เลือกหน้าร้านฝากขายอย่างไรให้ปัง
เลือกหน้าร้านฝากขาย อย่างไรให้ปัง วันนี้ นัองมัลตี้จะมาให้ความรู้กับทุกคน ว่า ก่อนที่แบรนด์จะนำสินค้าไปฝากขายเนี่ย ควรจะ เลือกหน้าร้านฝากขาย จากปัจจัยอะไรกันบ้าง!!!!
ในยุคการขายของออนไลน์ การสร้างแบรนด์ หรือ สินค้าเป็นของตัวเองนั้น เป็นเรื่องที่ง่ายดาย และเริ่มสร้างได้ แม้จะอยู่ในวัยเรียน แต่ก็มีข้อแม้ในเรื่องของคอนเซ็ปต์สินค้าที่ไม่แปลกใหม่ ซ้ำจำเจ แม้แต่การทำคอนเทนต์ที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ยากขึ้น ทั้งยังมีแบรนด์ใหม่ ๆ ผุดขึ้นมาอย่างกับดอกเห็ด ทำให้มีคู่แข่งค่อนข้างมาก และแน่นอนว่า ถ้าอยากเพิ่มยอดขายให้ตัวเอง ก็ต้องเพิ่มช่องทางที่นอกเหนือจากการขายในออนไลน์แค่อย่างเดียว
ดังนั้น สำหรับใครที่กำลังหาหน้าร้านฝากขายอยู่ และยังไม่รู้ว่าต้องเลือกหน้าร้านอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ ต้องทำยังไงถึงจะขายดี มีกำไร วันนี้ น้องมัลตี้ก็มี 5 สิ่งที่ควรพิจารณา ก่อนที่จะเลือกหน้าร้านฝากขายมาด้วยนะ ลองดูกันเล้ยยย.
Table of Contents
สิ่งที่ 1 พิจารณาคอนเซ็ปต์ของหน้าร้าน
แน่นอนว่า สิ่งแรกที่ควรพิจารณา คือ คอนเซ็ปต์ของหน้าร้านฝากขาย ว่าตรงกับกลุ่มลูกค้าของเราหรือเปล่า ช่วงราคาที่ใกล้เคียงกัน กับสินค้าอื่น ๆ ภายในร้าน และสไตล์ของสินค้าเรา เข้ากับหน้าร้านมั้ย หากเลือกคอนเซ็ปต์หน้าร้านฝากขาย ไม่ตรงกันคอนเซปต์ของสินค้าล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น น้องมัลตี้ จะยกตัวอย่างให้เห็นกันชัด ๆ เอง อย่างแรกเลย ที่จะเกิดขึ้น เมื่อเราเลือกคอนเซ็ปต์หน้าร้านฝากขาย ไม่ตรงกับสินค้าของเรา คือ ลูกค้าที่เข้ามา เพราะจะซื้อสินค้า ตามคอนเซ็ปต์ของร้าน ก็จะไม่สนใจสินค้า ที่เราฝากขายไปแน่นอน นอกจากนี้ ร้านฝากขายอาจจะไม่รับสินค้าของเรา ไปลงหน้าร้าน เพราะขัดกับคอนเซ็ปต์ ของหน้าร้านฝากขาย โดยสิ้นเชิง พอเห็นกันหรือยังว่า การเลือกคอนเซ็ปต์ ของหน้าร้านฝากขาย ให้ตรงกับ สินค้าของเรา มันสำคัญแค่ไหน.
สิ่งที่ 2 พิจารณาทำเลที่ตั้ง
สิ่งต่อมา ที่ต้องพิจารณา แน่นอนว่า คงหนีไม่พ้นทำเลที่ตั้ง สินค้าที่เราฝากขายนั้น จะขายดีหรือไม่ ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่า ทำเลที่ตั้งของหน้าร้านฝากขาย อยู่ในบริเวณ ที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหรือเปล่า ลูกค้าบริเวณรอบ ๆ มีรายได้เท่าไหร่ ปริมาณผู้คนที่อยู่บริเวณโดยรอบ มีมากเท่าไหร่ อยู่ในช่วงวัยไหน ทำอาชีพอะไร.สิ่งเหล่านี้ จะช่วยให้คุณวิเคราะห์ได้ว่า สินค้าของเราตอบโจทย์กับกลุ่มลูกค้าในพื้นที่นั้นหรือเปล่า แล้วทำเลในจุดไหน ที่จะทำให้เราได้ลูกค้าเป้าหมาย ที่มีแนวโน้มจะซื้อสินค้าของเราได้มากที่สุด.
หากคุณพลาด ที่จะเลือกทำเลที่ตั้ง ของหน้าร้านฝากขาย สถานการณ์ของสินค้าที่คุณฝากขาย จะค่อนข้างย่ำแย่ เลยทีเดียว น้องมัลตี้ จึงแนะนำให้ทำสัญญาระยะสั้นไว้ก่อน.
ถ้ายังไม่มั่นใจ ว่าหน้าร้านฝากขายนั้น ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีพอหรือยัง บางครั้ง หน้าร้านฝากขายทำเลดีแค่ไหน แต่อาจประสบปัญหา ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจย่ำแย่ จนต้องปิดกิจการลง หรือ แม้แต่เหตุการณ์ ที่คาดเดาไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน หากทำสัญญาระยะสั้นไว้ ก็จะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับคุณ น้องมัลตี้เป็นกำลังใจให้น้าา.
