนาในส่วนที่ไม่มี ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นกุญแจสำคัญของการเริ่มต้นทำธุรกิจ อาจเริ่มหาจากคนใกล้ชิดกันอย่างเพื่อน ครอบครัวไปก่อนในช่วงแรก หากมี Connection มากขึ้นแล้วอาจลองเข้าร่วมงานสัมมนาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ และทำความรู้จักกับคนใหม่ๆ หรือจะออกไปทำกิจกรรมด้านนอกก็ได้เช่นกัน รวมถึงการหา Community บนโซเชียลมีเดีย เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีผู้สนับสนุน ให้คำปรึกษาคุณมากขึ้นเท่าตัวเลยทีเดียว

 

10.หาเงินทุนก่อนเริ่มต้นทำธุรกิจ

เมื่อเราทราบทุกอย่างแล้วว่าจะทำธุรกิจอะไรดี มีแผนพร้อม มีการประเมินความเสี่ยงพร้อม แต่ยังไม่มีทุนที่พร้อม ซึ่งเจ้าของธุรกิจบางคนอาจเริ่มต้นจากการทำงานประจำในบริษัทสักแห่ง และค่อยๆ เก็บเงินไปเรื่อยๆ  หรือเงินทุนจากรายได้เสริม บางคนอาจโชคดีที่ทางบ้านมีความพร้อมในด้านการเงินอยู่แล้วจึงไม่มีปัญหาอะไร การหาเงินทุนเริ่มต้นเป็นสิ่งที่จำเป็นแต่ก็อย่าลืมนึกถึงเงินทุนสำรองก่อนลงมุนอะไรด้วย เพราะหากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมา เราจะสามารถนำมาใช้ได้ยามฉุกเฉิน ดังนั้นหากใครอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองแต่ไม่มีทุนก็ควรเตรียมความพร้อมทางด้านการเงินให้ดีก่อนเริ่มทำธุรกิจ

 

หากใครอยากเริ่มต้นทำธุรกิจเราหวังว่าเพื่อนๆจะลองตอบ 10 คำถามให้ได้ ก่อนเริ่มต้นเพื่อดูว่าพร้อมสำหรับการทำธุรกิจหรือยัง?

 

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่มีหน้าร้านและกำลังมองหาแพลตฟอร์มจัดการหน้าร้านที่ตอบโจทย์ทุกการขาย น้องมัลตี้ขอแนะนำ! MultiOne Platform ระบบจัดการหน้าร้านที่จะช่วยให้การขายของคุณเป็นเรื่องง่าย และสะดวก 

 

สมัครด่วนตอนนี้ ไม่ว่าจะรับฝากขายสินค้าจากแบรนด์ไหน ก็จัดการได้ไม่ยาก 

 

บทความแนะนำ

 

MultiOne Platform เพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจคุณ

 

แพลตฟอร์มระบบจัดการร้านมัลติแบรนด์ ร้านค้าปลีก และร้านค้ารับฝากขายสินค้าจากหลายแบรนด์ ที่จะมาช่วยให้การจัดการร้านค้าสะดวกสบายขึ้น ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากหลายขั้นตอน ลดความผิดพลาดการจัดการสินค้า เพิ่มรายได้ และประเภทของสินค้าภายในร้าน จากการรับฝากขายสินค้าจากแบรนด์ดังในระบบ

แหล่งพบปะของร้านค้าออนไลน์ และออฟไลน์ พาร์ทเนอร์ที่ช่วยให้คุณขายได้มากขึ้น ผ่านการฝากขายยุคใหม่

การันตีด้วยพาร์ทเนอร์ร้านค้าดัง ขายดีที่ใช้ระบบมากกว่า 30 ร้านค้า และแบรนด์ดังที่ฝากขายผ่านระบบมากกว่า 2,000 แบรนด์

ระบบฟังก์ชันหลักสำหรับร้านค้าพาร์ทเนอร์ของ MultiOne ที่ช่วยให้การบริหารจัดการร้านค้าเป็นเรื่องง่าย 

 

