5 สิ่งที่ควรเตรียมก่อนรับฝากขายสินค้าถ้าไม่อยากให้เกิดปัญหายุ่งยาก
ในยุคปัจจุบันของตลาดการค้าขายจะพบว่า การรับฝากขายสินค้า ถือว่าเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตขึ้นมาก ผู้ผลิตหรือแบรนด์นั้นไม่สามารถกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภคได้เองเสมอไป แบรนด์จึงจำเป็นจะต้องพึ่งพาร้านที่มีช่องทางการตลาดที่ดี และมีกลุ่มลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสจะซื้อสินค้าของตน จึงทำให้เกิดการฝากขายสินค้าจึงเกิดขึ้นมา
สมัยนี้แบรนด์สินค้าจำนวนมาก มักจะมาจากการขายทางช่องทางออนไลน์เป็นหลัก แต่การมีหน้าร้านสำหรับวางขายสินค้าเองก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน สังเกตจากพฤติกรรมของลูกค้าส่วนใหญ่มักเลือกตัดสินใจซื้อสินค้าจากการดู สัมผัสและได้ทดลองสินค้าด้วยตัวเอง แถมลูกค้ายังสามารถเดินชอปปิงดูของไปเรื่อย ๆ ได้ ซึ่งย่อมมอบประสบการณ์ในการซื้อของที่ดีกว่าการขายจากออนไลน์เพียงอย่างเดียว แต่การที่แบรนด์จะเปิดหน้าร้านเป็นของตัวเองไม่ใช่เรื่องที่ง่าย การฝากขายสินค้าไปวางขายหน้าร้านจึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์มากสำหรับแบรนด์สินค้าที่อยากมีพื้นที่วางขายสินค้านั่นเอง
แต่เนื่องจากร้านค้าเองก็มีความต้องการสินค้าในการวางขายเช่นกัน การมีสินค้าภายในร้านเพียงไม่กี่ประเภทอาจไม่สามารถดึงดูดลูกค้าได้มากพอ ทำให้รายได้ก็น้อยลงตามไปด้วย การรับฝากขายสินค้าจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ช่วยเพิ่มความหลากหลายกับหน้าร้านของคุณ เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ได้ง่ายมากขึ้นและช่วยเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจของคุณมากกว่าการขายสินค้าเพียงไม่กี่ประเภท
Table of Contents
ประโยชน์ของการรับฝากขายสินค้ามีอะไรบ้าง
การรับฝากขายสินค้า ล้วนแต่มีข้อดีมากมายทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังนั้นสิ่งที่ผู้รับฝากขายจะได้รับไม่ได้มีเพียงแค่ค่า GP เพียงอย่างเดียวแน่นอน จะมีประโยชน์มากแค่ไหนเราจะมายกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดๆกัน ไปดูกันเลย
1.ลดความเสี่ยงจากการขาดทุน
การฝากขายสินค้า ผู้รับฝากขายมีหน้าที่เป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์สินค้า ทำให้ลดความเสี่ยงจากการขาดทุนได้ และยังลดค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าเสื่อมสภาพสินค้าได้อีกด้วย
2.ไม่ต้องเสียเงินลงทุนค่าสต๊อกสินค้า
สินค้ายังเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ฝากขายอยู่ ผู้รับฝากจึงไม่ต้องจ่ายเงินสักบาทเดียวในส่วนของค่าสต๊อก ค่าสินค้าหรือค่าขนส่ง ซึ่งในการฝากขายสินค้า ผู้รับฝากขายมีหน้าที่เป็นเพียงตัวกลางที่คอยช่วยขายสินค้าจากผู้ฝากขายสู่มือลูกค้าเท่านั้น
3.ได้รับค่า GP หรือ ค่าตอบแทนจากการรับฝากขายสินค้า
การฝากขายสินค้าหน้าร้าน ผู้รับฝากขายจะได้ค่าตอบแทนเป็นค่า GP เป็นส่วนแบ่งมาจากการขายสินค้า ค่าตอบแทนในส่วนนี้ ผู้รับฝากขายได้รับจากผู้ฝากขายซึ่งมีหน้าที่เป็นตัวแทนในการขายสินค้าให้กับทางผู้รับฝากขาย โดยค่า GP นั้นจะเป็นไปตามข้อตกลงระหว่าง ผู้ฝากขายกับผู้รับฝากขายสินค้าในตอนแรก
4.ค่าตอบแทนจากการเช่าพื้นที่ในการฝากขาย
ผู้ฝากขายจะได้รับค่าเช่าพื้นที่เชลฟ์ซึ่งเป็นค่าเช่าพื้นที่ในร้านโดยการฝากขายแต่ละครั้ง ค่าเช่าพื้นที่ในการฝากขายสินค้า จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะเป็นไปตามข้อตกลงหรือสัญญาระหว่าง ผู้ฝากขายกับผู้รับฝากขายสินค้า