สิ่งที่ 3 พิจารณาฐานลูกค้า
ในส่วนนี้ น้องมัลตี้อยากเสนอ ให้คุณดูฐานลูกค้าของหน้าร้านฝากขาย อย่างที่ทุกคนทราบกันว่า ฐานลูกค้าเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลย แม้ว่า ที่ทำเลจะดีแค่ไหน หรือ คอนเซ็ปต์ของหน้าร้านฝากขาย จะตรงและถูกใจมากเท่าไหร่ แต่ ถ้าไม่มีฐานลูกค้าที่แน่นพอ ก็รับประกันได้ยาก ว่าสินค้าที่เราส่งไปฝากขายนั้น จะขายออกได้เมื่อไหร่ ดังนั้น น้องมัลตี้ขอแนะนำ ให้เลือกหน้าร้านฝากขาย ที่มีฐานลูกค้าอยู่แล้ว ดีกว่าหน้าร้านฝากขายที่ไม่มีฐานลูกค้าเลย เพื่อให้สินค้า ที่ฝากขายหน้าร้านของคุณ มีเปอร์เซ็นต์ การขายออก ที่มากขึ้น.
สิ่งที่ 4 พิจารณาค่าเช่า
สิ่งต่อมา คือ การพิจารณาค่าเช่า ไม่ว่าจะเป็น ในส่วนของ ค่าเช่าแผง ค่าเช่า Shelf ค่าบล็อค หรือ แม้แต่ค่าเช่าราวเสื้อผ้า ก็ล้วนต้องผ่านการพิจารณา อย่างดี หากค่าเช่าแพงเกินไป ก็ไม่คุ้ม ที่จะนำสินค้าไปลงแน่นอน แต่ ไม่ใช่ว่าเห็นค่าเช่าแพง ก็ปัดตกหมดทุกร้านนะ ต้องดูด้วยว่า ที่แพงเพราะปัจจัยอะไร อาจจะแพง เพราะเป็น Shelf ที่อยู่โซนสินค้าแนะนำ มีฐานลูกค้าเยอะ ร้านอยู่ในทำเลที่ตั้งดี หรือ แม้แต่แพงเพราะร้านมีชื่อเสียง ปัจจัยเหล่านี้ ล้วนมีค่าให้พิจารณาดูอีกครั้ง ดังนั้น ควรคิดให้รอบคอบ ก่อนที่จะตัดสินใจนะ.
สิ่งที่ 5 พิจารณาการจัดการภายในร้าน
ไม่ว่าใครก็ชอบทำเรื่องง่าย ๆ สบาย ๆ ไม่ซับซ้อน กับการฝากขายก็เช่นกัน หากว่า เราจะต้องฝากขายกับหน้าร้าน ที่จัดการอะไรต่าง ๆ ภายในร้าน แบบยุ่งยาก วุ่นวาย เราก็คงไม่อยากร่วมงานด้วยหรอกใช่มั้ย ถ้ายังนึกภาพไม่ออกล่ะก็ น้องมัลตี้จะยกตัวอย่างให้ฟังเอง อย่างเช่น หากคุณต้องการที่จะเช็คสต๊อกสินค้า ภายในวันนี้ เพื่อจะนำสินค้าเติมล่วงหน้าได้ทัน แต่ ทางหน้าร้านช้า เพราะมัวแต่วิ่งเต้นทำเรื่องง่าย ให้เป็นเรื่องยาก อย่างการนั่งนับสต๊อกสินค้าทีละชิ้น จนไม่สามารถที่จะส่งสต๊อกสินค้าให้คุณได้ทันเวลา แบบนี้ สินค้าของคุณที่วางขายอยู่ ก็อาจจะหมดไปเฉย ๆ แถมยังส่งสินค้า เพื่อเติมสต๊อกไม่ทันอีกต่างหาก เป็นเรื่องที่ค่อนข้างแย่เลยใช่มั้ยล่ะ เพราะฉะนั้น น้องมัลตี้แนะนำให้เลือกร้านที่มีการจัดการภายในร้าน ที่เป็นระบบดีกว่า.
เป็นยังไงกันบ้าง หลังจากได้คำแนะนำจากน้องมัลตี้แล้ว เริ่ม ๆ มีหน้าร้านฝากขายในใจกันบ้างหรือยัง ถ้ายังไม่มี น้องมัลตี้มีแพลตฟอร์มปัง ๆ ที่นำเสนอแต่ร้านดี ๆ อย่าง MultiOne platform แพลตฟอร์มของน้องมัลตี้เองยังไงล่าาา ฝากเก็บไว้ในใจด้วยน้าาา >/\<
หากอยากติดตามการแนะนำของน้องมัลตี้ในเรื่องอื่น ๆ ล่ะก็ เข้าไปดูได้เลย ที่นี่ และ มารอติดตามกันว่า น้องมัลตี้จะเอาอะไรมาฝาก ในครั้งหน้าได้ ที่นี่