  • ระบบ POS แคชเชียร์และจัดการร้านค้าใช้งานง่าย
  • จัดการสต็อกสินค้า แยกรายแบรนด์ เช็คสะดวก
  • ร้านจัดการส่วนลด โปรโมชั่นร่วมกับแบรนด์ได้หลากหลาย
  • ออกบาร์โค้ด เชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องยิงบาร์โค้ด
  • มีระบบการใช้งานสำหรับพนักงาน
  • ออกเอกสารทางบัญชี
  • ระบบ Import Export ข้อมูล
  • จัดการข้อมูลลูกค้า และสินค้า
  • ระบบวิเคราะห์ข้อมูลยอดขายรายวัน รายเดือน แยกรายแบรนด์
  • วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและช่องทางจำหน่าย

และเรายังมีฟังก์ชันอีกมากมายสำหรับแบรนด์สินค้าที่มาลงฝากขาย ด้วยระบบที่ออกแบบมาให้ร้านค้าเจอกับแบรนด์ง่ายขึ้น ลดขั้นตอนการส่ง เช็ค และจัดการสินค้าฝากขาย ร้านค้าสามารถเลือกพาร์ทเนอร์ที่เหมาะสมกับหน้าร้านของคุณได้ง่าย ๆ ผ่านระบบบนแพลตฟอร์มของเรา

 

สนใจเป็นร้านค้าพาร์ทเนอร์ คลิกที่นี่ 

สนใจลงฝากขายสินค้า คลิกที่นี่ 

หรือ INBOX สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยที่ MultiOne 

 

Learn More

ปัจจุบัน ธุรกิจต่าง ๆ มีอัตราการแข่งขันที่สูงขึ้นอย่างมาก การจะเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่เพียงอย่างเดียวผลตอบรับอาจไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เพราะเหตุนั้น ในหลายธุรกิจจึงมุ่งเน้นในด้านการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า หรือที่รู้จักกันในชื่อ CRM Loyalty Program เพื่อให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าจากร้านของคุณซ้ำ และเกิดเป็นลูกค้าประจำ (Loyalty Customer) ต่อร้านของคุณนั่นเอง

 

Loyalty Program กลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญในการการสร้างลูกค้าประจำ

Loyalty Program เครื่องมือสำคัญที่ช่วยรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าในระยะยาว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารลูกค้าสัมพันธ์หรือ CRM โดย Loyalty Program จะเข้ามาช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและแบรนด์ของเรา จุดมุ่งหมายเพื่อมัดใจ เปลี่ยนจากลูกค้าขาจรให้กลายมาเป็นลูกค้าประจำ และรักษาฐานลูกค้าเดิมให้อยู่กับแบรนด์ไปนานๆ 

 

CRM ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือที่จะช่วยพัฒนาแค่เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ แต่ยังเป็นการเก็บข้อมูลเพื่อนำมาใช้วิเคราะห์ด้านการตลาดได้อีกด้วย เพราะการทำ CRM จะเป็นการเก็บข้อมูลด้านการใช้งาน การซื้อสินค้าและบริการ ซึ่งข้อมูลที่ได้สามารถนำมาวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อที่จะสามารถเข้าใจและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงจุดยิ่งขึ้น โดย Loyalty Program ที่เรามักจะเห็นกันได้บ่อยๆ ก็คือ ระบบสมาชิก ระบบสะสมแต้ม สิทธิพิเศษ Cashback และ Redeem เป็นต้น  

 

การทำงานของ Loyalty Program 

Loyalty Program ได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในธุรกิจแต่ละประเภทแตกต่างกันไป แต่หัวใจหลักและความสำคัญของการทำ Loyalty Program ที่ถูกออกแบบให้เหมาะสมกับแต่ละธุรกิจกลับเหมือนกัน คือ

1.การรวบรวมฐานข้อมูลลูกค้า (Customer Database)

การเก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้าที่ซื้อสินค้าหรือบริการ ถือเป็นขั้นตอนแรกที่มีความสำคัญ โดยส่วนใหญ่จะทำการเก็บข้อมูลจากการสมัครสมาชิก จะมีการเก็บข้อมูลในส่วนของชื่อ นามสกุล อายุ เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ ข้อมูลการติดต่อ E-mail เป็นต้น เมื่อทราบข้อมูลพื้นฐานของลูกค้าแล้ว เราสามารถนำข้อมูลฐานลูกค้าที่ได้ทำการรวบรวมเอาไว้มาทำการวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อสินค้า และบริการของผู้บริโภคได้อย่างละเอียด และสามารถนำข้อมูลที่ได้มาแบ่งกลุ่มลูกค้าได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น

การรวบรวมฐานข้อมูลลูกค้า_CRM Loyalty Program_การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วย CRM Loyalty Program