ดังนั้นก่อนจะรับฝากขายสินค้าทั้งทีการทำธุรกิจนั้นจำเป็นต้องมีการเตรียมตัวล่วงหน้า การฝากขายสินค้าก็เช่นเดียวกัน เพื่อลดปัญหาต่าง ๆ ที่อาจตามมาในภายหลัง เจ้าของกิจการจึงต้องมีการวางแผนที่ดีและรอบคอบก่อน
“รับฝากขายสินค้า”
น้องมัลตี้จะมาบอก 5 เคล็ดลับ สิ่งที่ควรเตรียมตัวก่อน การรับฝากขายสินค้า ทั้งทีควรเตรียมอะไรบ้าง ถ้าไม่อยากให้เกิดปัญหายุ่งยาก
1.วางคอนเซ็ปต์ของร้านให้น่าสนใจ
สิ่งแรกที่ควรทำก่อนจะเริ่มต้นรับฝากขายสินค้า คือ การคิดวางคอนเซ็ปต์ของร้านค้า การวางคอนเซ็ปต์ของร้านค้า ที่ชัดเจนและน่าสนใจจะทำให้คุณทราบถึงกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน และสามารถเลือกแบรนด์ที่มีสไตล์เหมาะสมกับร้านได้ ในยุคนี้การที่ร้านสร้างคอนเซ็ปต์เป็นของตัวเองให้มีความแตกต่าง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนใคร จะทำให้ง่ายต่อการจดจำและสามารถดึงดูดลูกค้าให้มาสนใจได้ ดังนั้นจึงควรสร้างคอนเซ็ปต์ร้านตั้งแต่สไตล์การตกแต่ง ออกแบบร้าน และการเลือกบรรยากาศให้เหมาะสมกับคอนเซ็ปต์ที่ตั้งไว้ ซึ่งจะช่วยให้ง่ายต่อการวางแผนในขั้นตอนอื่น ๆ อีกด้วย
2.พิจารณาทำเลที่เหมาะสม
การพิจารณาทำเลที่เหมาะสม แน่นอนว่าเป็นที่สำคัญไม่แพ้กัน การเปิดร้านที่ดี ควรมองหาทำเลที่เดินทางสะดวกสบายเข้าถึงง่าย ไม่ยุ่งยากและมีที่จอดรถเพียงพอต่อลูกค้า ที่สำคัญคือต้องพิจารณาทำเลที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายด้วย ตัวอย่างเช่น ร้านค้าประเภทแฟชั่น เน้นเสื้อผ้า everyday look บริเวณสถานศึกษาจะสามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่เป็น นักเรียน นักศึกษาได้มากกว่าแหล่งอื่น ๆ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามร้านควรศึกษาก่อนว่าบริเวณนั้น มีคู่แข่งมาก-น้อย เพียงใด จะช่วยให้เราพิจารณาทำเลที่เหมาะสมก่อนเปิดร้านรับฝากขายสินค้า
3.เลือกแบรนด์เพื่อรับฝากขายสินค้า
แน่นอนว่าถ้าไม่อยากให้เกิดปัญหายุ่งยาก เราควรจะเลือกแบรนด์ที่เหมาะสมก่อนรับฝากขายสินค้า การเลือกแบรนด์สินค้าที่จะนำมาวางขายควรคำนึงถึงแบรนด์สินค้าที่มีคอนเซ็ปต์ตรงกับร้านของเรา รวมถึงการเลือกแบรนด์ที่มีประสิทธิภาพและมีความน่าเชื่อถือ มีกำลังการผลิตสินค้าที่เพียงพอ เพราะหากมีจำนวนสินค้าที่น้อยเกินไป อาจทำให้ร้านค้าขาดรายได้ ดังนั้นควรเลือกแบรนด์ที่สินค้ามีคุณภาพได้มาตรฐาน ก่อนเลือกจึงควรเช็คอย่างละเอียดถี่ถ้วนอยู่เสมอ
4.มีแผนการตลาดที่ชัดเจน
ก่อนรับฝากขายสินค้านั้น การที่มีแผนการตลาดที่ชัดเจนและเหมาะสมกับร้านค้าเป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เช่นกัน ร้านส่วนใหญ่มักจะทำพลาดในเรื่องการกำหนดกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน และการกำหนดงบประมาณ ซึ่งควรมีการวางแผนล่วงหน้าที่ชัดเจนและกำหนดรูปแบบของสื่อให้เหมาะสม ทำคอนเทนต์แบบไหน เช่น การสร้างคอนเทนต์ให้เกาะกระแสตามเทรนด์อยู่เสมอ และวางแผนทำโพสต์ประจำ เป็นต้น รวมถึงการจัดโปรโมชั่น แพลตฟอร์มไหนที่ลูกค้าซื้อสินค้ามากที่สุด ดังนั้นต้องมีการจัดสรรงบประมาณด้านต่าง ๆ ให้มีความเหมาะสมในระยะยาว การวางแผนการตลาดจึงควรทำเป็นแผนประจำวัน เดือน หรือปี และกำหนดเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนของแต่ละคอนเทนต์ให้ชัดเจน
5.การวางผังร้านค้าให้น่าสนใจ