2.การแบ่งกลุ่มลูกค้า (Customer Segmentation)

เมื่อเรารวบรวมฐานข้อมูลลูกค้าได้เป็นที่เรียบร้อย เราสามารถนำข้อมูลของลูกค้ามาแบ่งแยกกลุ่มตามความสนใจ โดยการแบ่งกลุ่มลูกค้าสามารถแบ่งกลุ่มได้หลายรูปแบบตามความต้องการ การแบ่งกลุ่มลูกค้าจะช่วยให้สามารถสื่อสารถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยในเรื่องการจัดทำโปรโมชั่นสำหรับกระตุ้นการขายที่จะช่วยให้กระตุ้นได้ตรงกลุ่มเป้าหมายและตอบโจทย์ลูกค้าในแต่ละกลุ่ม

การแบ่งกลุ่มลูกค้า_CRM Loyalty Program_การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วย CRM Loyalty Program

3.การมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า (Interaction)

หลังจากเก็บรวบรวมข้อมูลและแบ่งกลุ่มลูกค้า แบรนด์สามารถนำข้อมูลที่ได้มาทำการตลาดเฉพาะเจาะจงลูกค้าในแต่ละกลุ่มลูกค้าได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยการทำการตลาดแบบเฉพาะบุคคล (Personalized Marketing) นั่นเอง สำหรับในแต่ละธุรกิจ กลยุทธ์ที่ใช้ในการมัดใจลูกค้าก็อาจจะแตกต่างกันไปตามความเหมาะสม แต่สิ่งสำคัญคือการสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้า และเพื่อทำให้ลูกค้าของเราเกิดความรู้สึกพิเศษ 

การมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า_CRM Loyalty Program_การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วย CRM Loyalty Program

Loyalty Program กับผลดีทางธุรกิจ

ประโยชน์หลัก ๆ จาก Loyalty Program คือการใช้ข้อมูลของลูกค้ามาต่อยอดทางธุรกิจ โดยการนำข้อมูลที่ได้รับจากฐานข้อมูลลูกค้ามาวิเคราะห์และศึกษาหาแนวทางในการสร้างความถึงพอใจให้แก่ลูกค้า ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อธุรกิจดังนี้

  • แบ่งกลุ่มลูกค้า เพื่อที่จะสามารถดูแลลูกค้าได้อย่างเหมาะสม และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ฐานข้อมูลของลูกค้า จะช่วยทำให้เราสามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ลูกค้าต้องการอะไร บริการหรือสินค้าแบบไหนที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละกลุ่ม โปรโมชั่นหรือแคมเปญที่จะช่วยดึงดูดลูกค้ามากที่สุด ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถวางแผนพัฒนาธุรกิจให้เหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากขึ้นนั่นเอง

แบ่งกลุ่มลูกค้า_CRM Loyalty Program_การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วย CRM Loyalty Program

  • ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้า และบริหารอย่างสม่ำเสมอ

ระบบสมาชิก ระบบสะสมแต้ม สิทธิประโยชน์ต่างๆ จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าหรือบริการอย่างสม่ำเสมอ 

ระบบสมาชิก_CRM Loyalty Program_การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วย CRM Loyalty Program

  • เกิดความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty)

เมื่อลูกค้าเกิดความประทับใจอย่างต่อเนื่อง และความรู้สึกพึงพอใจต่อแบรนด์ สิ่งนี้จะทำให้ลูกค้าเกิดความภักดีต่อแบรนด์ของเราในที่สุด ซึ่งจะส่งผลลัพธ์ในทางที่ดีต่อธุรกิจเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อลูกค้ามีทัศนคติที่ดีต่อแบรนด์ มีความยินดีที่พูดคุยบอกต่อเกี่ยวกับแบรนด์ที่ชอบและพร้อมปกป้องแบรนด์เมื่อมีข่าวเสียหายเกิดขึ้น

เกิดความภักดีต่อแบรนด์_CRM Loyalty Program_การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วย CRM Loyalty Program

ประเภทของ Loyalty Program 

ในปัจจุบัน Loyalty Program สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทด้วยกัน ได้แก่

1.บัตรสะสมคะแนน

บัตรสะสมคะแนนหรือการสะสมพอยท์ (Point) นั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เมื่อลูกค้าซื้อของตามเงื่อนไขที่กำหนด จะได้รับคะแนนหรือพอยท์ตามเกณฑ์ที่กำหนด เมื่อสะสมจนครบก็สามารถนำคะแนนหรือพอยท์ที่ได้รับมาแลกส่วนลด ของรางวัลได้ 

บัตรสะสมคะแนน_CRM Loyalty Program_การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วย CRM Loyalty Program

2.เงินคืน (Cashback)

สำหรับ Loyalty Program ประเภทนี้ ลูกค้าจะได้รับเงินคืน และสามารถสะสมเพื่อใช้ในครั้งต่อไปได้ เช่น การรับเครดิตเงินคืนจากบัตรเครดิตต่างๆ การรับเงินคืนเมื่อซื้อสินค้าตามเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งจะกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดการกลับมาซื้อของที่ร้านซ้ำนั่นเอง

เงินคืน_CRM Loyalty Program_การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วย CRM Loyalty Program

3.การแบ่งระดับสมาชิก

การแบ่งระดับสมาชิก จะจัดลูกค้าตามหมวดหมู่หรือระดับ เช่น การแบ่งระดับลูกค้าตามยอดการซื้อสะสม ซึ่งอาจจะแบ่งได้เป็น Classic สำหรับลูกค้าทั่วไป, Silver สำหรับลูกค้าที่มียอดสะสมครบ 5,000 บาท, Gold สำหรับลูกค้าที่มียอดสะสมครบ 8,000 บาท และ Platinum สำหรับลูกค้าที่มียอดสะสม 12,000 บาท เป็นต้น

การแบ่งระดับสมาชิก_CRM Loyalty Program_การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วย CRM Loyalty Program

4.แสตมป์บัตร

บัตรสะสมแสตมป์เป็นที่นิยมมากในร้านเครื่องดื่ม เบเกอร์รี่และร้านสะดวกซื้อ โดยจะทำการสะสมตามยอดหรือจำนวนของสินค้าที่ซื้อในแต่ละครั้ง ตัวอย่างเช่น เมื่อซื้อเครื่องดื่มหนึ่งแก้วจะได้รับแสตมป์หนึ่งดวง และเมื่อสะสมครบสิบดวงก็สามารถแลกรับเครื่องดื่มฟรีหนึ่งแก้ว 

แสตมป์บัตร_CRM Loyalty Program_การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วย CRM Loyalty Program

5 เหตุผลที่ทำให้ CRM ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยม

1.ใช้งานง่าย

ระบบถูกออกแบบให้ใช้งานง่าย และสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าได้รวดเร็วและถูกต้อง รองรับทุกการใช้งาน สะดวกและประหยัดเวลา

2.นำเสนอสินค้าและบริการได้ตรงใจ

สร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าด้วยการนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า นำเสนอด้วยวิธีการใหม่ ๆ เพื่อสร้างความน่าจดจำให้กับแบรนด์ 

3. สร้างสิทธิพิเศษเฉพาะบุคคล

สร้างความประทับใจสุดพิเศษและเหนือความคาดหมาย ด้วยการมอบสิทธิพิเศษเฉพาะบุคคล แสดงออกถึงความใส่ใจรายละเอียดต่อลูกค้า เพื่อทำให้ลูกค้าติดใจ และกลับมาซื้อสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง

4. เก็บข้อมูลและพัฒนาอยู่เสมอ

CRM Loyalty Program คือการเก็บรวบรวมข้อมูล ความคิดเห็น ความพึงพอใจจากลูกค้าที่มีต่อสินค้าและบริการ เพื่อที่จะนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาและปรับปรุงธุรกิจให้ดีขึ้น ให้ตรงตามพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า

5.สร้างความพิเศษให้แบรนด์เป็นมากกว่าสินค้าและบริการ

เพื่อเพิ่มคุณค่าที่แท้จริงให้กับแบรนด์ การศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคในการพัฒนาสินค้าและบริการให้ดีมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ลูกค้าเกิดความลังเลใจและเสียดายหากเลิกซื้อสินค้าและบริการไป สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างความ Loyalty ให้กับแบรนด์ เพื่อสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้กับธุรกิจ

 