การวางแผนผังร้านให้ดึงดูดลูกค้าและน่าสนใจ อาจจะเป็นสิ่งที่เจ้าของกิจการมักจะมองข้ามไปในส่วนนี้ การวางผังร้านที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี จะสามารถเปลี่ยนเป็นจำนวนลูกค้าที่เดินเข้ามาใช้บริการยังร้านได้ ซึ่งแผนผังการออกแบบร้านที่ได้รับความนิยมมาก คือ แผนผังร้านแบบผสมผสาน ร้านค้าสามารถปรับเปลี่ยนผังร้านหลาย ๆ แบบมาผสมผสานกัน เพื่อออกแบบให้มีความเหมาะสมกับร้านค้าของคุณ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องใช้การวางผังแบบเดียวในร้านก็ได้ คุณจะเห็นได้ว่าร้านรับฝากขายสินค้าหลายแห่งจะเน้นการวางผังแบบผสมผสานอยู่หลายร้านเลยทีเดียว
ก่อนรับฝากขายสินค้า นอกจากการวางผังร้านที่เจ๋งแล้วการจัดเรียงสินค้าก็จำเป็นไม่แพ้กัน การจัดเรียงสินค้าที่ดีต้องคำนึงถึงความสะดวกสบายของลูกค้าในการเลือกซื้อสินค้าแต่ละกลุ่มให้มีความต่อเนื่องกัน เป็นการใช้พื้นที่แต่ละชั้นวางให้เกิดประโยชน์ และสามารถตรวจสอบปริมาณสินค้าคงเหลือได้ง่าย ๆ อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสในการขายให้กับร้านค้า
จาก 5 ไอเดียที่เราได้เสนอไป เป็นเพียงแค่แนวทางในการเตรียมตัวก่อนรับฝากขายสินค้าร้านค้าให้พร้อมเท่านั้น นอกจากมีการเตรียมตัวที่ดี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากวนใจแล้ว การมีระบบจัดการหน้าร้านที่มีประสิทธิภาพกับร้านค้า ก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน
สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่มีหน้าร้านและกำลังมองหาแพลตฟอร์มจัดการหน้าร้านที่ตอบโจทย์ทุกการขาย น้องมัลตี้ขอแนะนำ! MultiOne Platform ระบบจัดการหน้าร้านที่จะช่วยให้การขายของคุณเป็นเรื่องง่าย และสะดวก
สมัครด่วนตอนนี้ ไม่ว่าจะรับฝากขายสินค้าจากแบรนด์ไหน ก็จัดการได้ไม่ยาก
บทความแนะนำ
แพลตฟอร์มระบบจัดการร้านมัลติแบรนด์ ร้านค้าปลีก และร้านค้ารับฝากขายสินค้าจากหลายแบรนด์ ที่จะมาช่วยให้การจัดการร้านค้าสะดวกสบายขึ้น ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากหลายขั้นตอน ลดความผิดพลาดการจัดการสินค้า เพิ่มรายได้ และประเภทของสินค้าภายในร้าน จากการรับฝากขายสินค้าจากแบรนด์ดังในระบบ
แหล่งพบปะของร้านค้าออนไลน์ และออฟไลน์ พาร์ทเนอร์ที่ช่วยให้คุณขายได้มากขึ้น ผ่านการฝากขายยุคใหม่
การันตีด้วยพาร์ทเนอร์ร้านค้าดัง ขายดีที่ใช้ระบบมากกว่า 30 ร้านค้า และแบรนด์ดังที่ฝากขายผ่านระบบมากกว่า 2,000 แบรนด์
ระบบฟังก์ชันหลักสำหรับร้านค้าพาร์ทเนอร์ของ MultiOne ที่ช่วยให้การบริหารจัดการร้านค้าเป็นเรื่องง่าย
- ระบบ POS แคชเชียร์และจัดการร้านค้าใช้งานง่าย
- จัดการสต็อกสินค้า แยกรายแบรนด์ เช็คสะดวก
- ร้านจัดการส่วนลด โปรโมชั่นร่วมกับแบรนด์ได้หลากหลาย
- ออกบาร์โค้ด เชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องยิงบาร์โค้ด
- มีระบบการใช้งานสำหรับพนักงาน
- ออกเอกสารทางบัญชี
- ระบบ Import Export ข้อมูล
- จัดการข้อมูลลูกค้า และสินค้า
- ระบบวิเคราะห์ข้อมูลยอดขายรายวัน รายเดือน แยกรายแบรนด์
- วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและช่องทางจำหน่าย
และเรายังมีฟังก์ชันอีกมากมายสำหรับแบรนด์สินค้าที่มาลงฝากขาย ด้วยระบบที่ออกแบบมาให้ร้านค้าเจอกับแบรนด์ง่ายขึ้น ลดขั้นตอนการส่ง เช็ค และจัดการสินค้าฝากขาย ร้านค้าสามารถเลือกพาร์ทเนอร์ที่เหมาะสมกับหน้าร้านของคุณได้ง่าย ๆ ผ่านระบบบนแพลตฟอร์มของเรา
สนใจเป็นร้านค้าพาร์ทเนอร์ คลิกที่นี่
สนใจลงฝากขายสินค้า คลิกที่นี่
หรือ INBOX สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยที่ MultiOne