CRM Loyalty Program กับธุรกิจของคุณ

ในปัจจุบัน ธุรกิจต่าง ๆ มีการแข่งขันอย่างเข้มข้น การจะจับจุดเพื่อที่จะมัดใจลูกค้าด้วยการทำ CRM จึงมีความสำคัญ เพราะนอกจาก CRM จะช่วยกระตุ้นยอดขาย การนำ CRM Loyalty Program มาใช้จะช่วยให้ลูกค้าประทับใจมากขึ้นจากประสบการณ์และสิทธิพิเศษที่ได้รับ อีกทั้งยังเป็นการเปลี่ยนลูกค้าจากขาจรให้มาเป็นลูกค้าขาประจำ โดยการกลับมาซื้อสินค้าและบริการซ้ำ สร้างความภักดีต่อแบรนด์ของเรา และ CRM ยังมีส่วนช่วยด้านการทำการตลาดและพัฒนาสินค้าของเราให้ตอบโจทย์ความต้องการจากพฤติกรรมที่ใช้งานของลูกค้า

 

การทำ CRM สำหรับร้านค้าและแบรนด์ สามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ จากการใช้ระบบสมาชิกในการสะสมแต้ม แลกพอยต์ สิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้ารายบุคคล ซึ่งแอบกระซิบว่า MultiOne แพลตฟอร์มของเราก็มีฟีเจอร์ในส่วนนี้ด้วยเช่นกัน 

ไม่ว่าจะสะสมแต้ม โปรโมชั่น สิทธิพิเศษ หรือจัดการข้อมูลสมาชิก ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพิ่มความสะดวกและรวดเร็วให้ร้านของคุณ เปลี่ยนลูกค้าขาจรให้เป็นลูกค้าประจำด้วยฟังก์ชัน Customer ของ MultiOne

 

MultiOne Platform เพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจคุณ

ระบบจัดการร้านค้ามัลติแบรนด์ และร้านค้ารับฝากขาย

แพลตฟอร์มระบบจัดการร้านมัลติแบรนด์ ร้านค้าปลีก และร้านค้ารับฝากขายสินค้าจากหลายแบรนด์ ที่จะมาช่วยให้การจัดการร้านค้าสะดวกสบายขึ้น ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากหลายขั้นตอน ลดความผิดพลาดการจัดการสินค้า เพิ่มรายได้ และประเภทของสินค้าภายในร้าน จากการรับฝากขายสินค้าจากแบรนด์ดังในระบบ

แหล่งพบปะของร้านค้าออนไลน์ และออฟไลน์ พาร์ทเนอร์ที่ช่วยให้คุณขายได้มากขึ้น ผ่านการฝากขายยุคใหม่

การันตีด้วยพาร์ทเนอร์ร้านค้าดัง ขายดีที่ใช้ระบบมากกว่า 30 ร้านค้า และแบรนด์ดังที่ฝากขายผ่านระบบมากกว่า 2,000 แบรนด์

ระบบฟังก์ชันหลักสำหรับร้านค้าพาร์ทเนอร์ของ MultiOne ที่ช่วยให้การบริหารจัดการร้านค้าเป็นเรื่องง่าย 

 

  • ระบบ POS แคชเชียร์และจัดการร้านค้าใช้งานง่าย
  • จัดการสต็อกสินค้า แยกรายแบรนด์ เช็คสะดวก
  • ร้านจัดการส่วนลด โปรโมชั่นร่วมกับแบรนด์ได้หลากหลาย
  • ออกบาร์โค้ด เชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องยิงบาร์โค้ด
  • มีระบบการใช้งานสำหรับพนักงาน
  • ออกเอกสารทางบัญชี
  • ระบบ Import Export ข้อมูล
  • จัดการข้อมูลลูกค้า และสินค้า
  • ระบบวิเคราะห์ข้อมูลยอดขายรายวัน รายเดือน แยกรายแบรนด์
  • วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและช่องทางจำหน่าย

และเรายังมีฟังก์ชันอีกมากมายสำหรับแบรนด์สินค้าที่มาลงฝากขาย ด้วยระบบที่ออกแบบมาให้ร้านค้าเจอกับแบรนด์ง่ายขึ้น ลดขั้นตอนการส่ง เช็ค และจัดการสินค้าฝากขาย ร้านค้าสามารถเลือกพาร์ทเนอร์ที่เหมาะสมกับหน้าร้านของคุณได้ง่าย ๆ ผ่านระบบบนแพลตฟอร์มของเรา

สนใจเป็นร้านค้าพาร์ทเนอร์ คลิกที่นี่ 

สนใจลงฝากขายสินค้า คลิกที่นี่ 

หรือ INBOX สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยที่ MultiOne 

Learn More

หนึ่งในทักษะที่สำคัญสำหรับการพูดคุยกับผู้คนต่างๆ นั่นคือ ทักษะ การเจรจา หรือการต่อรอง ซึ่งหากมีความเข้าใจในทักษะและมีวิธีการเจรจาต่อรองที่ยอดเยี่ยม จะสามารถช่วยสร้างประโยชน์ให้แก่เราในการดำเนินชีวิตประจำวันได้มากมายเลยทีเดียว และสามารถใช้ได้ในหลายด้าน ซึ่งช่วยให้เรารักษาด้านความสัมพันธ์ในชีวิต ความสัมพันธ์ด้านธุรกิจ รวมถึงช่วยให้มีการพัฒนาการที่ดีขึ้นในด้านการทำงานโดยที่ไม่โดนผู้อื่นเอารัดเอาเปรียบได้

 

สำหรับใครที่ไม่คุ้นเคยกับทักษะการเจรจา ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ซึ่งการเจรจา หรือการต่อรองให้สำเร็จนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องอาศัยความรู้ ความสามารถหลายด้าน มาประกอบกัน รวมถึงไหวพริบในการเจรจากับผู้สนทนา และสิ่งที่จะมองข้ามไม่ได้เลย คือ เรื่องของประสบการณ์ ยิ่งใครผ่านอะไรมามากมาย มากประสบการณ์ ก็จะทำให้การเจรจา การต่อรองมีโอกาสสำเร็จอย่างรวดเร็วมากขึ้น

 

การเจรจา การต่อรองสำคัญอย่างไร?

การเจรจา การต่อรองด้านธุรกิจนั้น หากไม่มีทักษะการเจรจาต่อรองที่ลงตัวอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด นำไปสู่ความขัดแย้งและวุ่นวายได้ในที่สุด  ซึ่งผลกระทบที่ตามมาคือ อาจทำให้ความสัมพันธ์หลายอย่างทางด้านธุรกิจพังทลายลงได้ 

 

หากเจ้าของธุรกิจมีเทคนิคการเจรจาต่อรองที่ดี มีความชำนาญขณะที่เจรจาอยู่ตลอด จะช่วยให้ผู้ขายสามารถเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้ง่ายขึ้น เมื่อคู่ค้ามีความพึงพอใจก็จะกลายเป็นความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจที่ดี ด้วยการเจรจาต่อรองเป็นทักษะที่จำเป็นมากสำหรับการทำธุรกิจ จะมีวิธีการอะไรบ้างที่ไม่ทำให้เกิดการเสียเปรียบ 

 

วันนี้น้องมัลตี้และ MultiOne จะมาบอก 6 วิธี การเจรจา ต่อรองแบบ B2B อย่างไรไม่ให้เสียเปรียบ จะมีวิธีการไหนบ้างที่สามารถนำมาปรับใช้กับร้านค้าตัวเองได้มาดูกัน!!

1.มีข้อเสนอที่ตกลงกันได้ทุกฝ่าย

หนึ่งในข้อเสนอที่ดีมากวิธีหนึ่ง คือ วิธีการที่ช่วยให้ทุกฝ่ายได้ผลประโยชน์ร่วมกัน หรือมีข้อเสนอที่ตกลงกันได้ทุกฝ่าย ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเจรจา จะช่วยให้ทั้งฝ่ายผู้ค้าและคู่ค้าได้ในสิ่งที่ต้องการทั้งคู่ อีกทั้งยังพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้าอีกด้วย เรียกได้ว่า win-win กันทุกฝ่าย 

ตัวอย่าง การเจรจาที่ได้ผลประโยชน์ทุกฝ่าย ร้านค้าแห่งหนึ่งต้องการ เจรจากับคู่ค้าโดยบอกให้คู่ค้า เสนอราคาจำนวนเท่าไหร่ก็ได้ ซึ่งต้องเป็นราคาที่ร้านค้าได้กำไร ลูกค้าพอใจในราคาขาย และคู่ค้าสามารถส่งทันได้ตามเวลาที่กำหนดไว้ และส่งสินค้าครบตามจำนวนสั่งซื้อ จะเห็นได้ว่าหากมีข้อเสนอที่ตกลงกันได้ทุกฝ่าย การเจรจาต่อรองแบบ win-win ย่อมประสบผลสำเร็จมากกว่าการเจรจาแบบเดิมที่ผู้คนส่วนมากมักจะเจรจาให้ได้เปรียบเท่านั้น

2.เริ่มต้นจาก การเจรจา การต่อรองในเรื่องเล็กน้อย

หากอยากลองฝึกการเจรจา ให้เราเริ่มต้นจากการเจรจาต่อรองในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก่อน เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามหรือคู่ค้ายอมรับข้อเสนอ โดยเป็นการขอที่ไม่ทำให้เกิดความรู้สึกขัดแย้งกับราคาที่ผู้ขายตั้งไว้ สมมุติว่า ผู้ค้าต้องการซื้อของในราคา 500 บาท เราอาจจะต่อรองกับคู่ค้าเพื่อลดราคาลงไปอีก วิธีการนี้จะทำให้เราสามารถเจรจาต่อรองราคาได้ดียิ่งขึ้น

3.ยึดมั่นในเป้าหมายของตนเอง

การเจรจาต่อรองนั้น เราควรยึดมั่น เชื่อมั่นในเป้าหมายที่ตนเองได้ตั้งไว้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ หลายคนไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ก่อนทำการเจรจา ส่งผลให้ขณะการเจรจาต่อรองไม่ส่งผลขาดพลังและความน่าเชื่อถือ เราจำเป็นจะต้องนำเสนอวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้มีประสิทธิภาพ เจรจาต่อรองโดยอาศัยประสบการณ์ที่มี และควรยึดมั่นในสิ่งที่เสนอแก่คู่ค้าเพื่อใช้เป็นคำตอบพื่อสนับสนุนสิ่งที่เราต้องการ

4.ศึกษาข้อมูล ก่อนเริ่มการเจรจา

การเจรจาต่อรองโดยไม่ให้ตนเองเสียเปรียบนั้น ก่อนจะเข้าไปเจรจาเราควรศึกษาข้อมูลคู่ค้าก่อนอยู่เสมอ การหาข้อมูลจะมีประโยชน์ต่อตัวเองมาก ๆ ทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถกดราคาเราได้ หากคู่ค้าต้องการซื้อสินค้าจากเรา แต่เสนอในราคาที่เราไม่สามารถลดจำนวนลงได้ ผู้ค้าอาจจะเสนอไปว่าไม่สามารถซื้อสินค้าในราคานี้ได้ แต่หากซื้อในราคาเดิมอาจได้รับบริการพิเศษบางอย่าง เพราะหากไม่ซื้อในราคาที่ต่อรองไว้อาจไม่ได้รับในส่วนนี้ไป

5.มีความเคารพผู้อื่นอยู่เสมอ

หนึ่งในวิธีการเข้าหาคนในการเจรจาต่อรองที่หลายๆ คนมักจะมองข้ามไป คือ การให้ความเคารพผู้ที่เข้าไปเจรจาต่อรองด้วย แน่นอนว่าการเจรจานั้นต่างฝ่ายต่างก็อยากให้ตนเองทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้สำเร็จเพื่อให้ได้ในสิ่งต้องการ แต่การเคารพผู้อื่นและนอบน้อมถ่อมตนมีการวางตัวที่ดีขณะการเจรจา จะช่วยให้ทุกฝ่ายสามารถรักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างธุรกิจได้ และทำให้การเจรจาในครั้งต่อๆ ไปทำได้ง่ายขึ้น ลองคิดกลับกันหากเราไม่มีความเคารพผู้อื่นก็ยากที่จะมีใครมาคบค้าสมาคมด้วยในภายภาคหน้า

6.ฝึกการพูดและนำไปปฏิบัติจริง

การเจรจาต่อรอง ถือว่าเป็นทักษะที่ต้องอาศัยการเก็บประสบการณ์อย่างมาก ยิ่งฝึกเยอะยิ่งมากประสบการณ์ เพราะฉะนั้นย่อมมีการลองผิดลองถูกอยู่แล้ว ซึ่งในสถานการณ์จริงย่อมไม่มีอะไรเป็นเหมือนที่เราคิดไว้ทุกอย่าง ผู้ค้าส่วนใหญ่มักต้องการเจรจาต่อรองกับคู่ค้าหลายเจ้าอยู่แล้ว ให้ลองฝึกการเจรจาไว้ก่อนก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย หาผู้ที่มีประสบการณ์ช่วยสอนและให้คำแนะนำแก่เราระหว่างฝึกจะทำให้เรารู้ข้อผิดพลาด และเมื่อนำไปใช้ในสถานการณ์จริง ต้องมีความมั่นใจในสิ่งที่ตนเองพูด มีสติ และสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ หลังจากนั้นจึงกลับมานึกถึงมาสิ่งที่เราพูดไป และนำข้อผิดพลาดมาแก้ไขเพื่อพัฒนาการเจรจาให้ดียิ่งขึ้นในครั้งถัดไป 

 

จาก 6 วิธีการที่เราได้แนะนำไป เป็นเพียงแค่แนวทางใน การเจรจาต่อรองแบบ B2B อย่างไรไม่ให้เสียเปรียบเท่านั้น นอกจากมีการเจรจาที่ดี เพื่อไม่ให้เสียเปรียบระหว่างสนทนา การมีระบบจัดการหน้าร้านที่มีประสิทธิภาพกับร้านค้า ก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน 

 

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่มีหน้าร้านและกำลังมองหาแพลตฟอร์มจัดการหน้าร้านที่ตอบโจทย์ทุกการขาย น้องมัลตี้ขอแนะนำ! MultiOne Platform ระบบจัดการหน้าร้านที่จะช่วยให้การขายของคุณเป็นเรื่องง่าย และสะดวก 

 

สมัครด่วนตอนนี้ ไม่ว่าจะรับฝากขายสินค้าจากแบรนด์ไหน ก็จัดการได้ไม่ยาก 

 

บทความแนะนำ

ระบบจัดการร้านค้ามัลติแบรนด์ และร้านค้ารับฝากขาย

MultiOne Platform เพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจคุณ

 

แพลตฟอร์มระบบจัดการร้านมัลติแบรนด์ ร้านค้าปลีก และร้านค้ารับฝากขายสินค้าจากหลายแบรนด์ ที่จะมาช่วยให้การจัดการร้านค้าสะดวกสบายขึ้น ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากหลายขั้นตอน ลดความผิดพลาดการจัดการสินค้า เพิ่มรายได้ และประเภทของสินค้าภายในร้าน จากการรับฝากขายสินค้าจากแบรนด์ดังในระบบ

แหล่งพบปะของร้านค้าออนไลน์ และออฟไลน์ พาร์ทเนอร์ที่ช่วยให้คุณขายได้มากขึ้น ผ่านการฝากขายยุคใหม่

การันตีด้วยพาร์ทเนอร์ร้านค้าดัง ขายดีที่ใช้ระบบมากกว่า 30 ร้านค้า และแบรนด์ดังที่ฝากขายผ่านระบบมากกว่า 2,000 แบรนด์

ระบบฟังก์ชันหลักสำหรับร้านค้าพาร์ทเนอร์ของ MultiOne ที่ช่วยให้การบริหารจัดการร้านค้าเป็นเรื่องง่าย 

 

  • ระบบ POS แคชเชียร์และจัดการร้านค้าใช้งานง่าย
  • จัดการสต็อกสินค้า แยกรายแบรนด์ เช็คสะดวก
  • ร้านจัดการส่วนลด โปรโมชั่นร่วมกับแบรนด์ได้หลากหลาย
  • ออกบาร์โค้ด เชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องยิงบาร์โค้ด
  • มีระบบการใช้งานสำหรับพนักงาน
  • ออกเอกสารทางบัญชี
  • ระบบ Import Export ข้อมูล
  • จัดการข้อมูลลูกค้า และสินค้า
  • ระบบวิเคราะห์ข้อมูลยอดขายรายวัน รายเดือน แยกรายแบรนด์
  • วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและช่องทางจำหน่าย

และเรายังมีฟังก์ชันอีกมากมายสำหรับแบรนด์สินค้าที่มาลงฝากขาย ด้วยระบบที่ออกแบบมาให้ร้านค้าเจอกับแบรนด์ง่ายขึ้น ลดขั้นตอนการส่ง เช็ค และจัดการสินค้าฝากขาย ร้านค้าสามารถเลือกพาร์ทเนอร์ที่เหมาะสมกับหน้าร้านของคุณได้ง่าย ๆ ผ่านระบบบนแพลตฟอร์มของเรา

 

สนใจเป็นร้านค้าพาร์ทเนอร์ คลิกที่นี่ 

สนใจลงฝากขายสินค้า คลิกที่นี่ 

หรือ INBOX สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยที่ MultiOne 

Learn More

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านนโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save